การทดลอง CROWDSOURCE พิกัดหาซื้อหน้ากากอนามัยและเจลล้างมือ อันเริ่มโดยพรรคอนาคตใหม่ อาจเป็นเรื่องเล็กๆ ในท่ามกลาง Big Data มหึมาที่ดำรงอยู่
ไม่สามารถแหวกภาวะปั่นป่วนโกลาหลของกระแสข่าวสารอันไหลเลื่อนอย่างรวดเร็วของ #ไวรัสโคโรนา ไปได้อย่างแน่นอน
เพราะสังคมสนใจการเคลื่อนไหวของมหานครอู่ฮั่นมากกว่า
เพราะข่าวพาดหัวหนังสือพิมพ์ถูกกลบทับด้วยกระแสดราม่าในเรื่องหน้ากากอนามัยจะขายโดยทำเนียบรัฐบาล หรือโดยกระทรวงสาธารณสุขมากกว่า
กระนั้น ความพยายามเล็กๆ ของพรรคอนาคตใหม่ครั้งนี้ก็ถือเป็นความพยายามของพรรคการเมือง
เป็นการนำเอา “ความรู้” มารับใช้กับ “สถานการณ์”
ลักษณะโดยทั่วไปของสังคมข่าวสารในปัจจุบันให้ความสนใจกับข่าวและความขัดแย้ง ความอื้อฉาวอันเนื่องจากความไม่ดำเนินไปตามปกติ
ข่าวในลักษณะการสร้าง CROWDSOURCE จึงค่อนข้างเป็นเรื่องเล็กๆ
แต่ภายในเรื่องเล็กๆ อันดำริและริเริ่มโดยพรรคอนาคตใหม่นี้พลันที่มีการแพร่กระจายออกไปก็จะก่อให้เกิดคำถามตามมาโดยฉับพลันว่าเหตุใดจึงมาจากพรรคอนาคตใหม่
ทำไมไม่มาจากพรรคประชาธิปัตย์ ทำไมไม่มาจากพรรคภูมิใจไทย ทำไมไม่มาจากพรรคพลังประชารัฐ
ทั้งๆ ที่ดูโดยรากฐานการก่อรูปขึ้นเป็นพรรคการเมือง พรรคประชาธิปัตย์มีความเก่าแก่ตั้งแต่ปี ๒๔๘๙
ทำไมจึงเป็นพรรคอนาคตใหม่ซึ่งเพิ่งก่อรูปเมื่อปี ๒๕๖๑
คำตอบไม่มีอะไรสลับซับซ้อน การทดลองในแบบที่พรรคอนาคตใหม่ ได้กระทำลงไป แทบไม่มีพรรคการเมือง “กระแสหลัก” พรรคใดเคยมีแนวคิดมาก่อนเลย
การเอ่ยถึงโครงการก็มักจะเอ่ยถึงเมื่อเวลาหาเสียงก่อนการเลือกตั้ง
หลังการเลือกตั้งแล้วทุกพรรคก็เก็บเอาไว้ในลิ้นชัก
การทดลองของพรรคอนาคตใหม่จึงเป็นการทดลองของพรรคการเมืองแบบใหม่
คำถามอยู่ที่ว่าจะยืนหยัดทดลองได้ยาวนานเพียงใด