09.00 INDEX วาระ อำลา ธนาธร อนาคตใหม่ กับ การมาของ กรณ์ จาติกวณิช
วันเดียวกันกับที่ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊คเชิญชวนให้ไปร่วมงาน”Future Is Now # อย่ากลัวอนาคต” ณ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต
ด้วยเหตุผล “อาจจะเป็นวันสุดท้ายที่ผมจะได้ปราศรัยต่อหน้าประชาชนในฐานะหัวหน้าพรรคการเมือง”
นายกรณ์ จาติกวณิช ก็โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุค “ขอเชิญชวน คนไทยมา # ช่วยกรณ์ตั้งชื่อพรรค” พร้อมกับประกาศแนวทาง กล้าคิด กล้าลุย พร้อมเปลี่ยนแปลง
“ไทยเข้าใจ-ทัดเทียม-เท่าทันโลก”
ไม่ว่า นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ไม่ว่า นายกรณ์ จาติกวณิช ล้วน ต้องการเห็นการเปลี่ยนแปลง ล้วนต้องการมีพรรคการเมือง
แต่คนหนึ่งกำลังมา ขณะที่คนหนึ่งกำลังจะถูก “กำจัด”
สภาพการณ์ที่ นายกรณ์ จาติกวณิช ประสบในพรรคประชาธิปัตย์ กับ สภาพการณ์ที่ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประสบจากการรุมทึ้งบด ขยี้ในทางการเมือง
คือ ปัญหาที่อยู่ในความรับรู้และรู้สึกของนักการเมืองและของคนไทยอย่างเด่นชัด
ไม่ว่า นายกรณ์ จาติกวณิช ไม่ว่า นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ มีความรู้สึก “ร่วม” ทางความคิดว่า สังคมไทยได้มาถึงจุดที่มีความจำ เป็นต้องเปลี่ยนแปลง
ทั้งมิได้เป็นการเปลี่ยนแปลงอย่างปรกติ ตรงกันข้าม เป็นการเปลี่ยนแปลงอย่างใหญ่หลวง และจะต้องดำเนินไปอย่างก้าวกระโดด
เพราะหากไม่เปลี่ยนก็อาจจะถอยหลังไปเรื่อยๆ
กระนั้น บทเรียนจากกรณีของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ก็เด่นชัดว่าบนเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลงมิใช่ว่าจะราบรื่น
กรณีของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ จะเป็นบทเรียนต่อความพยายาม ของ นายกรณ์ จาติกวณิช หรือไม่
นั่นก็ขึ้นอยู่กับ “ดีกรี” ของ “การเปลี่ยนแปลง” อยู่ในระดับใด
อยู่ในระดับเดียวกับพรรคประชาธิปัตย์ อยู่ในระดับเดียวกับพรรคพลังประชารัฐ
หรือว่าอยู่ในระดับเดียวหรือใกล้เคียงกับ “พรรคอนาคตใหม่”
นั่นเป็นเรื่องที่ประเมินได้ไม่ยาก นั่นเป็นเรื่องที่จะต้องดูจากก้าว ย่างและความเป็นจริงในอนาคตอันไกล้
ที่ว่า กล้าคิด กล้าลุย พร้อมเปลี่ยนแปลงนั้นดำเนินอย่างไร
เมื่อท่านพูดคนจะรับฟัง เมื่อท่านลงมือทำคนจะเชื่อมั่นและมีความศรัทธา