เสียบบัตร แทนกัน : ความเขี้ยว ประชาธิปัตย์ : แต่ละ จังหวะก้าว

ทั้งๆ ที่รู้อยู่เป็นอย่างดีว่าการออกมาเปิดโปงกรณี นายฉลอง เทอดวีระพงศ์ ไม่ได้อยู่ในที่ประชุมแต่มีการเสียบบัตรลงคะแนนเสียงเป็นเรื่องใหญ่แน่ๆ

เหตุใด นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ จึงทำ

อย่าได้แปลกใจที่จะมีเสียงเสียดเย้ยจากภายในพรรคภูมิใจไทยว่าเป็นปฏิบัติการ “กัดไม่ยอมปล่อย” ของ นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ

เป็นแค้นตั้งแต่ “แพ้” การเลือกตั้ง

Advertisement

โดยพื้นฐานอาจเป็นเช่นนั้น แต่หากดูกระบวนการตรวจสอบไม่ว่าจะจากกลไกภายใน “รัฐสภา” ไม่ว่าจะจากกลไกที่ “สนามบิน”

ทำให้เห็น “เส้นทาง” ที่สะดวกและราบรื่น

อาการบานและขยายจาก นายฉลอง เทอดวีระพงศ์ ไปยัง นางนาที รัชกิจประการ จึงเป็นเรื่องที่เชื่อได้ว่ามีการตระเตรียมอยู่แล้ว

มิได้เป็นเรื่อง “อุบัติเหตุ” มิได้เป็นเรื่อง “บังเอิญ”

ถามว่าพรรคประชาธิปปัตย์กับพรรคภูมิใจไทยมีรอยแค้นในลักษณะพรรคต่อพรรคหรือไม่ จุดเด่นจากกรณีที่พัทลุง กรณีที่ภาคใต้ อาจเป็นเช่นนั้น

เป้าหมายจริงๆ อาจเพียง นายฉลอง เทอดวีระพงศ์

กรณีของ นางนาที รัชกิจประการ ดูคล้ายกับเป็นเรื่อง “ตามน้ำ” เพื่อทำให้ถ้อยสบประมาทจากภายในพรรคภูมิใจไทยสมจริงยิ่งขึ้น

แต่ไม่ตระหนักเลยหรือว่า สถานการณ์อาจ “บาน”

หากย้อนกลับไปดูรอยร้าวลึกๆ อันเกิดขึ้นจากการดึงงานกรมประมงจากทั้งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และรองนายกรัฐมนตรี

อาจสัมผัสได้

ยิ่งหากย้อนไปยังการเบียดขบในเรื่องประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญ ยิ่งหากย้อนไปยังการไหลออกของหลายคนในพรรคประชาธิปัตย์อย่างต่อเนื่อง

ก็อาจจะตระหนักในความรู้สึกของพรรคประชาธิปัตย์

ต้องยอมรับว่า ไม่ว่าจะมองในแง่อาวุโสของพรรคการเมือง ไม่ว่าจะมองในแง่ประสบการณ์และความจัดเจนในทางการเมือง

พรรคประชาธิปัตย์ยืนอยู่แถวหน้า

เพราะว่าพรรคประชาธิปัตย์ก่อรูปมาตั้งแต่เดือนเมษายน 2489 เพราะว่า นายชวน หลีกภัย สะสมบทเรียนมาตั้งแต่การเลือกตั้งเมื่อปี 2512

การร่วมรัฐบาลของพรรคประชาธิปัตย์จึงมิได้ดำเนินไปอย่างเชื่องๆ

ด้านหนึ่ง อาจหวังโอกาสที่ดำรงอยู่ในสถานะรัฐบาล ขณะเดียวกัน ด้านหนึ่ง ก็หวังว่าจะอาศัยแต่ละเงื่อนไขมาพลิกฟื้นพรรค

การเล่นกับพรรคประชาธิปัตย์จึงไม่ง่าย

ไม่ง่ายเหมือนดึงพรรคภูมิใจไทย ไม่ง่ายเหมือนดึงพรรคชาติไทยพัฒนา และไม่ง่ายเหมือนดึงพรรคชาติพัฒนา มาเป็นติ่ง

พอเห็นกรณี “เสียบบัตร” ก็รู้ว่าพรรคประชาธิปัตย์ระดับไหน

ความเขี้ยวของพรรคประชาธิปัตย์มิได้ดำเนินไปในแบบ 1 บวก 1 เป็น 2 อาจหงุดหงิดกับกรณีประมง อาจหงุดหงิดกับการเตะสกัดขาในคณะกรรมาธิการ

แต่พรรคประชาธิปัตย์ก็สุขุม

สุขุมอย่างเพียงพอที่จะรอเวลา และเมื่อประสบเข้ากับกรณี นายฉลอง เทอดวีระพงศ์ ก็เข้าทาง ผลก็คือ แม้กระทั่งพรรคพลังประชารัฐก็ออกอาการตามไปด้วย

เห็นหรือยังว่าพลานุภาพของพรรคประชาธิปัตย์เป็นอย่างไร

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image