“คสช.” ยันไม่สองมาตรฐาน ปม “นปช.-กปปส.” วิจารณ์ร่าง รธน. ตอกกลับ ปชต.ใหม่ ยึดหลัก กม. ย้ำแสดงความเห็นได้ เตือนห้ามเคลื่อนไหวการเมือง
เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน ที่กองบัญชาการกองทัพบก พล.อ.ธีรชัย นาควานิช ผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานการประชุมสำนักงานเลขาธิการ คสช.
โดย พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษก คสช. กล่าวภายหลังการประชุม ถึงการออกมาวิพากษ์วิจารณ์ร่างรัฐธรรมนูญของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ประธานมูลนิธิมวลมหาประชาชน และกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ว่าทาง คสช.จะติดตามดูสถานการณ์ เพราะเรื่องนี้ทางคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) พิจารณาประเด็นนี้อยู่ หากมีอะไรที่สุ่มเสี่ยงทาง กกต.จะวิธีการบอกกล่าวกันเป็นส่วนตัว สำหรับการออกมาเคลื่อนไหวของกลุ่มขบวนการประชาธิปไตยใหม่นั้น ตนขอยืนยันว่าคสช.ยึดตามกรอบกฎหมายเป็นหลัก โดยใช้แนวทางเดิม เริ่มจากขอความร่วมมือว่ากล่าวตักเตือน ถ้าเกินระดับทางเจ้าหน้าที่คงจำเป็นต้องบังคับใช้กฎหมายเป็นหลัก ทั้งนี้ ตนขอให้เชื่อมั่นการบังคับใช้กฎหมายจะไม่เกินกว่าเหตุ แต่จะดำเนินการอย่างค่อยเป็นค่อยไป
พ.อ.วินธัยกล่าวต่อว่า ทาง คสช.ไม่ได้จับตาอะไรเป็นพิเศษที่นายสุเทพออกมาเคลื่อนไหวว่าจะรับร่างรัฐธรรมนูญ เป็นเพียงการดูในภาพรวมตามกฎหมาย ทั้งนี้ หากจะแสดงใดต้องอยู่ในกรอบ และอย่าไปละเมิดกฎหมาย ส่วนการที่นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช มองว่านายสุเทพเคลื่อนไหวได้นั้นเป็นสองมาตรฐานนั้นเป็นเพียงความคิดเห็นส่วนบุคคล ตนขอยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ดำเนินการทุกอย่างแบบเปิดเผยตรงไปตรงมา ภายใต้บรรทัดฐานเดียวกัน
เมื่อถามว่าบรรยากาศการทำประชามติจะอึมครึม เพราะการออกมาแสดงสัญลักษณ์เกิน 5 คนจะขัดคำสั่ง คสช. โฆษก คสช.กล่าวว่า ต้องดูว่าเป็นกิจกรรมทางการเมืองหรือไม่ หากเป็นการแสดงความคิดเห็นหลายๆบุคคลก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร ไม่ว่าจะเห็นด้วยหรือเห็นต่างก็ตาม สามารถทำได้ แต่ว่าบางส่วนที่แสดงความคิดเห็น แต่ทางพฤตินัยไม่ใช่เช่นนั้น หากเจ้าหน้าที่พิจารณาว่ากล่าวตักเตือน
เมื่อถามว่าการที่เจ้าหน้าที่ไปยึดลูกโป่งของขบวนการประชาธิปไตยใหม่ พ.อ.วินธัยกล่าวว่า การดำเนินกิจกรรมบางครั้งต้องดูที่ดุลพินิจของเจ้าหน้าที่ในพื้นที่นั้นพิจารณาว่ากิจกรรมดังกล่าวเกี่ยวข้องกับการเมือง หรือว่าบางกิจกรรมสุ่มเสี่ยงให้สังคมเข้าใจว่าผิดกฎหมาย หากกิจกรรมดังกล่าวอาจจะเป็นตัวอย่างให้กลุ่มอื่นๆ จะส่งผลให้เกิดความไม่เรียบร้อยในสังคม
เมื่อถามย้ำว่าปล่อยลูกโป่งไม่ได้ หรือไม่ พ.อ.วินธัยกล่าวว่า เป็นเพียงพฤติกรรมหนึ่งเท่านั้น แต่เจ้าหน้าที่จะมององค์ประกอบอื่นด้วย
ด้าน พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษก คสช. กล่าวว่า ตามธรรมชาติของความรู้สึกนึกคิดทางการเมืองต้องปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติ และประชาธิปไตยที่คนไทยมีอยู่ ซึ่งจะเห็นได้ว่าการแสดงความคิดเห็นก็จะมีทิศทางที่แตกต่างกันไป เพราะที่ผ่านมามีการนำข้อมูลไปป้ายสีกัน แต่ปัจจุบันการแสดงความคิดเห็นต่างๆ ได้มุ่งเป้าไปสู่การทำประชามติ และร่างรัฐธรรมนูญ ทำให้มีความคิดเห็นแตกต่างกัน นี่เป็นความสวยงามที่ประชาชนสามารถแสดงความคิดเห็นได้ เพราะฉะนั้นความแตกต่างดังกล่าวเป็นรูปธรรมที่แตะต้องได้ ซึ่ง คสช.พยายามทำให้บรรยากาศเป็นไปอย่างสร้างสรรค์และไม่ปิดกั้นการแสดงความคิดเห็นเลย
