ยิ่งเนิ่นยาว กรณี”วัดพระธรรมกาย” จะยิ่งกลายเป็น “เผือกร้อน”มากด้วยความล่อแหลม
ไม่เพียงแต่ “ดีเอสไอ” จะร้อน
ไม่เพียงแต่ พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา เจ้ากระทรวงของ”ดีเอสไอ” จะร้อน
หากทำท่าว่า นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ ก็ร้อน
เพราะว่า นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีที่กำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(พศ.)
เมื่อ นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ ร้อน มีหรือที่ นายวิษณุ เครือ งาม จะไม่ร้อนไปด้วย
เพราะเป็น “รองนายกรัฐมนตรี”
และเป็นรองนายกรัฐมนตรีซึ่งกำกับ นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ อีกทอด 1 ในงานอันเกี่ยวกับพศ.
“ร้อน” กันเป็น “ลูกระนาด”
ในฐานะที่ นายวิษณุ เครืองาม เป็น”มือกฎหมาย” ในฐานะที่ นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ เป็น “มือข่าวกรอง”
ลองเอาหัวชนกันร่วม”วิเคราะห์”
รู้สึกหรือไม่ว่า “เผือกร้อน” อันว่าด้วย “วัดพระธรรมกาย”เกี่ยวโยงอย่างไร
1 โยงไปเรื่องการสถาปนาสมเด็จพระสังฆราชองค์ใหม่
1 โยงไปเรื่องการตรวจสอบพระเถระผู้ใหญ่อย่างน้อยก็ 2 ท่านให้กลายเป็น “ประเด็น”
นั่นก็คือ สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์
นั่นก็คือ พระเทพญาณมหามุนี
จนป่านนี้ก็ยังไม่มีการสถาปนาสมเด็จพระสังฆราชองค์ใหม่ และจนป่านนี้ก็ยังไม่สามารถจับกุมพระเทพญาณมหามุนีได้
ไม่มีใครตอบได้ว่าจะ”จบ”อย่างไร
ต้องยอมรับว่ากรณีอันเกี่ยวกับ สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ คาราคาซังมานาน
เพราะมหาเถรสมาคมมีมติตั้งแต่เมื่อเดือนมกราคม
จากเดือนมกราคมกระทั่งถึงเดือนมิถุนายน “แฟ้ม”ยังอยู่ที่สำ นักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(พศ.)
แล้วก็เกิดการตรวจสอบ”รถโบราณ”
แล้วก็เกิดคดีฟอกเงินและรับของโจรกับ พระเทพญาณมหามุนี
กระทั่งมี “หมายจับ”ในวันที่ 16 พฤษภาคม
กระทั่งมี “หมายค้น”ในวันที่ 16 มิถุนายน
กระทั่งนำไปสู่ข่าวลือว่าอาจจะมีการย้าย นายพนม ศรศิลป์ ออกจากตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(พศ.)
โดยไม่แน่ว่าจะจับ พระเทพญาณมหามุนี ได้เมื่อใด
โดยกรมสอบสวนคดีพิเศษก็กำลังมองหา”แพะ”ตัวใหม่มาเชือดรอ พระเทพญาณมหามุนี ไปพลางๆ
