วิป 3 ฝ่ายเห็นชอบ ควบรวม ร.ร.ขนาดเล็กหมื่นโรง ตั้ง ‘มหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ’

วิป 3 ฝ่ายเห็นชอบ”สปท.-ศธ.”ร่วมพัฒนาอาชีวศึกษา-ปรับคุณภาพร.ร.ขนาดเล็ก พร้อมให้ก.ท่องเที่ยวฯ-สปท.-สถาบันพละร่วมถกตั้ง “ม.กีฬาชาติ”

เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเปิดเผยว่า การประชุมคณะกรรมการประสานงานระหว่างรัฐบาล สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ(สปท.) และสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) หรือวิป 3 ฝ่าย เมื่อวันที่ 29 มิถุนายนที่ผ่านมา ได้พิจารณาแผนการปฏิรูปด้านการศึกษาที่สปท.เสนอ คือ 1.การอาชีวศึกษาแบบทวิภาคีซึ่งเป็นการร่วมมือกันระหว่างสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) กับผู้ประกอบการเอกชนต่างๆ ในการจัดการศึกษาเพื่อให้นักเรียนอาชีวศึกษามีงานทำทั้งระหว่างเรียนและหลังจบการศึกษาไปแล้ว ซึ่งสปท.เสนอว่าต้องการให้รัฐบาลขับเคลื่อนเรื่องนี้อย่างเต็มรูปแบบ ขณะที่กระทรวงศึกษาและกระทรวงแรงงานที่มาชี้แจงต่อที่ประชุม ก็เห็นด้วย พร้อมระบุว่ามีแผนการขับเคลื่อนเรื่องดังกล่าวอยู่แล้ว โดยอยู่ในรายการรับการจัดสรรงบประมาณประจำปีงบประมาณ 2560 ทั้งนี้ที่ประชุมเห็นชอบและให้คณะกรรมาธิการ(กมธ.)ขับเคลื่อนการปฏิรูปด้านการศึกษา สปท. ทำงานร่วมกับทั้ง 2 กระทรวงนี้เพื่อให้ประสบผลสำเร็จต่อไป

นายสุวพันธุ์ กล่าวอีกว่า 2.การบริหารจัดการการศึกษาโรงเรียนขนาดเล็กที่มีประมาณ 15,000 โรง ซึ่งสปท.เสนอมาตรการปรับปรุงคุณภาพการศึกษาของโรงเรียนขนาดเล็กด้วยการให้ควบรวมด้วยกัน โดยมีโรงเรียนที่จะควบรวมได้ 10,971 โรง ส่วนที่ไม่ถูกควบรวมเป็นโรงเรียนที่มีคุณภาพ เป็นโรงเรียนที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกล หรือเป็นโรงเรียนที่แต่ละแห่งอยู่ห่างระหว่างกันเกิน 6 กิโลเมตร ขณะเดียวกัน กระทรวงศึกษาธิการแจ้งว่าสำนักงานคณะกรรมการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.) มีแผนการทำงานในเรื่องนี้อยู่แล้ว ดังนั้นที่ประชุมเห็นชอบที่กมธ.ปฏิรูปการศึกษาฯ จะไปทำงานร่วมกับสพฐ.ในการให้ข้อมูล ข้อเสนอแนะ ติดตามประเมินผลเพื่อเร่งรัดงานดังกล่าวให้เกิดผลสำเร็จ เพราะเป็นเรื่องที่มีปัญหามานานแล้ว ทั้งหมดนี้ถือว่าความคิดเห็นและข้อเสนอแนะของสปท.เป็นไปในทิศทางเดียวกับแผนงานของกระทรวงศึกษาธิการ

นายสุวพันธุ์ กล่าวว่า นอกจากนี้ ที่ประชุมได้พิจารณาข้อเสนอของ สปท. เรื่องการบูรณาการสถาบันการพลศึกษาเป็นมหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ พร้อมร่างพ.ร.บ.มหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ พ.ศ. …. ซึ่งจะให้จัดตั้งมหาวิทยาลัยดังกล่าวประจำ 4 ภาค แต่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเสนอว่าควรตั้งมหาวิทยาลัยนี้ที่เดียว และที่เหลือให้ตั้งเป็นวิทยาเขต อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ นายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 24 พ.ค.ที่ผ่านมา ไปพิจารณาในแง่ของความเหมาะสม สาขาวิชาที่ควรมี และต้องเกิดความไม่ซ้ำซ้อน เพราะตอนนี้มีสถาบันการพลศึกษาทั่วประเทศ 17 แห่ง โรงเรียนกีฬา 13 โรง ทั้งนี้ ที่ประชุมวิปฯ จึงมอบหมายให้ สปท. กระทรวงการท่องเที่ยวฯ และสถาบันการพลศึกษา ไปหารือร่วมกันในรายละเอียดเพราะแต่ละฝ่ายยังเห็นต่างกันอยู่ เพื่อให้ข้อสรุปที่นำไปสู่การดำเนินงานพร้อมกับปรับปรุงร่างพ.ร.บ.จัดตั้งมหาวิทยาลัยดังกล่าว ซึ่งรัฐบาลพร้อมสนับสนุนให้เกิดขึ้นโดยเร็ว เพราะการกีฬาเป็นสิ่งสำคัญและมีประโยชน์ต่อประเทศและประชาชนในหลายด้าน

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image