มติเอกฉันท์ 368 : 0 สภาฯไม่ส่งตัว ‘ปิยบุตร-พิธา-ช่อ’ ให้ตร. ปมจัดแฟลชม็อบปทุมวัน 

สภาฯ-เมื่อเวลา 19.45 น.วันที่ 15 มกราคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายสุชาติ ตันเจริ​ญ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 ทำหน้าประธานการประชุม ได้มีมติเอกฉันท์ 368 ต่อ 0 งดออกเสียง 8 ไม่อนุญาต ส่งตัว 3 ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ ประกอบด้วย นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ น.ส.พรรณิการ์ วานิช และนายปิยบุตร แสงกนกกุล ไปทำการสอบสวนในฐานะเป็นผู้ต้องหาในคดีอาญาในระหว่างสมัยประชุม ตามมาตรา 125 ของรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 เพื่อทำการสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานให้ครบถ้วนเพื่อให้การดำเนินการเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเกิดความเป็นธรรมกับผู้ที่เกี่ยวข้อง ตามที่สำนักตำรวจแห่งชาติ (สตช.) โดย พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ส่งหนังสือด่วนที่สุด ที่ตช 0011.24/4 ลงวันที่ 3 มกราคมถึงนายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ ขออนุญาตสภาผู้แทนราษฎรเพื่อเรียก 3ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ จากกรณีที่จัดการชุมนุมบริเวณสกายวอล์ค หน้าศูนย์การค้ามาบุญครอง เขตปทุมวัน เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2562 ซึ่งเป็นการจัดการชุมนุมสาธารณะที่ไม่ชอบด้วยกฏหมาย อันเป็นความผิดตามพ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ พ.ศ.2548

ทั้งนี้ ช่วงหนึ่งของการอภิปรายก่อนลงมติ ส.ส.ซีกรัฐบาล และ ส.ส.ซีกฝ่ายค้าน ต่างสนับสนุนให้สภายึดหลักการในการไม่ส่งตัว ส.ส.ไปดำเนินคดีอาญาอย่างที่ได้ยึดถือมา ขณะที่ ส.ส.ซีกฝ่ายค้าน อาทิ นายคารม พลพรกลาง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ ได้ตั้งข้อสังเกตถึงคำสั่งเรียกจากผบ.ตร.ว่า ถือเป็นเรื่องน่าสงสัย เพราะถือเป็นเป็นคดีเล็กๆที่ไม่ต้องเป็นต้องเรียกตัวส.ส.ก็สามารถสืบพยานรวบรวมหลักฐานได้ และอีกไม่นานก็จะปิดสมัยประชุมแล้วในช่วงปลายเดือนนี้ ทำไมต้องรีบ ตนไม่ทราบว่า ผบ.ตร.คิดอย่างไร แต่ผบ.ตร.เป็นส.ว.โดยตำแหน่งแล้วย่อมต้องรู้ถึงเอกสิทธิ์คุ้มครองตามรัฐธรรมนูญ แต่กลับมีการเสนอเรื่องเข้ามาเพื่อขอให้ส่งตัวไปดำเนินคดี

ขณะที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธิ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเสรีรวมไทย อภิปรายว่า สตช.ควรไปทำเรื่องที่สำคัญมากกว่า โดยในทางกลับกันพบว่า อีกฝ่ายที่ชุมนุมเหมือนกันกับไม่ถูกดำเนินการ ที่ผ่านมามีการปล่อยให้ส.ส.ที่มีหมายจับเข้ามานั่งในสภาด้วย ดังนั้น คดีนี้มันจะอะไรกันนักกันหนา สภาฯ ไม่ควรบรรจุวาระนี้เข้ามาเพราะมันเสียเวลาของสภา

ด้าน นายปิยบุตร กล่าวว่า การชุมนุมเป็นเสรีภาพที่รับรองไว้ในรัฐธรรมนูญ แต่การชุมนุมที่สกายวอล์คถูกกล่าวโทษว่า เป็นการชุมนุมไม่ชอบด้วยกฎหมาย ทั้งๆที่กฎหมายการชุมนุมต้องใช้ในลักษณะที่เป็นคุณและเป็นธรรมไม่เลือกปฏิบัติ ต้องไม่ใช้เป็นเครื่องมือในกีดกันการใช้เสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งความคุ้มกันส.ส.ตามประเพณีปฏิบัติของสภาที่ผ่านมาก็ไม่เคยอนุญาตให้ส.ส.ถูกดำเนินคดีระหว่างสมัยประชุม การคุ้มกันติดตัวส.ส.ไปตลอดจนกว่าคุณจะลาออก และขอขอบคุณส.ส.อาวุโสหลายคนและประธานวิปรัฐบาลที่ยืนยันหลักการตรงนี้ แต่ตนและส.ส.อีก 2 คน ขอยืนยันว่า พร้อมไปรายงานตัวต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจและเข้าสู่กระบวนการสอบสวนต่อไป เพราะเชื่อมั่นการชุมนุมที่ชอบด้วยกฎหมาย และจะขออยู่เคียงข้างกับประชาชนที่ปราศจากการคุ้มกัน

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image