‘วราวุธ’ แจงดราม่าเบลอภาพถุงพลาสติก ไม่ต่างเซนเซอร์ บุหรี่-เหล้า ตั้งเป้า 63 ปีลดมลพิษ

‘วราวุธ’ แจงดราม่าเบลอภาพถุงพลาสติก ชี้ ไม่ต่างเซนเซอร์ บุหรี่-เหล้า ตั้งเป้า 63 ปีลดมลพิษไทย

เมื่อเวลา 09.50 น. วันที่ 3 มกราคม ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีโลกออนไลน์มีประเด็นดราม่าวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับการรณรงค์งดใช้ถุงพลาสติกผ่านสื่อโทรทัศน์ด้วยการเบลอภาพพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้งในรายการโทรทัศน์ ว่า การที่สถานีโทรทัศน์แต่ละแห่งจะดำเนินการอย่างไร ก็ขึ้นอยู่กับสถานีนั้น เพียงแต่ว่าเมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2562 มี 8 สถานีโทรทัศน์ ทั้งของภาครัฐและภาคเอกชน ได้แสดงความจำนงให้ความร่วมมือลดปริมาณการใช้ถุงพลาสติก หากเราย้อนกลับไป การเบลอถุงพลาสติกนั้น ก็ไม่ต่างจากการเบลอภาพบุหรี่ สุรา หรือปืน แต่วันนี้พอมาพูดถึงการเบลอถุงพลาสติกก็ต้องมองอีกมุมหนึ่งว่าไม่สามารถลดได้ แต่อย่างน้อยการดราม่าทำให้สังคมรับรู้ว่าเมื่อวันที่ 1 มกราคมที่ผ่านมาประเทศไทยเลิกใช้ถุงพลาสติก และสังคมไทยโดยเฉพาะในโลกออนไลน์ การที่จะติติงหรือการทำอะไรแล้วเกิดการดราม่าเป็นเรื่องที่ง่าย แต่อยากจะฝากถึงประชาชนที่อยู่ในโลกแห่งความเป็นจริง และโลกออนไลน์ว่า อยากให้ดูถึงเจตนารมณ์ของสถานีโทรทัศน์ต่างๆ ว่าเขามีเจตนาดีที่อยากจะแสดงให้สังคมเห็นว่าถึงเวลาแล้วที่เราจะลด เลิก การใช้ถุงพลาสติก

เมื่อถามว่า มีประชาชนที่ยังไม่ทราบแล้วไม่เตรียมตัวนำอุปกรณ์อย่างอื่น เช่น กระสอบ ถุงปุ๋ย ถังไปใส่แทนถุงผ้า นายวราวุธ กล่าวว่า ตนเห็นภาพแล้ว ไม่ว่าจะเป็นกระโถน ถังน้ำ รถซาเล้ง หรือรถขนปูน สิ่งเหล่านี้เป็นอะไรที่สร้างสรรค์ สร้างรอยยิ้ม ต้องขอบคุณประชาชนคนไทยที่มีอารมณ์ขัน แฝงด้วยความที่รักในสิ่งแวดล้อมของประเทศไทย เพราะวันนี้สิ่งที่เราจะนำมาใส่สินค้า แน่นอนว่าการที่จะหาอะไรมาแทนถุงพลาสติกไม่ใช่เรื่องง่าย แต่เมื่อถึงจุดหนึ่งเมื่อไม่มีแล้ว ตนเชื่อว่าทุกคนจะดิ้นรน หาอะไรมา เช่น ถุงข้าวสาร กระสอบปุ๋ย หรืออะไรมาก็ได้ เพราะในเมื่อไม่มีถุงพลาสติกแล้ว ท้ายที่สุดแล้วไม่เกินฝีมือคนไทยที่จะหาทุกอย่างมาใส่ได้ เพราะคนไทยเก่งและไม่แพ้ชาติใดที่จะปรับตัว เพียงแค่ผ่านไป 3 วันเราก็เห็นนวัตกรรมใหม่ๆ เช่น การนำเอาชั้นตากเนื้อแดดเดียวมาใส่สิ่งของ

เมื่อถามถึงกรณีมีการตั้งโรงงานขยะพิษที่เป็นของประเทศจีนกว่าพันโรงงานในประเทศไทย นายวราวุธ กล่าวว่า ปัจจุบันการนำเข้าขยะไม่ว่าเป็นพลาสติกหรืออิเล็กทรอนิกส์เป็นปัญหาสำคัญของประเทศไทย วันนี้ประชาชนทำอย่างเต็มที่แล้วที่จะลดปริมาณการใช้พลาสติก แต่กลายเป็นว่ามีการนำเอาขยะเหล่านี้เข้ามาในประเทศ จนมีการวิพากษ์วิจารณ์ในโซเชียล ตนขอน้อมรับไว้ และไม่ขอแก้ตัวว่าเป็นบทบาทหน้าที่ของกรม หรือกระทรวงใด ทั้งนี้ กระทรวงจะมีการเร่งประชุมเรื่องดังกล่าวเพื่อหยุดการนำเข้าขยะพิษและขยะอิเล็กทรอนิกส์ แม้บางฝ่ายจะอ้างว่าการนำเข้าเพื่อรีไซเคิล แต่เป็นการนำขยะเข้ามาทิ้งในบ้านเรา ประเทศไทยไม่ใช่ถังขยะของบ้านอื่น ฉะนั้นต้องเร่งดำเนินการเรื่องนี้โดยด่วน

“การตั้งโรงงานเราไม่อยากจะไปโบ้ยว่าเป็นความรับผิดชอบของกระทรวงอื่น แต่เราจะทำให้ดีที่สุดไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ เพราะผมตั้งปณิธานเอาไว้ว่าปี 2563 จะเป็นปีแห่งการลดมลพิษของประเทศไทย และผมจะทำให้ดีที่สุด ส่วนได้พูดคุยกับกระทรวงอุตสาหกรรมหรือไม่นั้น เรื่องการหารือข้ามหน่วยงานมีการพูดคุยกันแน่นอน ส่วนการตั้งโรงงานต่างๆ ที่จะให้เศรษฐกิจบ้านเราพัฒนาไปข้างหน้าเราก็สนับสนุน แต่ทุกโรงงานต้องมีการบำบัดของเสีย ส่งเสริมการดูแลสิ่งแวดล้อม” นายวราวุธ กล่าว

Advertisement

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image