‘วีระ’ บุก ปทส. ทวงถามความคืบหน้าคดี ‘ปารีณา-ทวี’ บุกรุกป่าสงวน

เมื่อวันที่ 20 มกราคม นายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชัน (คปต.) ได้เดินทางไปพบ พล.ต.ต.วิวัฒน์ ชัยสังฆะ ผู้บังคับการ บก.ปทส. เพื่อขอทราบผลความคืบหน้าในการดำเนินคดีปารีณาและทวี ไกรคุปต์ กรณีบุกรุก ครอบครองที่ดินของรัฐ (ป่าไม้และป่าสงวนแห่งชาติฝั่งซ้ายแม่ย้ำภาชี) ซึ่งได้แจ้งความกล่าวโทษไว้ตั้งแต่วันที่ 21 พ.ย. 2562 แต่คดีถูกดองไว้ตั้งแต่วันที่ 6 ธ.ค.2562

โดยนายวีระกล่าวได้มีการไลฟ์สดผ่านทางเฟซบุ๊ก และได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าว ก่อนเข้าพบ พล.ต.ต.วิวัฒน์ ว่า ได้นัดไว้กับผู้บังคับการเอาไว้ พล.ต.ต.วิวัฒน์ ชัยสังฆะ ผู้บังคับการ บก.ปทส. เมื่อวันศุกร์ ทราบอย่างไม่เป็นทางการว่า ปทส. ตั้งคณะกรรมการสอบสวน เพียงชุดเดียว เรื่องปารีณา แต่เรื่องทวี ไกรคุปต์ ไม่ได้ตั้งขอคณะกรรมการสอบสวน ทราบว่าส่งเรื่องกลับไปยังสวนผึ้ง เลยอยากจะมาทราบความจริง และอยากขอดูรายชื่อของคณะพนักงานสอบสวนคดีปารีณา ว่ามีใครบ้าง และจะสอบถามความคืบหน้าว่า ดำเนินการไปถึงไหนแล้ว เพราะทาง ปทส.ได้รับหนังสือจากทาง ตร. เมื่อวันที่ 8 มกราคมนี้เอง และเมื่อวันศุกร์ที่ 17 มกราคม ก็เพิ่งจะแต่งตั้งคณะพนักงานสอบสวน ใช้เวลาเกือบ 2 อาทิตย์ เพิ่งตั้งคณะพนักงานสอบสวนเสร็จ

นายวีระกล่าวว่า คดีที่ฟ้องไว้ คือ สวนผึ้ง จอมบึง ของคุณปารีณา และที่สวนผึ้งของคุณทวี พันกว่าไร่เหมือนกัน แยกกัน ตอนแรกว่ารับไว้ทั้งหมด ล่าสุดทราบว่า ตั้งคณะพนักงานสอบสวนเพียงเรื่องเดียว คือเรื่องปารีณา ที่จอมบึง วันนี้จึงมาสอบถามรายละเอียด เพราะก่อนหน้านี้ได้สอบถามกับตำรวจบางคน ซึ่งก็ยังไม่ทราบ เขาก็พูดไม่เต็มปาก วันนี้จะมาเอาความคืบหน้าอย่างละเอียดจากผู้บังคับการ

นายวีระกล่าวว่า คดีล่าช้า เทียบกับประชาชนทั่วไป ถ้าถูกดำเนินคดีฐานบุกรุกที่ป่าสงวนแห่งชาติแบบนี้ ไม่กี่วัน เรื่องก็ถึงศาล เพราะชัดเจน ข้อกฎหมายเขียนไว้ชัดเจน ว่ามีความผิด กรณีนี้ชัดเจนอยู่แล้วว่า คุณปารีณา บุกรุก ครอบครอง ไม่มีใครที่จะมาเถียงได้ แต่ในส่วนที่ยังยึกยัก เข้าใจว่าพยายามจะหาทางออก เรื่องที่ว่า คุณปารีณาเจตนาหรือไม่ แต่ถ้าถามประเด็นนี้ก็ชัดเจนอยู่แล้ว คุณปารีณาก็เลี่ยงไม่ได้ เพราะคุณปารีณายืนยันและยอมรับมาตลอด ไม่เคยปฏิเสธเลยว่า ไม่ได้ครอบครอง และยืนยันว่าครอบครองมาก่อนที่จะเป็นสปก.ด้วยซ้ำ และยังอ้างว่า ครอบครองพื้นที่ ภบท.5 ตรงนั้นเป็น ภบท.5 ไม่ได้ เพราะมันเป็นป่าสงวนแห่งชาติ ภบท.5 ที่จะไม่มีความผิด ไม่ได้รับการอนุโลมผ่อนผันได้ต้องเป็นพื้นที่ป่าหมดสภาพ ที่ให้ประชาชนเข้าไปทำกิน โดยยอมรับให้เสียภาษี ภบท.5 เท่านั้น แต่ตรงนี้เป็นพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ

