การเปลี่ยน “รองนายกรัฐมนตรี” ที่กำกับนโยบายประมงจาก นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ เป็น พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ อย่างเงียบเชียบ เมื่อวันที่ 2 มกราคม
เหมือนกับเป็นเรื่องธรรมดา แต่ก็ดำเนินไปอย่างไม่ธรรมดาอย่าง ยิ่งยวดในทางการเมือง
1 เพราะงานนี้เป็นงานของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
ขณะเดียวกัน 1 เพราะงานของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็น ความรับผิดชอบของพรรคประชาธิปัตย์ มิได้เป็นความรับผิดชอบของ พรรคพลังประชารัฐ
การที่นายกรัฐมนตรีเปลี่ยนอย่างกะทันหันโดยที่พรรคประชาธิปัตย์ก็ยอมรับอย่างดุษณียภาพ
นับเป็นเรื่องที่ควรศึกษาอย่างเป็นพิเศษ
ที่ถามว่าเป็นปฏิบัติการกะทันหันเพราะว่าเป็นความริเริ่มอันมาจาก นายกรัฐมนตรี มิได้เป็นความริเริ่มอันมาจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
หากฟังจาก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ คล้ายเป็นเรื่องปรกติและธรรมดา
เพราะ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เคยรับผิดชอบมาก่อน
แต่ภายในคำแถลงของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ จุดหนึ่งก็คือจำเป็นต้องหวนกลับไปดูแลอีกครั้งเพราะว่าหากไม่ทำเช่นนั้นอาจถูกใบสั่งจากสหภาพยุโรป
เป็นใบสั่งลงโทษหลังจากเคยได้รับคำชมเชย
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
คำถามที่ไม่ควรมองข้ามก็คือ หลังจากอยู่ในมือของพรรคประชาธิปัตย์กระทั่งถึงเดือนมกราคมมีอะไรเกิดขึ้นรุนแรง
รุนแรงกระทั่งต้องให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ มาจัดการ
ความเงียบเชียบของพรรคประชาธิปัตย์ในอีกด้านหนึ่งจึงเป็นความ เงียบเชียบอันเข้าลักษณะยอมรับและยอมจำนนต่อการรุกคืบเข้ามาของนายกรัฐมนตรีและ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ
เราเห็นเพียงความหงุดหงิดที่หลายคนในพรรคประชาธิปัตย์เอ่ย ถึงการดำรงตำแหน่ง ส.ว.ของ 6 ผบ.เหล่าทัพ
แต่ไม่มีใครเอ่ยถึงกรณีการเปลี่ยนคนรับผิดชอบเรื่อง”ประมง”
ไม่ว่าจะจาก นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรี ไม่ว่าจะจาก นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ
หัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์