นายกรณ์ จาติกวณิช ไม่น่าจะเป็นคนสุดท้ายที่จะอำลาจากพรรคประชาธิปัตย์ด้วยความเจ็บปวดในความรู้สึก
หากดูจากสถานการณ์ก่อนเลือกตั้งจะสัมผัสได้ในความเป็นจริง
ความเป็นจริงที่ นายณัฎฐพล ทีปสุวรรณ นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ ไปร่วมจัดตั้งพรรคพลังประชารัฐ
ความเป็นจริงที่ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ แยกตัวออกไปและจัดตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทยขึ้นประกาศหนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี
ภายหลังการเลือกตั้ง นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ก็อำลาพรรคประชาธิปัตย์และไปดำรงตำแหน่งเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหารพรรครวมพลังประชาชาติไทย
เดินหน้าต้าน “ลัทธิชังชาติ” กับ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ
การอำลาพรรคประชาธิปัตย์ของ นายกรณ์ จาติกวณิช จะไม่เป็นไปในแบบของ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม หากแต่น่าจะเป็นไปในแบบของ นายพีรพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค มากกว่า
การลาออกของ นายกรณ์ จาติกวณิช ใกล้เคียงกับการลาออกของ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค
1 ลาออกจาก ส.ส. และ 1 ลาออกจากสมาชิกภาพในพรรค
เบื้องต้น นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ได้รับแต่งตั้งเป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ต่อมาได้รับการเสนอชื่อเป็นประธานคณะกรรมาธิการ วิสามัญศึกษาแนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
ความเป็นไปได้ของ นายกรณ์ จาติกวณิช แม้จะใกล้เคียงแต่น่าจะไต่ระดับทางการเมืองสูงกว่า นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค อย่างแน่นอน
อย่าแปลกใจหาก นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ จะต้องหนาวเหน็บ
ไม่ว่าทิศทางของ นายกรณ์ จาติกวณิช จะดำเนินไปอย่างไร แต่เชื่อได้เลยว่า นายกรณ์ จาติกวณิช จะไม่ใช่คนสุดท้ายที่โบกมือลาออกจาก พรรคประชาธิปัตย์
ตราบใดที่ยังมี “ประภาคาร” ทางการเมืองหลายประภาคารส่องแสงสว่างอยู่
1 เป็นกลุ่ม นายณัฎฐพล ทีปสุวรรณ ในพรรคพลังประชารัฐ
1 เป็นจังหวะก้าวอันเฉียบคมและมุ่งมั่นของ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ แห่งพรรครวมพลังประชาชาติไทย
ไม่นานก็จะจะมีอีกหลายคนทยอยตัดสินใจและไหวเคลื่อน