เมื่อวันที่ 15 มกราคม นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ได้โพสต์ข้อความทางเฟซบุ๊กด้วยข้อความระบุว่า
ผมรู้สึกใจหายตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมาแล้ว (14/1/63) ที่เห็นคุณกรณ์ ขึ้นไปร้องเพลง รักเธอเสมอ พอร้องได้แค่ครึ่งเพลง คุณกรณ์ก็มีอาการสะอื้นเหมือนอาการคนที่ซึ้งกับบทเพลง ไม่ได้คิดอะไรมาก แต่เมื่อทุกคนในงานเลี้ยงเงียบกริบ บางคนก็น้ำตาคลอ บางคนก็แอบร้องไห้ ทำให้ผมเข้าใจได้ว่า กรณ์คงตัดสินใจลาออกจากพรรคประชาธิปัตย์แล้ว แม้ว่ามีแค่กระแสข่าวแบบระแคะระคายออกมาก่อนหน้านี้ก็ตาม
ผมรู้สึกใจหายมากที่สุดอีกครั้งเมื่อตอนสายๆ ของวันนี้ (15/1/63) ตอนเห็นใบลาออกที่ลงลายมือชื่อของกรณ์ จาติกวณิช ของจริง ก็เป็นที่ชัดเจนไม่ใช่ความฝันหรือข่าวลืออีกแล้ว คุณกรณ์ เพื่อนร่วมรุ่นของผมได้ลาออกจากพรรคประชาธิปัตย์ไปแล้วจริงๆ
คุณกรณ์ จาติกวณิช เป็น ส.ส.ครั้งแรกในปี 2548 จากเขตคลองเตย สาทร ของกรุงเทพมหานคร ในนามพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมเพื่อนๆ ส.ส.หน้าใหม่อีกหลายคน หนึ่งในนั้นก็มีผมคนหนึ่งที่เข้าสภาอันทรงเกียรติ พร้อมกับคุณกรณ์ และตอนนี้ยังเหลือเพียง คุณอันวาร์ สาและ ส.ส.ปัตตานีอีกคนหนึ่งที่เป็น ส.ส.รุ่นเดียวกันที่ยังคงเหลืออยู่ในพรรคประชาธิปัตย์ตอนนี้
ผมเข้าใจอารมณ์ความรู้สึกของคุณกรณ์ เป็นอย่างดี เพราะตอนคุณกรณ์ เป็นแคนดิเดตหัวหน้าพรรค แข่งกับนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ซึ่งคุณกรณ์พ่ายแพ้ และซึ่งปกติที่ผ่านมาเปรียบเหมือนประเพณีปฎิบัติของการเลือกตั้งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ถ้าผู้สมัครคนใดได้รับเลือกเป็นหัวหน้าพรรค คนแพ้ก็จะได้รับการสนับสนุนให้เป็นรองหัวหน้าพรรค เช่นเมื่อครั้งนายบัญญัติ บรรทัดฐาน ได้รับเลือกเป็นหัวหน้าพรรค นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้พ่ายแพ้ก็ได้เป็นรองหัวหน้าพรรค ตอนนายอภิสิทธิ์ได้รับการไพรมารีโหวตให้เป็นหัวหน้าพรรค นายอลงกรณ์ พลบุตร ผู้พ่ายแพ้ก็ได้รับการสนับสนุนให้เป็นหัวหน้าพรรคเช่นกัน แต่ในการเลือกตั้งหัวหน้าพรรคครั้งล่าสุดสมัยของนายจุรินทร์ ผู้พ่ายแพ้ไม่มีใครได้เป็นรองหัวหน้าพรรคแม้แต่คนเดียว
ผมได้อ่านเฟซบุ๊กของคุณกรณ์ ที่คุณกรณ์ได้โพสต์เมือ 4 มกราคม 2563 ถึงเหตุผล 5 ข้อในการอยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ มีเหตุผลที่น่าสนใจ 2 ข้อคือ 1.คุณกรณ์ไม่ได้รับการสนับสนุนหรือทาบทามจากผู้บริหารพรรคชุดนี้ ให้รับตำแหน่งใดๆในพรรค เว้นแต่ตำแหน่งรองประธานคณะกรรมการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้งของพรรค ที่คุณกรณ์ปฎิเสธไป กับ 2.กระแสข่าวคุณกรณ์จะเป็นแคนดิเดตของพรรคในการลงสมัครผู้ว่าฯกทม.ที่หลายฝ่ายสนับสนุน แต่คุณกรณ์ไม่เคยได้รับการทาบทามหรือพูดคุยจากผู้บริหารพรรคเลย คุณกรณ์คงเป็นเพียง ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อของพรรคคนหนึ่งเท่านั้น
ผมเข้าใจหัวอกของเพื่อน คนที่เคยเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังดีเด่นระดับโลก เคยเป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจของพรรค เคยเป็นรองหัวหน้าพรรค เคยเป็นประธานนโยบายของพรรค เมื่อไม่มีบทบาทใดๆในพรรคก็ยากที่จะทำใจ
ผมเข้าใจเพื่อน ผมเห็นใจเพื่อน เมื่อเพื่อนลาออกไป ก็ขอให้โชคดี ส่วนผมยังอยู่ที่นี่ อยู่ที่พรรคประชาธิปัตย์ต่อไป ไม่ลาออกไปไหน ถ้าจะมีก็เพราะถูกขับออกจากพรรคเท่านั้น
