วันที่ 18 มกราคม เฟซบุ๊ก นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ของนายณัฐวุฒิ ใสเกื้อ แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) โพสต์ข้อความ ‘อนาคตเก่า’ ตั้งท่ายุบ ‘อนาคตใหม่’ ทำ ‘อนาคตประเทศไทย’ มืดมน มีรายละเอียดว่า
‘อนาคตเก่า’ ตั้งท่ายุบ ‘อนาคตใหม่’ ทำ ‘อนาคตประเทศไทย’ มืดมน – ‘ณัฐวุฒิ’ ห่วงรัฐใช้ความรุนแรง หลัง ‘วิ่งไล่ลุง’ มีพลัง คนเข้าร่วมอายุเฉลี่ยน้อยสุดในรอบ 10 กว่าปีการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย เหตุเติบโตในยุคทหารอยู่นาน กดทับอำนาจประชาชน – ‘ประชาธิปัตย์’ มาถึงจุดนี้ได้อย่างไร ย้อนอดีตบอยคอตเลือกตั้ง สมคบอำนาจนอกระบบ เปิดทางรัฐประหาร ถ้า ‘ชวน หลีกภัย’ คัดค้านสักคน พรรคจะไม่กลายเป็นเชื้อไฟให้เผด็จการ
นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ กล่าวในรายการ ‘หัวใจไม่หยุด‘เต้น’’ เผยแพร่ทางแฟนเพจ ‘นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ’ และยูทูบ ‘นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ Official’ เมื่อวันที่ 17 ม.ค. 63 ว่า ‘ผมเคยวิเคราะห์กับพรรคพวกว่ารัฐบาลจะไม่ยอมให้จัด ‘วิ่งไล่ลุง’ แต่ในที่สุดก็วิ่งกันได้ที่สวนรถไฟนะครับ หลังจากนั้นเริ่มมีสัญญาณว่ารัฐบาลจะไม่ยอมให้วิ่งกันต่อ
‘วิ่งไล่ลุง’ ที่เชียงใหม่ วันที่ 2 กุมภาพันธ์ ท่าจะมีปัญหาเสียแล้วล่ะครับ เหตุที่รัฐบาลเลือกใช้วิธีการนี้คงเป็นเพราะว่า ‘วิ่งไล่ลุง’ มีพลัง จะเอา ‘เดินเชียร์ลุง’ มาสู้คู่ขนานกันไป ท่าทางไม่รอดนะครับ เพราะ ‘เดินเชียร์ลุง’ ผมเชื่อว่าโตยาก ส่วน ‘วิ่งไล่ลุง’ จะโตไว
ถ้าวันที่ 2 กุมภาพันธ์ รัฐบาลใช้อำนาจใช้วิธีการใดก็ตามสกัดกั้นกิจกรรมนี้ได้ ก็ไม่ได้หมายความว่า คนที่เขาจัด คนที่เคยออกมาวิ่งฯ จะหยุดอยู่เฉยๆ แค่นี้นะครับ
ต่อไปเราคงได้เห็นนวัตกรรมการไล่ลุงถูกผลิตออกมาสารพัดรูปแบบนะครับ โป้งแปะไล่ลุง แอโรบิคไล่ลุง ไท้เก๊กไล่ลุง รำวงไล่ลุง อะไรก็ตามที่ไล่ลุง คงมีมาให้ดูล่ะครับ
แต่สิ่งที่น่าสนใจจากการวิ่งที่ผ่านมา ก็คืออายุเฉลี่ยของคนที่ออกมาร่วมกิจกรรมน้อยกว่าอายุเฉลี่ยของคนที่ออกมาเคลื่อนไหวต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยตลอดกว่า 10 ปีที่ผ่านมา และน้อยกว่าอายุเฉลี่ยของคนที่ออกมา ‘เดินเชียร์ลุง’ ด้วย
