เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ นายภูมิธรรม เวชยชัย ที่ปรึกษาผู้นำฝ่ายค้านในสภาฯ กล่าวว่า หลังจากที่พรรคร่วมฝ่ายค้านยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รับมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมและรัฐมนตรีรวม 6 คน ขั้นตอนจากนี้นายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ จะตรวจสอบญัตติที่เราเสนอไป โดยใช้เวลาประมาณ 1 สัปดาห์ จากนั้นคงจะได้หารือกับทางรัฐบาลเพื่อกำหนดวันที่จะใช้อภิปรายและจำนวนวัน ซึ่งฝ่ายค้านเห็นว่าไม่ควรน้อยกว่า 3 วัน และควรอยู่ในช่วงประมาณวันที่ 19-21 กุมภาพันธ์ ซึ่งจะเป็นช่วงที่เหมาะสม หวังว่ารัฐบาลจะไม่เล่นแง่ กำหนดวันอภิปรายในช่วงวันที่ 26-28 กุมภาพพันธ์เพื่อหวังให้ชนกับช่วงปิดสภาฯ ทันที ทั้งนี้ การอภิปรายไม่ไว้วางใจเป็นช่วงเวลาที่ฝ่ายค้านจะได้แสดงข้อมูลและหลักฐานต่างๆ เพื่อชี้ให้เห็นถึงความล้มเหลว ไร้ประสิทธิภาพของรัฐบาล ขณะเดียวกันรัฐบาลก็จะได้ชี้แจงทำความเข้าใจกับประชาชนด้วย ดังนั้นรัฐบาลอย่ารวบรัด หากให้ฝ่ายค้านอภิปรายช่วงเวลาใกล้ปิดสภาฯ เท่ากับว่ารัฐบาลกำลังหวาดเกรง หลบเลี่ยงโดยใช้เวลามาเป็นเงื่อนไข ปิดกั้นการทำหน้าที่ของฝ่ายค้านหรือไม่
“สำหรับการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลในครั้งนี้ แม้จะเป็นการอภิปรายภายใต้รัฐบาลที่มีเสียงในมือมากกว่า ก็ไม่เป็นปัญหา เพราะเราไม่ได้คาดหวัง แต่เราจะใช้โอกาสนี้ทำความเข้าใจกับประชาชน ให้ประชาชนได้ใช้เหตุผลและวิจารณญาณ หากรัฐบาลชี้แจงตอบคำถามไม่ได้ก็เท่ากับว่าล้มละลายทางการเมืองเป็นที่เรียบร้อย ต่อให้มือในสภาฯ มากกว่าก็ไม่อาจฝืนความรู้สึกของประชาชนไปได้ สุดท้ายรัฐบาลก็ไปไม่รอด” นายภูมิธรรม กล่าว
นายภูมิธรรม กล่าวอีกว่า ในสัปดาห์หน้าทางพรรคร่วมฝ่ายค้านจะได้หารือกัน เอาข้อมูลมาคลี่เพื่อวางตัวผู้อภิปราย ซึ่งตนมองว่าไม่ควรใช้ผู้อภิปรายเยอะจนเกินไป ทั้งนี้ ในส่วนของพรรคเศรษฐกิจใหม่ (ศม.) ที่ขอถอนตัวจากพรรคร่วมฝ่ายค้านเพื่อไปทำหน้าที่ฝ่ายค้านอิสระนั้น ก็ไม่เป็นปัญหา เราไม่ติดใจ ส่วนนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเศรษฐกิจใหม่นั้น ยังยืนยันว่าจะอยู่กับฝ่ายประชาธิปไตย และยังได้ประสานเข้ามาที่ตนว่ามีความประสงค์จะขอร่วมอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลในครั้งนี้ด้วย ซึ่งทางเรายินดีและพร้อมเปิดโอกาสให้นายมิ่งขวัญเต็มที่
