‘บิ๊กตู่’ มอบโอวาทเด็กเยาวชนดีเด่น ย้ำอย่ายึดสิทธิเสรีภาพอย่างเดียว ทำประเทศชาติเสียหาย

“บิ๊กตู่” มอบโอวาทเด็กเยาวชนดีเด่น สร้างชื่อเสียงประเทศ ย้ำอย่ายึดแต่สิทธิเสรีภาพอย่างเดียว ทำประเทศชาติเสียหาย

เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 8 มกราคม ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) นำเด็กและเยาวชนดีเด่นและนำชื่อเสียงให้กับประเทศที่ได้รับการคัดเลือกจากทุกสังกัดทั่วประเทศ จำนวน 946 คน เนื่องในวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2563 เข้าเยี่ยมคารวะ รับมอบโล่รางวัล และรับโอวาทจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม (กห.) เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนให้เด็กและเยาวชนได้กระทำความดี เป็นแบบอย่างที่ดีให้แก่เด็กและเยาวชนในอนาคต และเพื่อกระตุ้นให้ตระหนักถึงบทบาทสำคัญ ตลอดจนปลูกฝังให้มีส่วนร่วมในสังคม มีความสามัคคี เป็นกำลังสำคัญของชาติ ตามคำขวัญวันเด็ก ประจำปี 2563 “เด็กไทยยุคใหม่ รู้รักสามัคคี รู้หน้าที่พลเมือง” โดยผู้แทนเด็กและเยาวชนดีเด่นได้มอบพวงมาลัยข้อมือให้แก่นายกรัฐมนตรี จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์กล่าวให้โอวาทแก่เด็กและเยาวชนว่า ขอเป็นกำลังใจให้มีการพัฒนาคนยิ่งขึ้น เพื่ออนาคตและเกียรติประวัติตนเอง โดยรัฐบาลได้ให้ความสำคัญแก่เด็กและเยาวชนมาก เพราะถือเป็นทรัพยากรที่มีค่าของประเทศ ในฐานะกำลังสำคัญของชาติต้องเตรียมความพร้อมโดยรัฐบาลมีนโยบายส่งเสริมมีความรู้คู่คุณธรรม คือต้องรู้ว่าสิ่งใดดีก็ทำ สิ่งที่ไม่ดีก็ไม่ควรทำ รวมถึงจริยธรรม ย้ำว่ารัฐบาลดูแลทุกคนทุกกลุ่มทุกฝ่าย ขอทุกคนใฝ่รู้ใฝ่เรียนและรู้จักเวลาว่า วันหนึ่งควรทำอะไรบ้างอย่าใช้เวลาไปเปล่าประโยชน์ ตนเข้าใจว่าเด็กต้องใช้เวลาสนุกสนานบ้าง แต่อย่าใช้เวลาเป็นเล่นไปหมด ต้องจัดเวลาให้เหมาะสม เวลาเรียน พักผ่อน นอนให้เพียงพอ เพื่อสุขภาพที่แข็งแรงในอนาคต ทุกคนต้องทำให้ตัวเองมีความสุข โดยขอให้ประพฤติปฏิบัติตนตั้งมั่นอยู่ในความดี มีสำนึกรักชาติบ้านเมืองและรักษาวัฒนธรรมประจำชาติ และทำสิ่งเหล่านี้ให้มีค่าในสังคม สิ่งสำคัญคือคนในชาติ ตามคำขวัญที่ตนได้คิดและให้ไว้ คือ เด็กไทยยุคใหม่ รู้รักสามัคคี รู้หน้าที่พลเมืองไทย พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ทั้งนี้ อยากให้ทุกคนนำไปสู่การปฏิบัติให้ได้ โดยหน้าที่คู่กับคำว่าสิทธิ ทุกคนมีสิทธิในการเป็นพลเมืองไทย แต่ต้องคำนึงถึงคำว่าหน้าที่ต่อชาติบ้านเมืองด้วย ทั้งหน้าที่ต่อครอบครัว หน้าที่ต่อพ่อแม่ หน้าที่ต่อครูอาจารย์ และหน้าที่ต่อเด็กกับผู้ใหญ่ ถ้าเอาแต่สิทธิเสรีภาพอย่างเดียวข้างใดข้างหนึ่งก็ไม่ได้อะไรขึ้นมา