เปิดบันทึก‘ชุดพยัคฆ์ไพร’ แจ้งจับ‘ปารีณา’รุกป่า

หมายเหตุส่วนหนึ่งของบันทึกที่นายชีวะภาพ ชีวะธรรม ผู้อำนวยการสำนักป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า กรมป่าไม้ ฐานะที่ปรึกษาชุดพยัคฆ์ไพร ทำถึงนายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมป่าไม้ ภายหลังแจ้งความดำเนินคดี น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ ต่อพนักงานสอบสวน ที่กองบังคับ การปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.)

ตามที่ปรากฏเป็นข่าวในสื่อต่างๆ กรณี นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ยื่นหนังสือต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ขอให้ตรวจสอบที่ดินตามที่ปรากฏในบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จ.ราชบุรี เขต 3 ยื่นแสดงรายการทรัพย์สินประเภทที่ดิน เอกสาร ภ.บ.ท.5 ลำดับที่ 19-76 จำนวน 58 แปลง เนื้อที่ 1,706 ไร่เศษ ท้องที่หมู่ 6 ต.รางบัว อ.จอมบึง จ.ราชบุรี และตามที่ น.ส.ปารีณาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2562 ทางรายการเจาะลึกทั่วไทย Inside Thailand ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ช่อง MCOT HD 30 สรุปความได้ว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ป่าที่รัฐบาลอนุญาต (ป่าไม้อนุญาต) โดยเสียภาษีดอกหญ้าเป็นเวลามากว่า 10 ปี ตนไม่ได้รับการจัดสรร ใครก็สามารถเข้าทำประโยชน์ได้แต่ต้องเสียภาษีบำรุงท้องที่ เป็นที่ของหลวงที่เข้าไปทำประโยชน์ได้ ข้อเท็จจริงปรากฏแล้วนั้น

กรมป่าไม้ โดย นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมป่าไม้ จึงมีคำสั่งที่ 3988/2562 ลงวันที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ.2562 และคำสั่งกรมป่าไม้ที่ 4181/2562 ลงวันที่ 26 พฤศจิกายน 2562 แต่งตั้งคณะทำงานตรวจสอบพื้นที่ป่าในท้องที่ จ.ราชบุรี โดยให้มีอำนาจตรวจสอบข้อเท็จจริงในพื้นที่รวมถึงบริเวณใกล้เคียงว่ามีความเกี่ยวพันกับหน้าที่ความรับผิดชอบของกรมป่าไม้หรือไม่ โดยคณะทำงานตามคำสั่งฯ ได้ดำเนินการตรวจสอบในเบื้องต้น

ปรากฏข้อเท็จจริงว่า พื้นที่ที่มีการร้องเรียนอยู่ในเขตปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ตามพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ ต.แก้มอ้นต.เบิกไพร ต.ด่านทับตะโก ต.ปากช่อง ต.จอมบึง ต.รางบัว อ.จอมบึง ต.ป่าหวาย ต.ท่าเคย ต.ตะนาวศรีอ.สวนผึ้ง และ ต.หนองพันจันทร์ ต.บ้านคา ต.บ้านบึง อ.บ้านคา จ.ราชบุรี ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ.2554 และอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าฝั่งซ้ายแม่น้ำภาชีตามกฎกระทรวง   ฉบับที่1,069 ออกตามความในพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงและดำเนินการตรวจสอบตามระเบียบและกฎหมายต่อไป คณะทำงานตามคำสั่งฯ จึงได้ร่วมกันตรวจสอบและพิจารณา ตั้งแต่วันที่ 24 พฤศจิกายน 2562 จนกว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จ โดยในการนี้คณะทำงานตาม     คำสั่งฯ ได้แบ่งการดำเนินงานเป็น ดังนี้

Advertisement

1.เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2562 คณะเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษ โดยตรวจสอบแล้ว พบว่าอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าฝั่งซ้ายแม่น้ำภาชี และที่ป่าตามมาตรา 4 (1) แห่งพระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช 2484 นอกเขตปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ซึ่งคณะเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจยึดจำนวน 46-1-40 ไร่ ในฐานความผิดตาม พ.ร.บ.พ.ศ.2484 มาตรา 54 และมาตรา 72 ตรี พ.ร.บ.พ.ศ.2507 มาตรา 14 และมาตรา 31 ประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 9 พ.ร.บ.ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ.2535 มาตรา 97 และร้องทุกข์กล่าวโทษ น.ส.ปารีณา ผู้ยึดถือครอบครองที่ดินต่อพนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2562

