09.00 INDEX จากกรณี ฉลอง เทอดวีระพงศ์ มาถึงกรณี นาที รัชกิจประการ

ไม่ว่ารัฐบาล ไม่ว่าพรรคภูมิใจไทย ล้วนมองว่ากรณีมีผู้กดเสียบบัตรของ นายฉลอง เทอดวีระพงศ์ ต่อร่างพรบ.งบประมาณจะเป็นเรื่องส่วนตัว

เป็นเรื่องส่วนตัวเนื่องจากการต่อสู้ทางการเมืองกับ นายนิพิฎฐ์ อินทรสมบัติ ในการเลือกตั้งเมื่อเดือนมีนาคม 2562

เป็นเรื่องส่วนตัวเนื่องจากเป็นความบกพร่อง ผิดพลาดอันเกิดขึ้น เฉพาะตัวของ นายฉลอง เทอดวีระพงศ์ ไม่เกี่ยวกับพรรค ไม่เกี่ยวกับรัฐบาล

แต่ที่ไม่ควรลืมอย่างเด็ดขาดก็คือ นายฉลอง เทอดวีระพงศ์ เป็น ส.ส. ในสังกัดพรรคภูมิใจไทย และที่สำคัญกรณีการกดบัตรของเขามีผลอย่างลึกซึ้งต่อความเห็นชอบร่างพรบ.งบประมาณ

Advertisement

ร่างพรบ.งบประมาณอันเป็นพรบ.การเงิน

จากร่างพรบ.งบประมาณ พ.ศ.2563 นำไปสู่กรณีอันเคยเกิดขึ้นกับพรบ.เงินกู้ 2.2 ล้านล้านบาทในรัฐบาลของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ซึ่งผ่านความเห็นชอบจากสภาแต่ต้องกลายเป็นโมฆะไป

เหตุผลหนึ่งซึ่งมีการกล่าวหาและผ่านการวินิจฉัยของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญในปี 2557 ก็คือ

ผ่านเพราะมีการกดบัตรแทนกันในสภาผู้แทนราษฎร

กรณีของร่างพรบ.งบประมาณ พ.ศ.2563 อาจยังไม่ไปไกลถึงระดับนั้น เพราะมีความพยายามจะระงับยับยั้งเสียก่อน แต่ก็มิอาจทำให้คำวินิจฉัยของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเมื่อปี 2557

ต้องผ่านเลยไปโดยที่สังคมไม่เก็บรับนำมาเป็นบทเรียน

หรือเพราะว่าพรบ.เงินกู้ 2.2 ล้านล้านบาทเป็นพรบ.ยุครัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ขณะที่ร่างพรบ.งบประมาณ พ.ศ.2563

เป็นเรื่องในยุค พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

ยิ่งกว่านั้น ต่อร่างพรบ.งบประมาณ พ.ศ.2563 เด่นชัดมากยิ่งขึ้นเป็นลำดับว่า การกดบัตรแทนกันในสภาผู้แทนราษฎรมิได้มีแต่กรณีของ นายฉลอง เทอดวีระพงศ์ เท่านั้น

หากแต่มีการเปิดเผยออกมาอีกด้วยว่ายังมี นางนาที รัชกิจประการ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย

สภาพดำเนินไปเหมือนกับ นายฉลอง เทอดวีระพงศ์

นั่นก็คือ มีการกดบัตรเสียบแทน ทั้งๆที่เจ้าของบัตรเดินทางไปต่างประเทศ

เด่นชัดยิ่งว่าทั้งหมดนี้ย่อมมิได้เป็นเรื่องส่วนตัวแน่นอน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image