เฉลิม ลั่น มวยยกแรกเริ่มแล้ว หลังตรุษจีนฝ่ายค้านลุยซักฟอก ซัด รบ.ปากกล้าขาสั่น มาห้ามพูดเรื่องเก่า ชี้ขึ้นอยู่กับ “ชวน” ขออุบชื่อ กลัวขุนพลโดนทุบหัว ฮึ่ม เป็นปชต. ต้องเลิกเกเรได้แล้ว
เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 3 มกราคม ที่พรรคเพื่อไทย มีการประชุมคณะกรรมการกิจการพิเศษ (กพศ.) พรรคเพื่อไทย ที่มีร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง เป็นประธาน เพื่อเตรียมการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา โดย ร.ต.อ.เฉลิม แถลงว่า เบื้องต้นที่คณะกรรมการฯ ได้กำหนดตัวรัฐมนตรีที่จะถูกอภิปรายไว้วางใจ 5 คนนั้น จากการหารือจะเสนอนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ให้นำไปหารือกับพรรคร่วมฝ่ายค้านอีก 6 พรรคว่า จะเพิ่มเติมรัฐมนตรีท่านอื่นอีกหรือไม่ หากมีตนไม่ขัดข้องถือว่า เป็นสิทธิอย่างชอบธรรมในการทำงานร่วมกัน แม้แต่คณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย หากมีข้อมูลและตัวบุคคลไว้ส่วนหนึ่งแล้ว ตนก็ไม่ขัดข้อง โดยขณะนี้กพศ.มีความพร้อม 100% ส.ส.ผู้ที่จะอภิปรายพร้อม พยานหลักฐานพร้อม ยืนยันว่า จะไม่ทำให้พี่น้องประชาชนผิดหวัง แต่ขอยังไม่เปิดเผยชื่อผู้อภิปราย เพราะรัฐบาลนี้ต่อเนื่องมาจากคสช. ที่มีนิสัยเกเร ใครเห็นต่างหัว ปากแตก ถูกทุบรถ และยังไม่สามารถจับใครได้เลย แต่เบื้องต้นฝ่ายค้านจะวางผู้อภิปรายไว้ 25 คนขาดเกินไม่เยอะ ส่วนวันเวลาในการเปิดอภิปรายนั้น ตนอยากให้พ้นเทศกาลตรุษจีนไปก่อน อยากให้คนจีนสนใจเยอะๆ
ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวต่อว่า ส่วนกรณี พล.อ.ประยุทธ์ ออกมาระบุว่า รัฐบาลเพิ่งทำงานได้ 5 เดือน ไม่ควรอภิปรายเรื่องเก่านั้น ตนไม่คัดค้าน แต่ไม่เห็นด้วย เพราะรัฐบาลชุดนี้ทำงานต่อเนื่องมาโดยตลอด ไม่เคยถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจ เพราะมีผู้นำปฏิวัติเป็นนายกฯ นายกฯมีม.44 มีสนช.ในสภา แล้วใครจะกล้า ดังนั้น อย่ามากำหนดว่า อะไรควรไม่ควรพูด เพราะเรื่องอยู่ที่นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร อย่ามาพูดว่า ฝ่ายค้านเล่นการเมืองจนทำให้สับสน การออกมาพูดจากแบบถือว่า รัฐบาลกินยาผิดซองแล้ว พวกคุณไม่มีหน้าที่กำหนด อย่างนี้เรียกว่า ปากกล้าขาสั่น ทั้งๆที่พวกคุณหมดเวลาแล้วพอเถอะ วันนี้ ไม่มีใครกลัวใคร แล้วเลิกคิดที่จะไปตีหัวใครเถอะ วันนี้ประเทศเป็นประชาธิปไตยแล้ว อย่าเข้าใจผิดนะ ตนไม่ได้อภิปรายนะ ดังนั้น อย่าไปคุกคามตน ส่วนกรณีที่เปิดข้อมูลการซื้อขายที่ดินครอบครัวของพล.