และทำให้ประเทศชาติเสียหาย ดังนั้น ทุกคนต้องประพฤติปฏิบัติตั้งมั่นอยู่ในความดี โดยยึดหลักชาติศาสนาและพระมหากษัตริย์ เป็นหลักสำคัญของประเทศและบ้านเมืองของเรา “ผมหวังอย่างยิ่งว่าพวกเราทุกคนจะเจริญเติบโตเป็นคนดีมีคุณภาพ ไม่ได้หมายความแค่ในห้องนี้เท่านั้น แต่คาดหวังว่าคนทั้งประเทศ ลูกหลานของเราจะมีการเจริญเติบโตในอนาคตเป็นพลเมืองที่ดีของชาติ ดังนั้นคำว่าพลเมืองก็คือคนที่มีคุณภาพ ประเทศใดที่มีพลเมืองที่มีคุณภาพก็จะเจริญก้าวหน้าเป็นประเทศชั้นนำในโลก ทั้งด้านเศรษฐกิจ ความมั่นคง ศิลปวัฒนธรรมและสิ่งต่างๆ ซึ่งเรามีความพร้อมหลายด้านอยู่แล้ว ต้องหาตัวเราให้เจอและต้องเรียนรู้ประวัติศาสตร์ว่าเราเป็นใครมาจากไหน เพราะเราเกิดในแผ่นดินไทย บางคนไปเรียนต่างประเทศบ้าง แต่ส่วนใหญ่เราก็เกิดในแผ่นดินไทยทั้งสิ้น ดังนั้น ต้องคำนึงถึงผืนแผ่นดินที่ให้เราอยู่อาศัย ให้เราได้เกิดได้โตมาจนถึงทุกวันนี้ มีอะไรบ้างที่เราต้องตอบแทน เขาไม่เคยเรียกร้องอะไรจากเรา มีแต่เราเรียกร้องจากเขา ดังนั้น แผ่นดินผืนนี้เป็นแผ่นดินที่มีความสุข เราต้องอย่าทำให้ไม่มีความสุขเลย” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว และกล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ขอให้ทุกคนเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพ มีความรักมีความสามัคคี มีความกตัญญูรู้คุณและมีคุณธรรม รู้หน้าที่พลเมืองที่ดี รวมทั้งมีระเบียบวินัย สิ่งสำคัญต้องเคารพกฎหมาย ซึ่งคนไทยต้องเรียนรู้กฎหมาย และปฏิบัติตามกฎหมายบ้านเมืองก็จะไม่วุ่นวาย และไม่เกิดปัญหาหรือผลกระทบกับคนอื่น หากแต่ละฝ่ายใช้ปัญหาและใช้กฎหมายเพื่อตัวเองมากเกินไปก็จะกระทบกับคนอื่น เพราะคนอื่นไม่ได้ร่วมมือด้วย จึงจะเกิดปัญหาได้ในหลายๆ เรื่อง ดังนั้น ทุกคนต้องช่วยกัน อีกทั้งต้องรักและสามัคคีกันให้ได้ ซึ่งเป้าหมายที่ทุกคนต้องการคือประเทศชาติมีความสุขสงบมีสันติ และมีการพัฒนาที่ยั่งยืน ตามพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า วันนี้โลกโลกาภิวัตน์ทำให้โลกแคบลง เชื่อมต่อกันทั้งโลก อย่างวันนี้ปัญหาเศรษฐกิจก็มีปัญหากันทั้งโลก ปัญหาความจัดแย้งการการสู้รบที่กระทบเศรษฐกิจไปด้วย ดังนั้น เราต้องเตรียมความพร้อมของเรา ด้วยสิ่งสำคัญคือบ้านเมืองต้องสงบสุข เมื่อเราสงบสุขมีสันติก็สามารถทำอะไรก็ได้ที่จะทำให้เกิดมูลค่า และทำให้เกิดรายได้ขึ้นมา ถ้ามัวแต่ทะเลาะกันแย่งกันก็จะติดขัดไปทั้งหมด การบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาลก็เดินหน้าไม่ได้ เพราะสิ่งที่รัฐบาลทำไป ทำเพื่อคนทุกกลุ่ม ทุกคนถ้าทุกคนสนองตอบในแนวนโยบายก็จะได้ประโยชน์จากสิ่งเหล่านั้น ขณะเดียวกันต้องคำนึงถึงคนทั้งประเทศย้ำว่ารัฐบาลเป็นรัฐบาลของคนทั้งประเทศ แม้จะมาจากหลายส่วนหลายพรรคการเมือง แต่เป็น ครม.