เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ ที่สถาบันพระปกเกล้า นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการตรวจสอบการเสียบบัตรแทนกันของนางนาที รัชกิจประการ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย (ภท.) ว่า สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรได้ส่งรายงานความคืบหน้าจากที่ได้สอบถามไปยังการท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย (ทอท.) มาแล้ว ในเรื่องเวลาการเดินของนางนาที ขณะที่ผ่านการตรวจที่จุดตรวจคนเข้าเมือง ซึ่งเป็นเวลาที่ใกล้เคียงกันกับเวลาของการลงมติในร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2563 แต่เรื่องนี้ยังไม่ยุติ จึงได้มอบให้สำนักงานเลขาฯพิจารณาในกรณีอื่นด้วย เพราะสำนักเลขาฯมีข้อมูลทั้งหมดอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นภาพจากกล้องวงจรปิด การลงชื่อชื่อของ ส.ส. ที่จะมีการระบุเวลาอยู่แล้ว
นายชวนกล่าวต่อว่า ทราบว่าเรื่องนี้มีการไปยื่นต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ทางสภาก็จะให้ความร่วมมือ หากต้องการข้อมูลอะไรก็จะส่งไปให้ แต่ขณะนี้ทาง ป.ป.ช.ยังไม่ได้มีการร้องขอข้อมูลมา เข้าใจว่าทาง ป.ป.ช.คงต้องขอมาอยู่แล้ว
เมื่อถามว่าเบื้องต้นแสดงว่านางนาทีไม่ได้อยู่ในห้องประชุมสภา นายชวนกล่าวว่า เรื่องนี้ตนคงไม่ไปตัดสิน เพราะข้อเท็จจริงเป็นอย่างไรก็ต้องเป็นไปตามหลักฐาน และเรื่องนี้ทางคณะกรรมาธิการกิจการสภาผู้แทนราษฎรก็รับที่จะนำไปตรวจสอบแล้ว ข้อยุติเชื่อว่าไม่ต่างไปจากที่สภาตรวจสอบ เพราะสภาเป็นผู้ที่มีหลักฐานอยู่ในมือ
ส่วนที่มีข้อเสนอว่าอาจจะให้คณะกรรมการจริยธรรมของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและกรรมาธิการ เป็นผู้สอบในเรื่องนี้นั้น นายชวนกล่าวว่า สามารถทำได้ โดยเมื่อได้ข้อมูลครบถ้วนแล้วก็สามารถส่งให้คณะกรรมการชุดนี้ได้ แต่ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการตั้งคณะกรรมการอยู่ จะนั่งเป็นประธานของคณะกรรมการฯ และเชื่อว่าจะใช้เวลาไม่นาน เพราะเรื่องนี้ยืดเวลามานานแล้ว มีเรื่องที่สมาชิกร้องเรียนรออยู่หลายเรื่องที่ต้องรอคณะกรรมการชุดนี้มาดำเนินการ เช่น กรณีที่นางสาวปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ ได้ยื่นร้องไว้หลายเรื่องที่ยังค้างอยู่ ก็ต้องรอคณะกรรมการชุดนี้
นายชวนกล่าวถึงการลงมติในมาตรา 6 ของร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ที่มีการถกเถียงกันว่าเกิดจากปัญหาเครื่องลงคะแนนหรือไม่นั้นว่า เรื่องนี้ได้มีการสอบและรายงานมาให้ตนเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ความจริงแล้วเรื่องนี้ก็มีส่วนที่ทำให้ผิดพลาดได้ เพราะปิดการลงคะแนนเร็ว อาจจะทำให้บัตรที่กดไปนั้นยังไม่ขึ้นหรือขึ้นที่หลัง เพราะปรากฏว่าภายหลังคนเหล่านั้นมีข้อมูลการกดลงคะแนนขึ้นทีหลัง แต่โดยสรุปแล้วองค์ประชุมครบหมด และทั้ง 8 คนก็อยู่ในห้องประชุม ตนได้นำรายชื่อมาอ่านดูก็พบว่าเขานั่งอยู่ในห้องประชุม แสดงว่าในมาตรา 6 นั้นลงคะแนนเร็ว
“ถ้าเราถือองค์ประชุมตอนที่แสดงตนทุกอย่างก็ไม่มีอะไรมีปัญหา แต่หลายคนก็กังวลว่าจะมีคนเตรียมยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญอีก ดังนั้นจึงไม่ต้องการให้เป็นเงื่อนไข จึงทำให้ถูกต้อง จะได้สบายใจและไร้กังวล และป้องกันไม่ให้มีปัญหาเหมือนที่ผ่านมา จึงต้องทำให้ทุกอย่างครบถ้วนสมบูรณ์” นายชวนกล่าว
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