-เผด็จการอยู่นาน ประชาธิปไตยจึงเบ่งบานในหัวใจหนุ่มสาว
ภาพแบบนี้ปฏิเสธคำพูดว่า คนรุ่นใหม่ไม่สนใจเรื่องบ้านเรื่องเมืองนะครับ เพราะผมเชื่อว่า ยิ่งสถานการณ์เดินไปข้างหน้า เราจะเห็นภาพคนหนุ่มคนสาวออกมาแสดงตัว แสดงพลังมากขึ้นและมากขึ้น
ที่เป็นแบบนี้เหตุผลสำคัญส่วนหนึ่งคงเพราะว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชาและพวก เป็นเผด็จการที่อยู่ในอำนาจยาวนานที่สุดนับจากยุคของจอมพลถนอม จอมพลประภาส
จากการยึดอำนาจเมื่อปี 2557 จนมาถึงการเลือกตั้งโดยกติกาสืบทอดอำนาจปี 2562 ห้าปีเต็มๆ ที่พล.อ.ประยุทธ์ถืออำนาจเผด็จการ เด็กอายุ 13 ปีในวันยึดอำนาจ กลายมาเป็นเด็กอายุ 18 ปีในวันเลือกตั้ง พวกเค้าโตขึ้นในวันเวลาที่อำนาจเผด็จการกดทับอำนาจอธิปไตยของประชาชน มีกฎบัตรกฎหมายที่ฝืนต่อพัฒนาการของสังคมโลกและสังคมไทย
ผมเชื่อว่าที่คนหนุ่มคนสาวเค้าเริ่มออกมาวิ่งไล่ลุง ไม่ใช่เรื่องกระแสนะครับ แต่มันเกิดจากการเรียนรู้ ความเข้าใจและการตัดสินใจที่จะกำหนดอนาคตของประเทศไทยด้วยตัวเอง ซึ่งจะแตกต่างกับคนหนุ่มคนสาวจำนวนหนึ่งที่เคยออกมาเป่านกหวีด เปิดทางให้เกิดการรัฐประหาร ผ่านมาแล้วก็ผ่านไป หลายคนแทบไม่อยากจะพูดถึงเรื่องราวชีวิตตัวเองในวันนั้นด้วยซ้ำไป
ผู้มีอำนาจต้องทำความเข้าใจกับสัญญาณนี้ดีๆ นะครับ อย่าไปคิดว่าเด็กถูกหลอกมา อย่าไปคิดว่าคนที่เค้าออกมาแสดงตัวเป็นเพราะขาดความเข้าใจเรื่องบ้านเรื่องเมือง
ตรงกันข้าม ผมว่าเค้าเข้าใจอย่างถ่องแท้ดีแล้วต่างหาก และคิดว่าปล่อยเอาไว้แบบนี้ไม่ได้ เค้าจึงต้องออกมา
สิ่งที่ควรจะเป็นคือทุกฝ่ายหันหน้าเข้าหากันแล้วตั้งหลักนำพาประเทศกลับคืนสู่แนวทางประชาธิปไตยที่เป็นสากล
แต่สิ่งที่ผมกังวลก็คือ ผู้มีอำนาจจะใช้อำนาจมากขึ้นเรื่อยๆ หรืออาจจะเลยเถิดไปถึงการใช้ความรุนแรงกับประชาชนที่ออกมาเคลื่อนไหวเรียกร้องประชาธิปไตย
อย่าให้สถานการณ์มันเลยเถิดไปถึงขนาดนั้นเลยครับ เพราะไม่มีอำนาจใดที่จะมาฉุดรั้งพัฒนาการที่เป็นจริงของสังคมไปได้
การใช้กำลังหรือความรุนแรงกับประชาชน อาจจะมีผลทำลายชีวิตแต่ทำลายจิตวิญญาณและหลักการที่ถูกต้องไม่ได้
ที่สำคัญคือคนที่ออกมาเรียกร้องประชาธิปไตย ไม่ใช่คนทำความผิด ไม่ใช่อาชญากร เขาเพียงไม่ต้องการให้อำนาจที่ไม่ถูกต้องมีอิทธิพลเหนือความถูกต้องเท่านั้นเอง เข้าใจไหมลุง
-ไม่เหมือนอนาคตใหม่ ทำไมเพื่อไทยไม่ขับไล่งูเห่า?