อ.ประยุทธ์ ย่านบางบอนนั้น ตนไม่สามารถพูดได้ว่า จะโยงไปถึงทำให้พล.อ.ประยุทธ์มีตำหนิหรือไม่ แต่ตนยืนยันว่า มวยยกแรกเริ่มขึ้นแล้ว ส่วนรายละเอียดมีผู้ที่จะอภิปรายแล้ว ตนมาพูดมาก เดี๋ยวรสชาติไม่มี วันนี้ตนจั่วหัวให้แล้ว พรรคต้องเดินต่อ เพราะตนเป็นแค่กองหนุน
เมื่อถามว่า มั่นใจแค่ไหนว่า จะอภิปรายย้อนไปในสมัยรัฐบาลคสช. ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ถามว่า หากนายชวนอนุญาตรัฐบาลจะทำอย่างไร นอกจากยืนขึ้นแล้วขอไม่ตอบ ไม่ตอบก็เรื่องของคุณ ส่วนประเด็นในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ยังไม่ขอบอก เพราะต้องรออีก 6 พรรคร่วมด้วย แต่ตนมั่นใจว่า หลังจากอภิปรายไม่ไว้วางใจ จะทำให้กระแสสังคมเบื่อนายกฯและรัฐบาล จนคนชิงชังว่า มีเรื่องมีราวกันถึงขนาดเชียวหรือ ส่วนล้มรัฐบาลได้หรือไม่นั้น ขอถามกลับว่า มีสมัยไหนที่เขาโหวตล้มกันเอง ไม่มีหรอก แต่ครั้งนี้ตนทายใจส.ส.ไม่ออก ถ้าข้อมูลฝ่ายค้านไหลมากๆ ส.ส.ก็อาจรักบ้านรักเมือง ไม่เอาด้วยกับรัฐบาลแล้วก็เป็นได้ แต่ฝ่ายเรา โดยเฉพาะพรรคเพื่อไทยนั้น อาจเป็นข่าวที่รัฐบาลไอโอก็ได้ เขาทำเก่งว่า เรามีงูเห่าเยอะ แต่ตนไม่เชื่อ เพราะส.ส.มีคุณธรรม จริยธรรม มีคุณภาพ แต่ตนอยู่มานานเชื่อมั่นพวกเรากันมากกว่า ส่วนจะส่งนายวัน อยู่บำรุง ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย บุตรชายเป็นตัวแทนในการอภิปรายหรือไม่ เป็นสิทธิ แต่ในใจตนมองว่า พรรษายังไม่ถึง ยังมีอีกอภิปรายไม่ไว้วางใจอีกหลาย ยังมีเวลา
ด้าน นายภูมิธรรม เวชยชัย ที่ปรึกษาผู้นำฝ่ายค้าน ในฐานะรองประธานคณะกรรมการกพศ. กล่าวว่า คงได้มีการหารือกับอีก 6 พรรคร่วมฝ่ายค้านในสัปดาห์หน้าเพื่อสรุปข้อมูล และตัวบุคคลที่จะอภิปราย เพราะพรรคฝ่ายค้านจะอภิปรายไม่ไว้วางใจโดยคำนึงถึงผลประโยชน์ประเทศเป็นหลัก ไม่เลอะเทอะไม่กระจัดกระจาย แต่ต้องการชี้ให้ประชาชนเห็นถึงความไม่เหมาะสมถึงความไร้ประสิทธิภาพของตัวรัฐบาล ส่วนกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยยุบพรรคอนาคตใหม่หรือไม่ จะส่งผลกระทบต่อการวางตัวผู้ที่อภิปรายหรือไม่นั้น อย่าเพิ่งไปพูดถึงเรื่องอนาคต เพราะเป็นเรื่องของอนาคตใหม่จะพิจารณา แต่มั่นใจว่า พรรคฝ่ายค้านจะร่วมมือกันอย่างดีทั้ง 7 พรรค แม้แต่พรรคเศรษฐกิจใหม่ด้วย
