“จิรายุ” ชี้ นายกฯ ต้องนำ ครม.กล่าวขออภัย-ยืนไว้อาลัยกับเหตุการณ์โคราชหลังทำมินิฮาร์ท-สัญลักษณ์ไอเลิฟยู เตรียมกระทู้สดในสภาหาแนวทางป้องกัน
เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงเหตุการณ์ที่จังหวัดนครราชสีมาว่า คณะกรรมการบริหารพรรค และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดนครราชสีมาของพรรคพท. และทุกท่านขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งถึงญาติผู้เสียชีวิต และบาดเจ็บในเหตุการณ์ดังกล่าวและขอเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งเยียวยาให้กับผู้สูญเสียในทันที และหาวิธีป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ในลักษณะเช่นนี้ขึ้นได้อีกโดยล่าสุด ส.ส.จังหวัดนครราชสีมาของพรรค พท. นำโดยนายประเสริฐ จันทรรวงทอง นายโกศล ปัทมะ นายศิรสิทธิ เลิศด้วยลาภ และนายสุชาติ ภิญโญ ได้เข้าพบญาติผู้เสียชีวิต และบาดเจ็บเพื่อช่วยเหลือเยียวยาในทุกๆ ด้านตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ผ่านมา
นายจิรายุกล่าวว่า ส่วนกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ไปที่เกิดเหตุแล้วแสดงท่าที มินิฮาร์ท และส่งสัญลักษณ์ ไอเลิฟยู เหมือนกับการลงพื้นที่หาเสียงดังปรากฏเป็นข่าวจนทำให้ประชาชนแทบทั้งประเทศรู้สึกไม่สบายใจอย่างยิ่ง ตนจึงขอเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีรีบแก้ภาพลักษณ์ดังกล่าวก่อนที่จะลุกลามเป็นความไม่พอใจต่อญาติผู้สูญเสียและประชาชนมากไปกว่านี้ โดยขอเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีนำคณะรัฐมนตรีไปที่เกิดเหตุและยืนไว้อาลัยอย่างสงบ และอาการสำรวม หรือทำในการประชุมคณะรัฐมนตรีในวันอังคารซึ่งจะถือเป็นการให้เกียรติกับผู้สูญเสีย มากกว่าที่จะโบกไม้โบกมือทำสัญลักษณ์มินิฮาร์ตหรือสัญลักษณ์ไอเลิฟยูดังที่ปรากฏเป็นข่าว เพราะยิ่งนายกรัฐมนตรีเคยเป็นผู้นำกองทัพยิ่งต้องระมัดระวังบุคลิกและท่าทางต่อเหตุการณ์สำคัญของประเทศชาติ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง ยิ่งต้องใช้การมีเมตตา และเอื้ออาทรซึ่งกันและกันของเพื่อนร่วมชาติ จึงขอเรียกร้องให้คณะรัฐมนตรีร่วมกันไว้อาลัยและแสดงท่าทีในการแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง
นายจิรายุกล่าวอีกว่า นอกจากปัญหาเรื่องตัวบุคคลและข้อขัดแย้งที่เป็นมูลเหตุแล้ว ระบบรักษาความปลอดภัยในค่ายทหารและการบริหารจัดการปัญหาในเชิงวิกฤต ซึ่งหากมีกลุ่มผู้ก่อการร้ายหรือคนร้ายปฏิบัติการในลักษณะเช่นนี้มากกว่า 5 คน รัฐบาลจะแก้ไขปัญหาเพื่อให้เกิดความมั่นใจกับประชาชนได้อย่างไร เหตุใดจึงปล่อยให้ล่วงเลยเกือบ 24 ชั่วโมงซึ่งเป็นประเด็นที่รัฐบาลและฝ่ายนิติบัญญัติต้องร่วมมือกันเพื่อพิจารณาและหาทางออกในเชิงป้องกัน โดยจะมีการตั้งกระทู้ถามสดในรัฐสภาต่อนายกรัฐมนตรี เพื่อหาทางแก้ไขปัญหาเชิงป้องกันเหตุการณ์ในลักษณะดังกล่าวต่อไปในอนาคต