การตัดสินใจจัดการกับงูเห่าของพรรคเพื่อไทย เป็นคนละบริบทกับอนาคตใหม่ วันที่อนาคตใหม่ตัดสินใจเพราะอนาคตของพรรคไม่แน่ไม่นอน ไม่รู้จะถูกยุบไปวันไหน
ดังนั้น การตัดสินใจที่เด็ดขาดเป็นการสร้างพลังสร้างทีมสปิริตให้กับพรรคเอง ส่วนของเพื่อไทยไม่ได้อยู่ในสถานการณ์ล่อแหลมขนาดนั้น
การประกาศไม่สังฆกรรม ไม่ให้ ส.ส.งูเห่าเข้าร่วมกิจกรรมใดๆ ของพรรคและไม่ส่งลงสมัครคราวหน้าโดยเด็ดขาด ก็ถือว่าเป็นความชัดเจนในระดับหนึ่ง
ไม่จำเป็นที่เพื่อไทยจะต้องขับสมาชิกพรรคออกไปหารัฐบาล เป็นการเปิดประตูให้เค้าหอบผ้าหอบผ่อนหนีตามกันไปได้โดยง่าย
โหวตอีกกี่ครั้งกี่ครั้งคนที่ใจเค้าไปแล้วก็จะยกมือให้กับฝ่ายรัฐบาลอยู่ดี เอาไว้เป็นงูเห่าตากแห้งอย่างนี้ก็ไม่มีอะไรเสียหายนะครับ
-ประชาธิปัตย์ระส่ำ เคราะห์กรรมจากปางก่อน
เรื่องราวในพรรคประชาธิปัตย์คงไม่ได้จบแค่นี้ล่ะครับ ผมเชื่อว่าจะมีคนทยอยออกไปอีก
แล้วคนที่ยังอยู่ ก็ไม่ได้หมายความว่าจะเป็นเอกภาพหรือเข้าใจแนวทางของพรรคตรงกัน
นี่คือบทสรุปของแนวทางการเมืองที่ผิดพลาด ไปสมคบคิดกับอำนาจนอกระบบ เปิดทางให้เกิดการรัฐประหาร ในที่สุดก็ได้รับบทเรียนอย่างเจ็บแสบจากประชาชน
ถ้าจะหาคนรับผิดชอบที่ทำให้พรรคประชาธิปัตย์มาจนถึงวันนี้ ก็คงหมายถึงบรรดาแกนนำพรรคทั้งหลาย คนที่ปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้ คือคุณชวน หลีกภัย
เรื่องราวตั้งแต่สมคบกับกลุ่มพันธมิตรฯ และบอยคอตการเลือกตั้งสมัยนายกฯ ทักษิณ และสร้าง กปปส. บอยคอตการเลือกตั้งอีกครั้งสมัย ‘ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร’ ถ้าคุณชวนไม่เห็นด้วยสักคนหนึ่ง ไม่มีทางที่ประชาธิปัตย์จะเลยเถิดมาถึงขนาดนี้ จะอ้างว่าที่เดินมาเพราะเป็นข้อสรุปของพรรค พรรคเป็นประชาธิปไตย เมื่อตัดสินใจก็จะเดินมาด้วยกัน เป็นไปไม่ได้ล่ะครับ พรรคการเมืองประชาธิปไตยแบบไหนเป็นเชื้อไฟให้เผด็จการ
-ถ้าคืนชีพไม่ได้ ก็ต้องมีตัวตายตัวแทน
สิ่งที่ต้องตามดูกันต่อก็คือรากฐานหลายสิบปีของพรรคประชาธิปัตย์ จะสามารถฟื้นตัวขึ้นมาได้หรือไม่อย่างไร
หรือสุดท้ายจะกลายเป็นพรรคพลังประชารัฐที่ขึ้นมาเป็นตัวแทนอย่างแท้จริงของพรรคการเมืองฝ่ายอนุรักษนิยมบนซากปรักหักพังของพรรคประชาธิปัตย์
หลังจากนี้คงเกิดพรรคการเมืองใหม่ๆ ขึ้นมาหลายพรรคล่ะครับ เพราะว่ากติกามันสร้างพรรคการเมือง SME ประชาชนก็ต้องดูกันดีๆ นะครับว่าพรรคไหนสมคบเผด็จการ พรรคไหนยืนยันหลักการประชาธิปไตย มี 2 อย่างเท่านั้นล่ะครับ ไอ้ประเภทแทงกั๊กล่ะไม่มี
– ‘หนีซักฟอก’ ข่าววงในบอกลุงจะยุบสภา?
ไม่มีล่ะครับที่ ‘ลุงตู่’ จะยุบสภาช่วงนี้ เป็นข่าวลือลอยลมกันมาเฉยๆ แกอยากเป็นเนื้อตัวสั่นซะขนาดนั้น ถึงขั้นร่างรัฐธรรมนูญเพื่อสืบทอดอำนาจตัวเอง กำหนดยุทธศาสตร์ชาติไปอีก 20 ปี
ถ้าจะดูเรื่องยุบสภา ห่วงเรื่องยุบอนาคตใหม่ดีกว่า แม้ว่าจะมีหลายคนเปิดข้อเท็จจริงในแต่ละข้อกล่าวหาว่า ไม่น่าจะเอาผิดอนาคตใหม่ได้
แต่ดูแล้วยังไงยังไง ก็ตั้งท่าจะยุบกันอยู่ดี ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงๆ ก็เท่ากับอนาคตเก่ามายุบอนาคตใหม่ ส่วนอนาคตของประเทศไทย มืดมนเต็มที’ นายณัฐวุฒิกล่าว
(ทีมงาน)
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่