2.พื้นที่ที่ตรวจสอบแล้วพบว่าอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าฝั่งซ้ายแม่น้ำภาชี และที่ป่าตามมาตรา 4 (1) แห่ง พ.ร.บ.ป่าไม้ พุทธศักราช 2484 และอยู่ในเขตปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ตามพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ ต.แก้มอ้น ต.เบิกไพร ต.ด่านทับตะโก ต.ปากช่อง ต.จอมบึง ต.รางบัว อ.จอมบึง ต.ป่าหวาย ต.ท่าเคยต.ตะนาวศรี อ.สวนผึ้ง และ ต.หนองพันจันทร์ ต.บ้านคา ต.บ้านบึง อ.บ้านคา จ.ราชบุรี ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ.2554 อีก 682 ไร่ เนื่องจากส่วนนี้ยังไม่ได้ข้อยุติในสถานะของพื้นที่ คณะทำงานตามคำสั่งฯ ได้รายงานกรมป่าไม้เพื่อโปรดทราบและพิจารณา กรมป่าไม้พิจารณาเห็นควรหารือคณะกรรมการกฤษฎีกาก่อนจะดำเนินการต่อไป กรมป่าไม้มีหนังสือ ด่วนที่สุด ที่ ทส 1609.2/25460 ลงวันที่ 13 ธันวาคม 2562 ถึงสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สรุปความได้ว่า ตามที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้มีมติเมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2536 อนุมัติให้ดำเนินการปฏิรูปที่ดิน ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติที่ได้จำแนกไว้เป็นพื้นที่ที่เหมาะสมกับการเกษตร (Zone A) และมติ ครม.เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม 2536 ให้กรมป่าไม้มอบพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ และป่าไม้ถาวรที่เสื่อมสภาพแล้วและราษฎรเข้าถือครองทำกินอยู่ให้สำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) นำไปปฏิรูปที่ดิน ต่อมา ครม.ได้มีมติ เมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2537 อนุมัติให้ดำเนินการปฏิรูปที่ดินในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติในเขตเศรษฐกิจเสื่อมโทรม (Zone E) ตามลำดับ

Advertisement

หลังจากนั้น การปฏิบัติงานระหว่างหน่วยงานของ ส.ป.ก.กับกรมป่าไม้ เกิดมีความเห็นเป็นหลายฝ่ายในแนวทางปฏิบัติและได้มีการหารือสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาหลายครั้ง และปัจจุบันได้มีคำพิพากษาของศาลในคดีที่เกี่ยวกับพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตปฏิรูปที่ดินออกมาเป็นจำนวนมาก แต่ไม่สอดคล้องกับคำวินิจฉัยที่คณะกรรมการกฤษฎีกาได้เคยวางไว้เป็นบรรทัดฐานเพื่อให้ส่วนราชการปฏิบัติ คณะกรรมการกฤษฎีกา (คณะที่ 7) ได้พิจารณาข้อหารือของกรมป่าไม้ โดยมีผู้แทน สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม และผู้แทนกรมป่าไม้ เป็นผู้ชี้แจงข้อเท็จจริงแล้ว ปรากฏตามเรื่องเสร็จที่ 124/2563 คณะทำงานตามคำสั่งฯ ได้รับทราบความเห็นคณะกรรมการกฤษฎีกา (คณะที่ 7) ซึ่งผูกพันหน่วยงานราชการและเป็นบรรทัดฐานในการปฏิบัติงานต่อไปแล้ว จึงพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง ดังนี้คณะทำงานตาม      คำสั่งฯ และเจ้าหน้าที่ผู้ร่วมตรวจสอบ ได้ตรวจพิจารณาข้อเท็จจริงประกอบความเห็นคณะกรรมการกฤษฎีกา เรื่องเสร็จที่ 124/2563 แล้ว

