เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ร่วมกับกรมธนารักษ์ โดยนายยุทธนา หยิมการุณ อธิบดีกรมธนารักษ์ ลงนามบันทึกข้อตกลง “โครงการการจัดสวัสดิการในเชิงธุรกิจของกองทัพบก (ทบ.)” โดยการลงนามบันทึกข้อตกลงในวันนี้ เพื่อให้การใช้ที่ราชพัสดุของ ทบ.ที่ดิน อาคาร และสิ่งปลูกสร้างในการจัดสวัสดิการภายใน ทบ.เป็นไปตามกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง การจัดสวัสดิการภายใน ทบ. ดำเนินการภายใต้กรอบระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการจัดสวัสดิการภายในส่วนราชการ พ.ศ.2547 เช่น สถานีบริการน้ำมัน ร้านค้า ตลาดนัด กิจการสโมสร สนามมวย สนามกอล์ฟ สนามม้า และสถานพักฟื้นพักผ่อน ทบ. โดยกิจการสวัสดิการของ ทบ.ที่ดำเนินอยู่นั้น เน้นการให้บริการ หรือจำหน่ายสินค้าที่มีคุณภาพ และราคาถูกแก่กำลังพล ทบ.และครอบครัว ส่งผลให้บุคคลทั่วไปให้ความสนใจมาใช้บริการ และซื้อสินค้าในกิจการสวัสดิการของ ทบ.ด้วยเช่นกัน
ทำให้กิจการสวัสดิการบางกิจการได้รับความนิยมจากกำลังพลครอบครัว รวมถึงบุคคลทั่วไปมาใช้บริการเป็นจำนวนมาก เมื่อผลประกอบการดี จึงอาจทำให้สินค้าและบริการมีราคาถูกลง เกิดผลดีแก่กำลังพล และบุคคลทั่วไปที่ใช้บริการ และอาจมีรายได้เข้ากองทุนสวัสดิการ ทบ. เพื่อนำมาจัดสวัสดิการให้แก่กำลังพล ทบ.และครอบครัวเพิ่มมากขึ้นด้วยเช่นกัน
ดังนั้น เพื่อให้การจัดสวัสดิการภายใน ทบ.เป็นไปตามระเบียบข้างต้น ที่กำหนดว่ากรณีที่บุคคลภายนอกทั่วไปมาใช้บริการมากกว่าสมาชิก กำลังพลของ ทบ.และครอบครัวให้ดำเนินการในรูปแบบการจัดสวัสดิการในเชิงธุรกิจ ซึ่งต้องขออนุญาตเช่าที่ราชพัสดุ จากกรมธนารักษ์ ทั้งนี้ รายได้ที่เกิดขึ้นจากการจัดสวัสดิการในเชิงธุรกิจ จะถูกนำส่งเป็นค่าเช่าและค่าธรรมเนียมให้แก่กรมธนารักษ์ ส่วนหนึ่งตามบันทึกข้อตกลง ส่วนที่เหลือจะนำส่งเข้ากองทุนสวัสดิการ ทบ. เพื่อนำมาจัดสวัสดิการให้แก่กำลังพลทบ.และครอบครัว ทบ.จึงได้หารือการปฏิบัติร่วมกับกรมธนารักษ์ เพื่อปรับรูปแบบการจัดสวัสดิการภายในของ ทบ.ในบางกิจการเป็นการจัดสวัสดิการในเชิงธุรกิจ โดยจัดทำบันทึกข้อตกลง โครงการการจัดสวัสดิการในเชิงธุรกิจของ ทบ. ภายใต้
กรอบระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการจัดสวัสดิการภายในส่วนราชการ พ.ศ.2547 และประกาศคณะกรรมการสวัสดิการข้าราชการเรื่อง หลักเกณฑ์วิธีการ และเงื่อนไขการจัดสวัสดิการในเชิงธุรกิจประกาศ ณ วันที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ.2548 โดยการกำกับดูแลของ ทบ. แบ่งเป็น 2ลักษณะ ดังนี้ 1.การจัดสวัสดิการในเชิงธุรกิจ กรณีปกติทั่วไป เช่น สถานีบริการน้ำมัน ร้านค้าตลาดนัด เป็นต้น ให้เรียกเก็บค่าเช่า ค่าธรรมเนียม ตามอัตราที่กำหนดตามระเบียบและคำสั่งที่ใช้บังคับ ณ เวลานั้น 2.การจัดสวัสดิการในเชิงธุรกิจ กรณีพิเศษ ได้แก่ สนามมวย สนามกอล์ฟ สนามม้า และสถานพักฟื้นพักผ่อนให้เรียกเก็บค่าเช่า ค่าธรรมเนียม ตามกฎหมาย และระเบียบที่เกี่ยวข้อง
โดยกรมธนารักษ์ มีหน้าที่สนับสนุนโครงการให้สัมฤทธิผลตามวัตถุประสงค์ ตลอดจนร่วมแก้ไขปัญหาข้อขัดข้องที่อาจเกิดขึ้นจากการดำเนินโครงการให้เป็นไปตามระเบียบและกฎหมายที่กำหนด ส่วน ทบ.มีหน้าที่ดำเนินโครงการการจัดสวัสดิการในเชิงธุรกิจของ ทบ.ให้เป็นไปตามระเบียบที่เกี่ยวข้อง และกรณีที่มีข้อปัญหาในการปฏิบัติตามบันทึกข้อตกลงนี้ ให้ทั้งสองฝ่ายร่วมกันพิจารณาแก้ไขปัญหาดังกล่าว