ในปัจจุบัน โดยทำหน้าที่เพื่อคนทุกกลุ่มทุกฝ่าย เพื่อตอบสนองความต้องการของประชาชนทุกหมู่เหล่า และทุกพื้นที่ที่มีความแตกต่างกันมากพอสมควร โดยยืนยันจะพยายามทำให้ดีขึ้น พล.อ.ประยุทธ์กล่าวอีกว่า ตนมีความเป็นห่วงในเรื่องความก้าวหน้าเทคโนโลยี ข้อมูลข่าวสารที่แพร่ไปอย่างรวดเร็ว แต่เป็นข้อมูลที่ถูกต้องหรือไม่ จึงต้องมีภูมิคุ้มกันในการอ่านและโพสต์ เพราะจะสร้างความไม่เข้าใจบิดเบือน สับสนอลม่านได้ ต้องมีความรู้คู่คุณธรรมและวิเคราะห์ อีกทั้ง ต้องมีทักษะการอยู่ร่วมกันในสังคมที่ต้องถ้อยทีถ้อยอาศัย เผื่อแผ่แบ่งปัน บางคนลืมไปทำให้เกิดปัญหาในสังคม ขณะเดียวกัน ย้ำว่าทุกคนต้องเรียนรู้ประวัติศาสตร์ หากไม่รู้ประวัติศาสตร์ แล้วเราจะรักประเทศของเราได้อย่างไร ในเมื่อยังไม่รู้จักประเทศของตนเองเลย “อยากจะเตือนหลายๆ คนโดยเฉพาะเด็กๆ ให้ระลึกอยู่เสมอว่าเราเกิดบนผืนแผ่นดินไทย ไม่ว่าเราจะไปที่ไหน เราก็ลืมความเป็นไทยไม่ได้ ลืมสิ่งที่บรรพบุรุษของเราได้เสียสละเลือดเนื้อ รักษาแผ่นดินผืนนี้ไว้ แล้วเราจะทำลายกันเองเหรอ ทำลายด้วยพวกเรากันเองหรอ ทั้งที่ต่อสู้กันมาตั้งแต่สมัยโบราณ ต่อสู้กับอริราชศัตรูรอบด้านรอบประเทศ จนเป็นไทยได้ทุกวันนี้” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว และว่า อย่างไรก็ตาม ไม่มีใครทำอะไรแล้วพอใจและถูกใจกันได้ทั้งหมด แต่ต้องรู้ว่าทำได้มากหรือทำได้น้อย หรือทำได้มากกว่าในอดีตที่ผ่านมา เป็นสิ่งที่ทุกคนต้องคิดใคร่ครวญด้วยเหตุผล โดยคาดหวังให้เด็กไทยมีผลการสอบที่ดีขึ้น ทุกคนต้องรู้จักเรียนรู้ ไม่ใช่เรียนในตำราอย่างเดียว จะต้องมีทักษะชีวิต เพราะท่องอย่างเดียวแล้วไปสอบ ใช้ในชีวิตจริงไม่ได้ โดยขอให้ ศธ.เร่งรัดการทำงานในประเด็นที่เป็นปัญหา บางนโยบายออกไปเป็นนโยบายกว้างๆ แต่จะต้องมีนโยบายเฉพาะ เพื่อพัฒนาให้เท่าเทียมทันได้ในอนาคต จากนั้น นายกฯถ่ายภาพร่วมกับเด็กและเยาวชนที่บริเวณห้องโถงกลาง พร้อมเยี่ยมชมของขวัญที่เด็กและเยาวชนนำมามอบให้ อาทิ กรอบภาพถ่ายของนายกรัฐมนตรี ภาพวาดการ์ตูน พระพุทธรูปชื่อดัง น้ำพริก ผ้าขาวม้า เครื่องเซรามิก ผลิตภัณฑ์โอท็อป เป็นต้น สำหรับงานวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2563 กระทรวงศึกษาธิการ ได้จัดกิจกรรมขึ้นในวันที่ 11 มกราคม ภายใต้แนวคิด “Wonderful kids สุดยอดเด็กไทย” ที่บริเวณกระทรวงศึกษาธิการ ตั้งแต่เวลา 07.00-17.00 น. โดยนายกรัฐมนตรีจะเดินทางไปเป็นประธานในพิธีเปิดงานในเวลา 08.30 น. พร้อมร่วมกิจกรรมฉลองวันเด็กแห่งชาติ ซึ่งตลอดทั้งวันยังมีการแสดงและกิจกรรมต่างๆ มากมาย ฟรีตลอดทั้งวัน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image