เดินหน้าชน : ซ้อมใหญ่ก่อนซักฟอก : โดย ศุกร์ มังกร

ญัตติพิจารณา พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2563 วงเงิน 3.2 ล้านล้านบาท ที่สภา
ผู้แทนราษฎรได้นัดประชุม ในวันที่ 8-9 มกราคมนี้

ในชั้นกรรมาธิการวิสามัญฯที่มี นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธาน ได้จัดทำรายงาน เสนอข้อสังเกตต่อการจัดสรรงบประมาณในภาพ
รวมและรายกระทรวงไว้แล้ว

หนึ่งในนั้นคือ กระทรวงกลาโหม ที่มีการตั้งข้อสังเกตไว้ถึง 9 ข้อ อาทิ

หนึ่ง ควรให้ความสำคัญกับการดูแลสวัสดิการของทหารผ่านศึกและครอบครัวและทหารนอกประจำการ

Advertisement

หนึ่ง ควรให้ความสำคัญกับกำลังพลในเชิงคุณภาพมากกว่าปริมาณ โดยควรใช้วิธีการรับสมัครแทนการเกณฑ์ทหาร

หนึ่ง กองบัญชาการกองทัพไทย ควรปรับปรุงหลักสูตรของวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักรให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน ซึ่งเปลี่ยนเป็นสงครามด้านเศรษฐกิจที่เน้นความอยู่ดีกินดีของประชาชนเป็นหลัก

หนึ่ง กองทัพอากาศ ควรทำหน้าที่กำกับและกำหนดมาตรการควบคุมการใช้อากาศยานไร้คนขับให้ครอบคลุม

Advertisement

โดยคำนึงถึงทั้งทางด้านความมั่นคงและสิทธิของประชาชน

หนึ่ง กรณีการตั้งของบประมาณเพื่อจัดซื้อเรือดำน้ำของกองทัพเรือ ซึ่งเป็นการใช้จ่ายงบประมาณค่อนข้างสูง

ควรจัดซื้อเพื่อความจำเป็นต่อภารกิจอย่างแท้จริง โดยต้องชี้แจง แสดงเหตุผลทำความเข้าใจต่อประชาชนได้ เป็นต้น

นี่เป็นข้อท้วงติง เสนอแนะ!

ที่รัฐบาลจะต้องชี้แจง ให้ประชาชนเกิดความคล้อยตามได้อย่างไร?

อย่าลืมว่า 5-6 ปีที่ผ่านมานั้น การตรวจสอบการใช้งบไม่ค่อยเข้มข้น ลงลึกในรายละเอียดมากนัก

เพราะรู้ๆ กันอยู่เป็นการกระทำตาม “พิธีกรรม” เท่านั้น

และกองทัพเองก็เป็นเสาค้ำยันให้กับรัฐบาลมาโดยตลอดตั้งแต่ยุค คสช.เป็นต้นมา

แต่การตั้งข้อสังเกตกระทรวงกลาโหมภายใต้การควบคุมดูแลของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา โดยตรง จะนำไปสู่การอภิปรายลักษณะ “เปิดแผล” ความไม่ชอบมาพากลในการใช้งบที่ไม่จำเป็น

ซึ่งเป็นเรื่องของ ส.ส.กับรัฐมนตรี ที่จะต้องชี้แจง ข้อซักถาม เหตุผลความจำเป็นในสภาล้วนๆ

ดังนั้น การพิจารณา พ.ร.บ.งบ ที่จะแปรญัตติในวาระ 2-3 ที่กำหนดไว้ในวันที่ 8-9 มกราคมนี้ จะเป็นเวทีซ้อมใหญ่ของพรรคร่วมฝ่ายค้าน

โดยเฉพาะ “ตัวจี๊ด” ที่ทำการบ้าน เก็บข้อมูลละเอียดยิบ อาจซักถาม ถามหาหลักฐานเกี่ยวกับการใช้งบที่ผ่านมาด้วย

เกมนี้เป็นเพียงทำลายความเชื่อมั่นรัฐบาลเท่านั้น!?

ทว่าการอภิปรายงบอาจลากโยงถึงการบริหารงานที่ผ่านมาของ “บิ๊กตู่” ด้วย

ไม่ว่าจะเป็นมาตรฐานการบังคับใช้กฎหมาย มีความเสมอภาค เท่าเทียมกันหรือไม่?

โดยเฉพาะกรณีสายล่อฟ้าอย่าง “ปารีณา ไกรคุปต์” !

หรือปัญหาเศรษฐกิจปากท้องที่กระทบเป็นวงกว้าง เงินบาทแข็งค่า ส่งผลกระทบต่อการส่งออกที่ติดลบ ฉุดจีดีพีของประเทศให้ลดลงด้วย

รวมถึงผลโพลคะแนนนิยมในตัว “บิ๊กตู่” ที่ลดน้อยถอยลงไป อาจถูกหยิบยกขึ้นมาดิสเครดิตในการอภิปรายงบไปด้วย เพื่อตอกย้ำการบริหารประเทศที่ไร้ฝีมือ

สะท้อนภาพ “ขยัน” แต่..?!

ดังนั้น แม้ว่า พ.ร.บ.งบจะผ่านสภาไปแบบไหนก็ตาม ทว่าจะคงทิ้งร่องรอย บาดแผล ความไม่ชอบมาพากลให้สังคมได้รับรู้

นี่เป็นเพียงเกมใหม่ที่ “บิ๊กตู่” จะได้สัมผัสรับรู้!

ก่อนเข้าสู่โหมด “สงครามการเมือง” ซักฟอกไม่ไว้วางใจเต็มรูปแบบในเดือนกุมภาพันธ์ที่จะถึงนี้

ส่วนผลจะออกมาอย่างไรต้องติดตาม!?!

ศุกร์ มังกร

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image