09.00 INDEX ย่างก้าว การเมือง กรณ์ จาติกวณิช สร้างพรรค กำหนด ทิศทาง “ใหม่”
การแยกตัวออกมาจากพรรคประชาธิปัตย์ตั้งแต่ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เรื่อยมาจนถึง นายกรณ์ จาติกวณิช ไม่เพียงแต่สะท้อนถึงปัญ หาการเมืองภายในของพรรคประชาธิปัตย์
หากยังสะท้อนให้เห็นปัญหาและความเรียกร้องต้องการพรรคการเมืองที่จะสนองเป้าหมายใหม่ในทางการเมืองของสังคมไทยด้วย
ปัญหาของพรรคประชาธิปัตย์เด่นชัดอย่างยิ่งว่า ไม่ว่าหัวหน้าใน แบบ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ไม่ว่าหัวหน้าในแบบ นายจุรินทร์ ลักษณ วิศิษฎ์ ไม่น่าจะให้คำตอบได้
จึงจำเป็นที่ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ต้องไปจัดตั้งพรรครวมพลัง ประชาชาติไทย จึงจำเป็นที่ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ต้องไปสมาทานกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชาและพรรคพลังประชารัฐ
และล่าสุดก็คือกรณีของ นายกรณ์ จาติกวณิช
มีความแจ่มชัดมากยิ่งขึ้นเป็นลำดับว่า ไม่ว่าพรรคพลังประชารัฐ ไม่ว่า พรรครวมพลังประชาชาติไทย มิได้เป็นเป้าหมายและความต้องการของ นายกรณ์ จาติกวณิช
อ่านข่าวเพิ่มเติม “กรณ์”หลั่งน้ำตาลาออกปชป.ตั้งพรรคใหม่ จ่อรับตำแหน่งรมต.รัฐบาล’บิ๊กตู่'(ชมคลิป)
ขอให้พิจารณา “ความฝัน” ที่แสดงออกล่าสุด
“ผมมีความฝันที่อยากจะสร้างการเมืองแห่งความเปลี่ยนแปลง การเมืองที่กล้าคิด กล้าทำ จึงตัดสินใจเดินหน้าสร้างทางเลือกที่คนไทยแสวงหา
โดยจะชวนคนในสังคมที่มีศักยภาพมาร่วมออกแบบและขับเคลื่อนประเทศไทยไปด้วยกัน”
นี่ย่อมมิใช่กลิ่นอันมีอยู่ในพรรคประชาธิปัตย์ นี่ย่อมมิใช่กลิ่นอันมีอยู่ในพรรครวมพลังประชาชาติไทย นี่ย่อมมิใช่กลิ่นอันมีอยู่ในพรรคพลังประชารัฐ
หากแต่เป็นกลิ่นอันได้มาจากผลสะเทือน “อนาคตใหม่” มากกว่า
การเคลื่อนไหวของ นายกรณ์ จาติกวณิช หากอ่านจากการเคลื่อนไหว ของ นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี ก็อาจจะอ่านออกได้ว่า 2 คนนี้น่าจะมี “ความฝัน”ใกล้เคียงกัน
เพียงแต่ นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี เคยไปร่วมกับ “สถาบัน” บาง สถาบันที่กำหนดทิศทางไทยค่อนข้างแจ่มชัด
แจ่มชัดว่ายืนอยู่ตรงกันข้ามกับ “อนาคตใหม่”
ความฝันของ นายกรณ์ จาติกวณิช และ นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี จึงน่าจะเป็นการจัดตั้งพรรคการเมืองใหม่
อันสะท้อน “ทิศทางไทย” ที่ไม่เหมือนกับพรรคอนาคตใหม่เด่นชัด