องครักษ์โต้แทนชวน ไม่เป็นกลาง เมินบรรจุญัตติสอบ ส.ส.เสียบบัตรเป็นเรื่องด่วน

‘สมบูรณ์’ ป้อง ‘ชวน’ หลังถูกกล่าวหาไม่เป็นกลางเหตุไม่บรรจุญัตติ ส.ส.เสียบบัตรแทนกันเป็นญัตติเร่งด่วน ไล่ ‘ธีรัจชัย’ กลับไปดูข้อ กม.ใหม่

เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ที่รัฐสภา นายสมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล เลขานุการประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีที่นายธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ (อนค.) แถลงข่าวกล่าวหานายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ระบุไม่มีความเป็นกลาง หลังตัดสินไม่บรรจุญัตติที่เสนอให้มีการตั้งกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญตรวจสอบเรื่องการกดบัตรแทนกัน ในการลงมติร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 ให้เป็นญัตติด่วนว่า ต้องพิจารณาด้วยหลักของกฎหมายว่า ญัตติดังกล่าวเข้าข่ายข้อบังคับมาตราที่ 50 หรือไม่ เช่น เป็นญัตติที่เกี่ยวข้องกับประโยชน์ที่สำคัญของแผ่นดิน หรือมีความจำเป็นเร่งด่วนต่อการรักษาความมั่นคง ความสงบเรียบร้อยของประเทศ หรือกระทบกระเทือนต่อสิทธิเสรีภาพของประชาชนในประเทศอย่างร้ายแรง เหล่านี้จะสามารถเสนอต่อสภาให้เป็นญัตติด่วนได้ อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการและรองประธานสภาผู้แทนราษฎรซึ่งได้รับมอบหมายให้ดูแลและกลั่นกรองญัตติ ได้พิจารณาตามข้อบังคับแล้ว ว่าญัตติดังกล่าวมีความจำเป็นเร่งด่วนมากน้อยเพียงใด แล้วจึงส่งต่อให้ประธานสภาได้วินิจฉัยอย่างถูกต้อง

นายสมบูรณ์กล่าวอีกว่า การกล่าวหาว่านายชวนไม่บรรจุญัตติดังกล่าวนั้นเพราะเป็น ส.ส.ฝ่ายรัฐบาล และผู้ที่กดบัตรแทนกันก็เป็น ส.ส.ฝั่งรัฐบาล ประธานจึงทำตัวไม่เป็นกลางนั้น เป็นการให้ร้ายต่อประธานสภา การบิดเบือนในลักษณะนี้ของ ส.ส. จะทำให้เกิดความเสียหายให้กับระบบรัฐสภาโดยตรง ขอเรียนว่านายชวนได้ปฏิบัติหน้าที่อย่างยุติธรรมที่สุด ไม่ว่าจะเป็น ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลหรือฝ่ายค้าน ประธานสภาก็จะส่งเรื่องดังกล่าวให้คณะกรรมาธิการต่างๆ พิจารณา ตรวจสอบข้อเท็จจริงตามกระบวนการ โดยขณะนี้มีการออกกฎหมายประมวลจริยธรรมของสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งประกาศใช้ในราชกิจจานุเบกษาแล้ว เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ ซึ่งอยู่ในกระบวนการแต่งตั้งคณะกรรมการจริยธรรมอยู่ นอกจากนี้ ที่นายธีรัจชัยกล่าวว่า ประธานรัฐสภาไม่ควรสังกัดพรรคการเมืองเพราะจะทำให้ไม่เป็นกลางนั้น นายธีรัจชัยต้องไปดูข้อกฎหมายก่อน เพราะกรณีที่ประธานรัฐสภาไม่ได้สังกัดพรรคการเมืองนั้นจะทำให้ไม่สามารถเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหรือประธานรัฐสภาได้

“ส่วนที่นายธีรัจชัยมองว่าญัตติดังกล่าวเมื่อกลายเป็นญัตติธรรมดา ซึ่งได้บรรจุเป็นญัตติลำดับที่ 100 กว่า จะไม่มีโอกาสได้พิจารณาในสภา ตนขอเรียนว่านายธีรัจชัยกำลังดูถูกรัฐสภา เห็นได้ว่าการประชุมสภาที่ผ่านมามีการนัดประชุมนัดพิเศษเดือนละหนึ่งครั้งโดยประมาณ เพื่อให้ ส.ส.ได้เข้ามาพิจารณาญัตติธรรมดาที่ค้างอยู่ จนถึงตอนนี้สภาได้มีการพิจารณาญัตติด่วนและญัตติธรรมดาทั้งหมด 73 ญัตติ ดังนั้น ญัตติที่นายธีรัจชัยและคณะได้เสนอยื่นเข้ามานั้น มีโอกาสได้หยิบยกมาพิจารณาแน่นอน ขอให้นายธีรัจชัยเข้ามาทำหน้าที่ อย่าอาศัยบิดเบือนข้อมูลเพื่อประชาสัมพันธ์ตนเอง จนทำให้สภาเสียหาย” นายสมบูรณ์กล่าว

Advertisement

 

 

Advertisement

เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่เพิ่มเพื่อน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image