ฝ่ายค้าน รุมถลกงบกองทัพ ‘สุรเชษฐ์’ ลุกขอตัดงบเรือดำน้ำ เหตุไม่เหมาะ อ่าวไทยตื้นเขิน

ประชุมสภาฯ-ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 วงเงิน 3.2 ล้านล้านบาท ในวาระสองและวาระสาม ตามที่กมธ.วิสามัญฯ ที่มีนายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานได้พิจารณาเสร็จแล้ว

ต่อมาเวลา 20.40 น.ในการประชุมสภาฯ เข้าสู่การพิจารณาในมาตรา 8 งบประมาณรายจ่ายของกระทรวงกลาโหม และหน่วยงานในกำกับ จำนวน 1.2 แสนล้านบาท กมธ.เสียงข้างมากมีการแก้ไข โดยมี กมธ.เสียงข้างน้อยลงชื่อสงวนความเห็นไว้ และมีส.ส.สงวนคำแปรญัตติจำนวนมาก โดยนายสุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ (อนค.) ในฐานะกมธ.เสียงข้างน้อย ลุกขึ้นอภิปรายว่า ตนขอตัดงบการจัดซื้อเรือดำน้ำจากจีน ตามที่ปรากฏในร่างพ.ร.บ.งบประมาณปี 2563 จำนวน 2 ลำออกทั้งท่อน เป็นเงิน 2.25 หมื่นล้านบาท ซึ่งที่ผ่านมาในปี 2560 สมัยรัฐบาลคสช. ได้อนุมัติจัดซื้อไปแล้ว 1 ลำ และตามงบประมาณฉบับนี้ จะจัดซื้ออีก 2 ลำ ซึ่งจากที่เรียกกองทัพเรือมาชี้แจงไม่ใช่ซื้อ 2 แถม 1 อย่างที่สังคมเข้าใจกัน ซึ่งหากสภาเห็นชอบเงินก้อนนี้ จะเกิดงบผูกพันถึง 2.25 หมื่นล้านบาท

นายสุรเชษฐ์ กล่าวว่า ดังนั้น สภาจึงเป็นความหวังสุดท้ายของประชาชนในการยุติผลพวงจากการรัฐประหารชิ้นนี้ อย่างไรก็ตาม ตนไม่เถียงว่า กองทัพเรือสำคัญ แต่การใช้งบประมาณจากภาษีประชาชน จำเป็นต้องมีความเหมาะสมและคุ้มค่า แต่การซื้อเรือดำ รุ่น s – 26 t yuan class จากจีนที่ไทยสั่งซื้อนั้น ถือว่าไม่มีความเหมาะสม เพราะเรือดำน้ำรุ่นดังกล่าวระยะปลอดภัยอยู่ที่ระดับความลึก 60 เมตร แต่อ่าวไทยมีความตื้นเขินมีความลึกอยู่ที่ 40 – 50 เมตรเท่านั้น นี่จึงเป็นเหตุว่า ทำไมจึงไม่ควรซื้อเรือดำน้ำรุ่นนี้มาปักเลนด้วยมูลค่าที่สูงขนาดนี้ จึงขอเชิญชวนสมาชิกจากทุกพรรคมาช่วยกันยับยั้ง อย่าปล่อยให้งบเรือดำน้ำผ่านสภาฯ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image