สมชัยโพสต์บันทึกประทับใจ ยันวิ่งไล่ลุงมีอีกหลายรอบ
เมื่อวันที่ 12 มกราคม นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกรรมการการเลือกตั้ง ในฐานะรองประธานกรรมาธิการวิสามัญศึกษาหลักเกณฑ์และวิธีการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ สภาผู้แทนราษฎร โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว หลังจากร่วมกิจกรรมวิ่งไล่ลุง ระบุว่า บันทึก วันวิ่งไล่ลุง
คืนวันเสาร์ผมเข้านอนเกือบห้าทุ่ม ตั้งนาฬิกาปลุกไว้ตีสี่ครึ่ง มือถือคำนวณว่าผมมีเวลานอนแค่ 5 ชม.เศษ ทำให้ผมกังวลเล็กน้อย เพราะปกติจะนอน 7-8 ชม.ต่อวัน เกรงว่าจะเป็นปัญหาในช่วงวิ่ง 4 กม.
ตีห้าครึ่งผมเริ่มเดินออกจากบ้าน เพื่อไปขึ้น BTS ขบวนแรกที่ผ่านสถานีใกล้บ้าน
หกโมงเศษรถถึงหมอชิต ฟ้ายังมืด ผมเริ่มเห็นผู้คนลงจากรถไฟฟ้าบ้าง จากรถเมล์บ้าง เดินเป็นสายเข้าไปทางสวนจตุจักร ทุกคนเดินตามกันไปเหมือนกับรู้ว่าข้างหน้าคือสวนรถไฟที่เป็นจุดหมายของทุกคน
ผมถือโอกาสเดินคุยไปกับเพื่อนร่วมทาง พวกวัยหนุ่มสาวส่วนใหญ่จะทำงานเอกชน ไม่สนใจการเมือง แต่มาวันนี้ต้องแสดงออกถึงความคับข้องกับสถานการณ์บ้านเมือง ส่วนคนสูงอายุกลับมาจากหลายที่ หลายคนแม้เดินเหินลำบาก แต่ก็อยากมาร่วมแสดงออกในวันนี้ ผมได้แต่บอกว่า ไม่ต้องวิ่ง เดินก็พอ และเอาเท่าที่ตัวเองไหว
พอมีคนมีขอถ่ายภาพ คนเริ่มหันมาขอถ่ายบ้าง ทุกคนยิ้มแย้มทักทายกันอย่างเป็นมิตรแม้จะไม่เคยรู้จักกันมาก่อน เท่าที่ผมสังเกตคนที่มาขอถ่ายจะเป็นวัยลุงวัยป้าซะมาก วัยรุ่นเขาถ่ายกันเองของเขาสนุกกว่า
เจ็ดโมงเริ่มปล่อยตัว คลื่นมนุษย์วิ่งไปตามเส้นทางข้างหน้า ตอนเริ่มผมอยู่หัวขบวน มีแต่คนวิ่งแซง ผมวิ่งเท่าที่มีแรง หยุดเดินเร็ว เดินช้า สลับไป พอมีแรงก็วิ่งใหม่ ขนาดเบาะๆ แบบนี้เหงื่อยังท่วมกาย ใช้เวลาไป 40 นาทีต่อการเดิน วิ่งในระยะทางประมาณ 4 กม.
ไม่เหนื่อยมากนัก ยิ่งได้ยินเสียงปรบมือ เสียงตะโกนให้กำลังใจกันช่วงก่อนเข้าเส้นชัย ยิ่งมีกำลังใจวิ่ง มีคนนึงตะโกนบอก มีรอบแปดโมงอีกรอบ อาจารย์วิ่งต่อเลย ผมบอกขอแค่นี้พอ เดี๋ยวขาดใจเสียก่อน ให้เป็นภารกิจคนรุ่นใหม่บ้าง
มีสื่อมาตั้งกล้องขอสัมภาษณ์ ผมบอกขอหายใจก่อน คำถามไม่มีอะไร ทำนองว่า ทำไมถึงมาวิ่งกับเขา แต่สื่อต่างประเทศกลับถามได้อย่างน่าสนใจกว่า ทำนองว่า วันนี้ทำไมมี young people ออกมามากมาย เป็นเพราะเขาโกรธแค้น (angry) อะไรหรือ
ผมตอบไปว่า น่าจะไม่ใช่ angry แต่เป็น frustration หรือความอึดอัดคับข้องกับพฤติกรรมการปกครองประเทศของรัฐบาลชุดปัจจุบัน และนี่คือการแสดงออกของพวกเขาอย่างบริสุทธิ์ใจที่ผู้เป็นรัฐบาลควรต้องรับฟัง
เก้าโมงเศษ หลังจากได้พักทานแซนด์วิช น้ำส้ม และกล้วยที่ทีมผู้จัดจัดมา และแยกทิ้งขยะแบบ zero waste เป็นที่เรียบร้อย ผมจึงคิดว่าถึงเวลาเดินทางกลับ ในขณะที่อีกจำนวนมากยังปักหลักอยู่กับเวทีกัน
วันนี้ ไม่มีเหรียญให้นักวิ่ง พิธีกรประกาศว่าของส่งมาไม่ทัน แต่ไม่ยักมีคนบ่นหรือด่าผู้จัดทุกคนที่ผมเจอบอกว่า ตั้งใจมาวิ่ง ไม่ได้สนใจเหรียญ และพร้อมจะวิ่งกันอีกหลายรอบ เพื่อไล่ลุงครับ
12 มกราคม 2563
