09.00 INDEX สัจจะวาจาจาก ผบ.ทบ. เชื่อถือได้ แค่ใด เพียงใด
ระหว่างคำกล่าวเมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ที่ว่า “ผมขีดเส้นตายภายในเดือนกุมภาพันธ์ สำหรับผู้ที่เกษียณอายุราชการแล้วและยังพักอาศัยอยู่ในพื้นที่ทหาร และย้ายจากกองทัพบกไปอยู่หน่วยงานใดก็ต้องย้ายออกเพื่อเปิดโอกาสให้คนที่ไม่มีบ้านมาอยู่”
กับคำสั่งการไปยังกรมสวัสดิการทหารบกในวันที่ 13 กุมภาพันธ์ให้ตรวจสอบบ้านพักของทบ.ว่ามีผู้เกษียณอายุราชการที่ยังพักอาศัยอยู่หรือไม่แล้วแบ่งเป็น 2 หมวด
1 ให้ทำหนังสือถึงผู้ที่เกษียณราชการแล้วยังอาศัยอยู่และไม่ได้ทำประโยชน์ให้กับประเทศโดยแจ้งให้ออกภายในสิ้นกุมภาพันธ์นี้
2 ผู้ที่เกษียณราชการแล้ว แต่ทำคุณประโยชน์ให้แก่ประเทศชาติ เช่น นายกรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรี สมาชิกวุฒิสภาและองคมนตรี
ยังอาศัยอยู่ได้ตามปกติเพราะทำคุณประโยชน์ให้กับประเทศ
ไม่ว่าคำพูดเมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ ไม่ว่าคำสั่งการเมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ ล้วนมาจากบุคคลคนเดียวกันคือ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ.
แต่รายละเอียดของ “คำพูด” และ “คำสั่ง” แตกต่างกัน
ความหมายก็คือ คำพูดเมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ ที่ว่า “ผมขีดเส้น ตายภายในเดือนกุมภาพันธ์สำหรับผู้ที่เกษียณอายุราชการแล้วและยังพักอาศัยอยู่ในพื้นที่ทหาร ก็ต้องย้ายออกเพื่อเปิดโอกาสให้คนที่ไม่มีบ้านมาอยู่”
อาจเป็นจริงสำหรับ “ทหาร” โดยทั่วไป ไม่ว่าจะเป็น พลเอก ไม่ว่าจะเป็น จ่าสิบเอก
แต่กล่าวสำหรับ นายกรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรี สมาชิกวุฒิสภา และองคมนตรี ยังอาศัยอยู่ได้ตามปกติเพราะทำคุณประโยชน์ให้กับประเทศ
ผลจะไม่ “สะเทือน” เฉพาะ 2 กลุ่มนี้เท่านั้น
ที่สะเทือนยังรุนแรง ล้ำลึกมากกว่า น่าจะเป็น พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ.ซึ่งเป็นเจ้าของ “คำพูด”
เพียง 2 วัน คำพูดเมื่อกลายเป็น “คำสั่ง” ก็แปรเปลี่ยน
เกิดเป็นคำถามไม่เพียงแต่ต่อบ้านพักของทางราชการเท่านั้น หากแต่ยังต่อคำประกาศที่ว่าจะจัดการปัญหาสนามม้า สนามมวย สถานีโทรทัศน์นั้นเชื่อได้มากน้อยเพียงใด
เมื่อท่าน ผบ.ทบ.พูดคนเขาจะฟัง และรอดู เมื่อท่านผบ.ทบ.ทำตามที่พูด คนเขาจะเชื่อ
แล้วเมื่อคำพูดผบ.ทบ.ไม่เป็นอย่างที่พูด คนเขาจะรู้สึกอย่างไร