เมื่อเวลา 05.30 น. วันที่ 12 มกราคม บรรยากาศงาน “วิ่งไล่ลุง” ที่สวนรถไฟ กรุงเทพฯ มีผู้ทยอยเดินทางเข้าร่วมอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงก่อนเวลา 05.00 น. ซึ่งเป็นเวลาเปิดประตูโดยมีเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบดูแลโดยรอบ มีการตรวจตราความปลอดภัยเคร่งครัดในจุดคัดกรองต่างๆ สภาพการจราจรเริ่มคับคั่ง
สำหรับภายในงานมีการตั้งเวทีขนาดใหญ่ เขียนข้อความ “หยาดเหงื่อทุกหนด้พื่ออนาคตประเทศไทย” และ “ออกยากกว่าพุงก็ลุงนี่แหละ’ พร้อมภาพวาดโดย “ไข่แมว” มีการเปิดเพลงประเทศกูมี และเพลงวิ่งไล่ลุง โดยวง rap against dictatorship
ผู้เข้าร่วมงานสวมใส่เสื้อยืดสกรีนลวดลายวิ่งไล่ลุง บางส่วนนำสติ๊กเกอร์มีข้อความต่างๆ รวมถึงข้อความที่เขียนด้วยตนเองบ่งบอกความรู้สึกส่วนตัว
เวลาประมาณ 06.00 น. เริ่มมีการจำหน่ายของที่ระลึกซึงมีผู้ต่อคิวซื้อเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ยังมีการแจกเหรียญปราบกบฎให้แก่ผู้นำนกหวีดมาแลก
ต่อมาเวลาประมาณ 06.30 น. นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจเดินทางมาถึงบริเวณสถานที่จัดงานโดยสวมใส่เสื้อยืดสกรีนลายวิ่งไล่ลุง มีมวลชนตะโกน “ธนาธรสู้ๆ” ตลอดทาง
นายสมยศ พิสิฐจารุพงษ์ อายุ 56 นักธุรกิจ กล่าวว่าปกติเล่นกอล์ฟ แต่วันนี้ตัดสินใจมาวิ่ง เพราะรู้สึกไม่ไหวแล้ว เดินทางมากับเพื่อนรวม 2 คน ทราบข่าวจากกระแสโซเชียล
เวลา 07.00 น. จอห์น วิญญู เดินทางมาถึงโดยกล่าวว่า คนไทยควรมีคุณภาพชีวิตที่ดีว่านนี้ วันนี้อยากให้มาร่วมปลดปล่อยความรู้สึกไปด้วยกัน ในขณะที่นางสาวณัฏฐา มหัธนา หรือโบว์ นำมวลชนตะโกน “ประยุทธ์ออกไป ประชาธิปไตยจงเจริญ” จากนั้นเป็นการปล่อยตัวนักวิ่ง ซึ่งต่างชู 3 นิ้วขณะออกตัวจากจุดปล่อยตัว โดยมีผู้เข้าเส้นชัยรายแรกในเวลา 07.17 น. ซึ่งจะได้รับ ‘ถ้วยลุงโฮ’ เป็นรางวัล
ต่อมา เวลาประมาณ 07.30 น. มีการมอบเหรียญปราบกบฏเพิ่มเติมให้แก่ผู้นำอุปกรณ์ครั้งชุมนุม กปปส. มาแลก
นาย เขียน ใจเย็น อายุ 80 ปี หนึ่งในอดีตผู้ร่วมชุมนุมกปปส.โดยนำนาฬิกาลายธงชาติมาแลก กล่าวว่า ตนเคยร่วมชุมนุมกปปส. เพราะในวันนี้นรู้สึกว่ารัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ทำไม่ถูกต้อง โดยเฉพาะเมื่อได้รับฟังข่าวสารจากบางกลุ่มทำให้โน้มเอียงไปทางดังกล่าว อย่างไรก็ตาม พอเวลาผ่านไปจนถึงสถานการณ์ในวันนี้ทำให้ทราบว่าตัดสินใจผิดไป จึงเดินทางจากบ้านย่านวังหิน โดยนั่งรถประจำทางมาถึงสวนรถไฟตั้งแต่ ราว 05.00 น. เพียงคนเดียว เพื่อเข้าร่วมงานวิ่งไล่ลุง เพราะคิดว่าประเทศควรเปลี่ยนแปลงได้แล้ว