⦁…อยู่ๆ ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ 63 กำลังจะครบกระบวนการ ก็ดันมีนักเลงดี นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีต ส.ส.พัทลุง ปชป. แฉเปรี้ยงปร้างว่า ส.ส.ภูมิใจไทย 2 คน ไม่ได้อยู่ในที่ประชุม แต่ดันมีชื่อเสียบบัตร ลงมติกับเขาด้วย งานนี้ อย่าว่าแต่ เสี่ยหนู อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย จะปวดเศียร แต่ จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้า ปชป. ก็เวียนหัว เกิดอาการจี๊ดไปด้วย
⦁…ข่าวภูมิใจไทยยังไม่สร่างซา สื่องัดเอาคลิป 2 ส.ส.หญิง พปชร. กำลังวุ่นกับบัตรลงคะแนนหลายใบ ร้อนถึง เสี่ยโอ๋ ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ เลขาฯ วิปรัฐบาล ต้องพาตัว ภริม พูลเจริญ ส.ส.สมุทรปราการ หนึ่งในสองสาวออกมาแจกแจงว่า แค่ช่วยเสียบบัตร เพราะช่องเสียบบัตรไม่พอ มีแค่ 68 จาก ส.ส. 117 คน ขณะที่อีกหนึ่งสาว ภาดาท์ วรกานนท์ ส.ส.กทม. บอกว่าไม่ได้เสียบแทนใคร แค่ย้ายช่องเสียบบัตรเพราะอีกช่องหนึ่งไฟไม่ขึ้น
⦁…ภาษา “ศาสตร์แห่งโหร” จะเรียกศุกร์เข้า-เสาร์แทรก-ราหูขย่ม-โลกาวิบัติวินาศ หรืออะไรก็ตาม แต่งานนี้หนักจริง เพราะ “งบประมาณ” ที่ทุกฝ่ายใจจดจ่อตั้งหน้ารออยู่ ต้องช้า-ยืดออกไปอีก วิปรัฐเลยต้องกลืนเลือด รีบลงมติยื่นเรื่องให้ “ศาลรัฐธรรมนูญ” วินิจฉัยว่าร่าง พ.ร.บ.งบฯ โมฆะทั้งฉบับ หรือเสียไปเป็น “บางส่วน” ขณะที่ฝ่ายค้าน ก็ยื่นให้วินิจฉัยว่า กระบวนการตรา กม.มิชอบ มีผลทำให้ร่าง พ.ร.บ.งบฯ เสียทั้งฉบับ
โดยอ้างคำวินิจฉัยของศาลจากกรณีเมื่อปี 2556 เป็นฐาน
⦁…ร่าง พ.ร.บ.งบฯตกท่อ, ฝุ่นพีเอ็ม 2.5 ยิ่งประชุมยิ่งเยอะ ภาพข่าวที่แพร่กระจายออกไปทำให้นักท่องเที่ยว “เข้าเกียร์ถอยกรูด” เท่านั้นยังไม่พอ ยังมี “โคโรนาไวรัส” ส่งตรงจากเมืองจีน มากับนักท่องเที่ยว โผล่มาเสริมข่าวร้ายให้ร้ายหนักขึ้น นี่ยังไม่ได้พูดถึง “ค่าเงินบาท” ที่แข็งไม่เลิก จนกระทรวงท่องเที่ยว ต้องกระฉูดไอเดีย “ชิมช้อปใช้ อินเตอร์” มาแก้เกม จนโดนด่าเละแทน “แบงก์ชาติ” เจ้าภาพตัวจริงของบาทแข็งไปแล้ว
⦁…มรสุมหนัก จนเกิดกระแสว่า “บิ๊กตู่ ประยุทธ์ จันทร์โอชา” จะถอดใจ ถอยจาก “เก้าอี้นายกฯ” หรือไม่ คำตอบในระยะนี้คือ คงจะ “ยาก” เพราะลงทุนเขียนรัฐธรรมนูญมา “อุ้ม” กันขนาดนี้ แต่เริ่มคาดหมายกันแล้วว่า หาก “บิ๊กตู่” ต้องถอยจริงๆ “ใคร” กันหนอ จะเจอ “แจ๊กพ็อต” มานั่งรับหน้าเสื่อแทน มีชื่ออยู่หลายชื่อเหมือนกัน ทั้งชื่อของหัวหน้าพรรคในบัญชีนายกฯประจำพรรค และ “คนนอก”
⦁…ปัญหาฝุ่นพีเอ็ม 2.5 กับโคโรนาไวรัส กำลังเป็น “ตัวหลัก” ในการ “ขับไล่นักท่องเที่ยว” อันเป็นรายได้ขึ้นหน้าขึ้นตาของประเทศที่เหลืออยู่ หลายฝ่ายกระตุ้นให้รัฐบาล เดินหน้าแบบ “แมนๆ” แอ่นอกยอมรับความจริง แล้วหาทางแก้ปัญหาแบบยั่งยืน ต้องยอมสูญเสียบ้าง “ทุนอุตสาหกรรม ทุนเกษตรกรรม บริษัทรถ บริษัทก่อสร้าง ฯลฯ” ต้องเสียสละเพื่อรักษาภาพรวมทุกฝ่ายต้องปลูกต้นไม้ รักษาป่าด้วยการปฏิบัติ ทั้งหมดนี้ จะช่วยคิกออฟ “แผนแก้ระยะยาว” เพื่อ “ความยั่งยืน”
กาแฟป่า
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่