‘อนุทิน’ ลั่น ภท. พร้อมโหวตหนุน หาก ‘รมต.’ ชี้แจงฝ่ายค้านได้ โยน ‘หัวหน้ารัฐบาล’ ตอบกระแสลือการเปลี่ยนแปลงหลังจบศึกซักฟอก
เมื่อเวลา 16.10 น. วันที่ 5 กุมภาพันธ์ ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี พรรคภูมิใจไทยในฐานะพรรคร่วมรัฐบาล พร้อมสนับสนุนข้อมูลให้แก่นายกรัฐมนตรี และ 5 รัฐมนตรี ที่ถูกฝ่ายค้านยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจอย่างไร ว่า โดยมารยาทของการร่วมรัฐบาล พรรคภูมิใจไทยยึดมั่น และเชื่อว่านายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีทั้ง 5 คน ทุกคนทำงานหนัก ทุ่มเท และเสียสละ เราต้องให้การสนับสนุน ถ้าทุกคนทำงานทุ่มเทเสียสละ เราก็พร้อมยกมือให้ แต่ทุกคนต้องรอฟังการชี้แจงในการอภิปรายญัตติดังกล่าว เพราะนี่เป็นกติกาไม่ใช่ ทะเล่อทะล่ายกมือให้โดยที่ไม่ฟังอะไรก่อนเลย เพราะเราต้องตอบสังคมให้ได้ ไม่ใช่พวกมากลากไป แต่เราก็เชื่อว่า ได้เข้ามาร่วมทำงานกับรัฐบาลที่มีความตั้งใจแก้ปัญหาให้ประชาชน
ดังนั้นหากไม่มีใครพิสูจน์ได้ว่ารัฐมนตรีแต่ละคนมีเจตนาไม่ดีต่อบ้านเมือง หรือมีการกระทำที่เป็นการทุจริตหรือทำร้ายบ้านเมือง เราก็สนับสนุน รัฐมนตรีเหล่านั้น แต่ถ้าฝ่ายค้านสามารถพิสูจน์ รัฐมนตรีเหล่านั้นว่ากระทำการมิชอบต่อบ้านเมือง แล้วตัวรัฐมนตรีเองไม่สามารถอธิบายได้ เราก็ไม่สนับสนุนรัฐมนตรีเเหล่านั้น
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากฝ่ายค้านมีหมัดเด็ดจริงตามที่ออกมาพูด พรรคภูมิใจไทยจะต้องหารือเป็นการภายในก่อนที่จะโหวตใช่หรือไม่ หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า ฝ่ายค้านกล่าวหาได้ แต่ตัวรัฐมนตรีเองก็ต้องชี้แจงให้ได้ หากชี้แจงได้ก็ไม่มีปัญหาอะไร “ผมหมายความว่าไม่ต้องกังวลว่า ถ้ารัฐมนตรีคนนั้นชี้แจงได้ แล้วภูมิใจไทยจะไปต่อรอง หรืองอแง ให้ครึ่งหนึ่งยกให้อีกครึ่งหนึ่งไม่ยกให้ ซึ่งพรรคภูมิใจไทยไม่ใช่อย่างนั้น ไม่ต้องเป็นห่วง ขอให้รัฐมนตรีแต่ละคนชี้แจงให้ได้ทุกอย่างก็จบ ซึ่งผมมั่นใจว่าทุกรัฐมนตรีสามารถชี้แจงได้”
เมื่อถามว่า หลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจแล้วจะเกิดการเปลี่ยนแปลงภายในรัฐบาลหรือไม่ตามที่มีกระแสคาดการณ์ นายอนุทิน กล่าวว่า “ต้องไปถามหัวหน้ารัฐบาล ไม่เกี่ยวกับผม”
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีการตรวจสอบข้อเท็จจริงที่พบว่ามีชาวเกาหลีติดเชื้อหลังจากเดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทย นายอนุทิน กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวยังต้องตรวจสอบอีกมาก เพราะในระหว่างที่เขาอยู่ประเทศไทยและเดินทางออกนอกประเทศไปเขาไม่แสดงอาการใดๆ อย่างไรก็ตามเราต้องขีดวงไว้ในประเทศ อย่าเพิ่งเปิดวงกว้างออกไป เราดูแลในส่วนของเมืองไทยให้ดีก็พอแล้วต่างคนต่างต้องดูแลตัวเองในยามยากอย่างนี้