เห็นว่าการกระทำของ น.ส.ปารีณา ในการยึดถือครอบครองที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ตาม  พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ ต.แก้มอ้น ต.เบิกไพร ต.ด่านทับตะโก ต.ปากช่อง ต.จอมบึง ต.รางบัว อ.จอมบึง ต.ป่าหวาย ต.ท่าเคย ต.ตะนาวศรี อ.สวนผึ้ง และ ต.หนองพันจันทร์ ต.บ้านคา ต.บ้านบึง อ.บ้านคา จ.ราชบุรี ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ.2554 และยังคงมีสถานะเป็นป่าสงวนแห่งชาติป่าฝั่งซ้ายแม่น้ำภาชี และที่ป่าตามมาตรา 4 (1) แห่ง พ.ร.บ.ป่าไม้พุทธศักราช 2484 เป็นการกระทำผิดกฎหมายป่าไม้ ที่เกี่ยวข้องทุกฉบับ

คณะทำงานได้ร่วมตรวจสอบรังวัดพื้นที่และบริเวณฟาร์มไก่ “เขาสน” ทั้งหมดและนำข้อมูลมาดำเนินการจัดทำแผนที่ และเอกสารสำคัญเพื่อประกอบบันทึกร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน เพื่อความชัดเจนของการดำเนินคดีสรุปการดำเนินคดีทั้งหมดจำนวน 3 คดี ประกอบด้วย

คดีที่ 1 พื้นที่ตรวจยึด 387-0-80 ไร่ เป็นบริเวณฟาร์มไก่เขาสน มีการใช้ประโยชน์พื้นที่ทำฟาร์มไก่ชัดเจน พื้นที่อยู่ในเขตรั้วลวดหนามทั้งหมดชัดเจน มีโรงเรือน อาคารในบริเวณนี้ โดยคดีนี้จะร้องทุกข์กล่าวโทษต่อ น.ส.ปารีณา ผู้จดทะเบียนเป็นเจ้าของฟาร์มไก่ “เขาสน” ตามข้อมูลจากกรมปศุสัตว์ เป็นผู้ครอบครอง ผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษ นายชีวะภาพ ชีวะธรรม ผู้อำนวยการสำนักป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า กรมป่าไม้

คดีที่ 2 เป็นพื้นที่ติดกันนอกรั้วใกล้เคียงต่อเนื่อง สภาพพื้นที่เป็นที่เลี้ยงสัตว์ และโรงเรือนเก่า มีความต่อเนื่องกับฟาร์มไก่เขาสน แต่ไม่มีประจักษ์พยาน และวัตถุพยานหลักฐานที่ชี้ชัดว่าเป็นของใคร เนื้อที่ 207-2-41 ไร่  ผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษ นายนฤพนธ์ ทิพย์มณฑา ผู้อำนวยการส่วนป้องกันและกิจการพิเศษ หัวหน้าชุดพยัคฆ์ไพร กรมป่าไม้

คดีที่ 3 เป็นพื้นที่ติดต่อกัน สภาพเป็นแปลงปลูกป่ายูคาลิปตัส เนื้อที่ 70-2-32 ไร่ นายพัฒนะ ศิริมัยผู้อำนวยการศูนย์ป่าไม้จังหวัดราชบุรี ผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษ โดยมีเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานในพื้นที่เข้าร่วม รวมเนื้อที่ตรวจยึด 665-1-53 ไร่

พื้นที่ตรวจยึดทั้งหมด ตรวจสอบตามข้อมูลรายละเอียดแผนที่รังวัดที่คณะเจ้าหน้าที่ของสำนักงานปฏิรูปที่ดินจังหวัดราชบุรีและเจ้าหน้าที่ป่าไม้เคยสำรวจไว้ครั้งหนึ่งโดยมีผู้ใหญ่บ้านเป็นคนนำชี้ ซึ่งเป็นข้อมูลเดิม จำนวน 682 ไร่ ซึ่งข้อมูลใกล้เคียงกันแตกต่างจำนวนประมาณ 17 ไร่ ซึ่งคณะเจ้าหน้าที่ได้ร่วมดำเนินการจัดทำบันทึกและบัญชีเอกสารประกอบเสร็จเรียบร้อย และจะนำไปร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน ที่ บก.ปทส. ให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2563

เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่เพิ่มเพื่อน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image