Advertisement

ถ้าคดียืดยาวออกไป คงพูดอะไรตอนนี้ไม่ได้ มันจะเสียที่กำลังจะดำเนินการ ยังมีอีกหลายเรื่องที่สำคัญ ไม่ใช่ความผิดทางอาญา ยังมีความผิดอื่นอีก คงพูดอะไรตอนนี้มากไม่ได้ เหมือนไปเปิดช่อง ขอให้ดำเนินคดีอาญาตอนนี้ก่อน

เมื่อถูกถามเรื่องไลน์หลุดของปารีณา นายวีระกล่าวว่า “ผมไม่ให้ความสำคัญกับเรื่องไลน์หลุด ผมให้ความสำคัญกับการดำเนินคดี เรื่องไลน์หลุด อาจจงใจให้เป็นข่าว หรืออะไรก็ได้ หรือเป็นวิชามาร ให้เบี่ยงเบนประเด็นตามแนวทางที่ต้องการก็ได้ ผมไม่ได้ให้ความสำคัญ อยากให้ความสำคัญกับปารีณาติดคุกหรือไม่ คนทั้งประเทศเฝ่ารออยู่ จะติดคุกเหมือนกับประชาชนหมื่นๆ คนหรือไม่”

โดยหลังจากพบกับ พล.ต.ต.วิวัฒน์ นายวีระได้ไลฟ์เฟซบุ๊ก ตอบคำถามผู้สื่อข่าวอีกครั้งว่า เป็นไปตามที่เคยทราบมาก่อนว่า ตอนนี้ ทาง ปทส.รับไว้เต็มๆคือกรณีปารีณาคดีเดียว ส่วนของทวี สวนผึ้ง ตอนนี้หลักๆ คือทางสวนผึ้งรับไปดำเนินการ และทาง ปทส.จะช่วยเขา

Advertisement

ด้าน พล.ต.ต.วิวัฒน์กล่าวว่า ในหนังสือของตำรวจป่าไม้ ขอทำคดีปารีณาคดีแรกคดีเดียวตั้งแต่เริ่มต้น มีประมาณ 10 ท่าน ขั้นตอนในการสืบสวน ขึ้นอยู่กับพยาน หลักฐาน ไม่น่าจะนานเพราะทำมาตลอด อยู่ระหว่างการดำเนินการ

นายวีระกล่าวต่อว่า ฟังจาก พล.ต.ต.วิวัฒน์ ก็ชัดในส่วนที่ฟังจากท่าน แต่ยังแปลกใจอยู่ตั้งแต่ต้นว่า ตั้งแต่วันที่ 6 ธ.ค.2562 สำนวนของตน ทั้งจอมบึงและสวนผึ้ง ถูกเรียกเข้าส่วนกลาง แต่ที่สุดแล้ว ทางสวนผึ้งก้ถูกเรียกกลับเข้าสวนผึ้ง ให้ดำเนินการช่วงระหว่างที่ถูกเรียกเข้ามาส่วนกลาง ทำให้ คดีเหมือนถูกทำให้หยุดชะงัก ซึ่งตรงนี้เป็นเรื่องที่ผมไม่สบายใจ แต่ในส่วนของปารีณา ชัดเจนมาตลอด ตอนนี้ยิ่งขัดเจนว่าทางปทส.เป็นเจ้าภาพหลัก และเท่าที่ฟังจากผุ้บังคับการ ก็มีความคืบหน้า เดี๋ยวต้องไปดูที่กองกำกับ 5 ว่าคืบหน้าถึงไหน เพราะตอนนี้ก็ยังไม่เห็น ยังพูดไม่ได้

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image