บทนำ : บทเรียนงบ’63

ร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563 ผ่านความเห็นชอบของสภาผู้แทนฯ และวุฒิสภาอีกครั้ง เมื่อวันที่ 13 และ 14 ก.พ.ที่ผ่านมา หลังจากเกิดการเสียบบัตรลงมติแทนกัน และอดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์นำหลักฐานมาเปิดเผยทำให้เกิดข้อสงสัยว่า ทำให้ร่างพระราชบัญญัติมิชอบหรือไม่ ต่อมา ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้สภาผู้แทนฯ ลงมติใหม่ในวาระที่ 2 และ 3และให้ส่งวุฒิสภาให้ความเห็นชอบอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ในการลงมติใหม่ในสภาผู้แทนฯ เกิดปัญหาองค์ประชุมระหว่างการพิจารณามาตรา 6 ทำให้ต้องย้อนกลับมาลงมติใหม่อีกรอบ เท่ากับว่าสภาผู้แทนฯ ลงมติในร่าง พ.ร.บ.นี้ถึง 3 รอบด้วยกัน

หลังจากวุฒิสภามีมติเห็นชอบด้วยคะแนน 215 ต่อ 0 งดออกเสียง 6 คะแนน นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวขอบคุณว่า รัฐบาลขอให้คำยืนยันว่า จะนำเอาสิ่งที่เป็นข้อสังเกตทั้งหมดไปประมวลร่วมกับข้อสังเกตของสภาผู้แทนราษฎรเพื่อนำไปกลั่นกรองและนำไปปฏิบัติ และปรับเพื่อเตรียมการสำหรับการเสนอร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณปี พ.ศ.2564 มายังรัฐสภาในอีก 3 เดือน เพื่อให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย เพื่อให้ประเทศชาติมั่นคง เศรษฐกิจมั่งคั่งอย่างยั่งยืน สมดังเจตนารมณ์ของยุทธศาสตร์ชาติ รัฐธรรมนูญ ความมุ่งมั่นของสมาชิกทั้ง 2 สภา และนโยบายของรัฐบาลเองสืบไป ตามกฎหมาย วุฒิสภาต้องเก็บร่างนี้ไว้อีก 3 วัน และนายกฯ เก็บร่างนี้ไว้อีก 5 วัน ก่อนนำขึ้นทูลเกล้าฯ งบประมาณปีนี้ล่าช้า จึงต้องใช้เงินจากงบกลาง 75% และโครงการต่างๆ ยังไม่สามารถลงนามในสัญญาได้แต่ตอนนี้ถือว่าเร็วกว่าที่คิด ทุกอย่างสามารถขยับเขยื้อนได้

กรณีที่เกิดกับร่าง พ.ร.บ.งบประมาณในครั้งนี้ รัฐบาลต้องถือว่าเป็นข้อผิดพลาดที่จะต้องไม่ให้เกิดขึ้นอีก เพราะส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อการบริหารราชการแผ่นดิน อย่างไรก็ตาม การผลักดันแก้ไขข้อผิดพลาดถือเป็นผลงานร่วมกันของรัฐสภา นอกจาก ส.ส.รัฐบาลแล้ว ยังได้รับการช่วยเหลือจากพรรคฝ่ายค้านที่เล็งเห็นว่าจะเกิดผลกระทบ ดังนั้น ข้อสังเกตต่างๆ ของพรรคฝ่ายค้านเป็นเรื่องที่รัฐบาลจะต้องรับฟังและให้น้ำหนัก และเมื่อกฎหมายงบประมาณบังคับใช้แล้ว จะต้องบริหารให้เกิดประโยชน์กับประชาชนอย่างแท้จริง

Advertisement

เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่เพิ่มเพื่อน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image