สถานะ แปรเปลี่ยน ระหว่างกกต.อนาคตใหม่ ใครโจทก์ ใครจำเลย

ในที่สุดวันศุกร์ที่ 21 กุมภาพันธ์ ก็มาถึงไม่ว่าจะมองจากมุมของ กกต. ไม่ว่าจะมองจากมุมของพรรคอนาคตใหม่ ล้วนน่าตื่นเต้น

ตื่นเต้นต่อ “คำวินิจฉัย” ของ “ศาล”

หากเทียบกับบรรยากาศก่อนยุบพรรคไทยรักไทยเมื่อเดือนพฤษภาคม 2560 หากเทียบกับบรรยากาศก่อนยุบพรรคพลังประชาชนเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2561

สถานการณ์ของพรรคอนาคตใหม่ “ระทึก” มากกว่า

Advertisement

บรรยากาศการจัดการกับพรรคไทยรักไทยเป็นบรรยากาศที่รับรู้กันอยู่ว่า “อำนาจ” ของ คมช.ดำรงอยู่อย่างหนาแน่น มั่นคง

จึงทำได้แม้กระทั่งลงโทษในแบบ “ย้อนหลัง”

บรรยากาศการจัดการกับพรรคพลังประชาชนแม้ว่าเกิดขึ้นหลังการเลือกตั้งเมื่อเดือนธันวาคม 2560 แต่การเคลื่อนไหวของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยก็ยังคึกคัก

Advertisement

คึกคักด้วยพลังแห่ง “ตุลาการภิวัฒน์”

กล่าวสำหรับบรรยากาศในเดือนกุมภาพันธ์ 2563 แม้จะรู้อยู่ว่า “อำนาจ” อันสืบเนื่องจากรัฐประหารเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557 ยังดำรงคงอยู่

ดำรงคงอยู่ด้วยรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560

ดำรงคงอยู่ด้วยเครือข่ายแห่ง “รัฐราชการรวมศูนย์” ไม่ว่าจะเป็น พลเรือน ตำรวจ ทหาร หนาแน่นและแข็งแกร่ง

ดำรงคงอยู่ด้วยเครือข่ายแห่งมาตรา 44 ต่ออายุ “องค์กรอิสระ”

กระนั้นปัจจัยหนึ่งซึ่งสำคัญเป็นอย่างมาก คืออำนาจแห่ง “พลังประชาธิปไตย” อันเบียดแทรกมากับกระบวนการการเลือกตั้งเมื่อเดือนมีนาคม 2562

ตรงนี้ต่างหากที่ถือว่าเป็น “พลังใหม่”

พลังใหม่จากกระแสความตื่นตัวของ “ประชาธิปไตย” อันพร้อมกับคะแนนเสียงกว่า 6.3 ล้านเสียง อันเป็นฉันทานุมัติของประชาชน

ทำให้เกิด “กระแส” พลิกกลับอย่างไม่ควรมองข้าม

ต้องยอมรับว่า กระแสพลิกกลับนี้อาจอยู่ในสภาพตกเป็น “รอง” ดำรงอยู่ในลักษณะถูกกระทำและ
“ตั้งรับ” เพราะว่าอีกฝ่ายดำเนินไปอย่าง “รุก”

นั่นก็คือ การรุกของ กกต.ส่งผ่านไปยัง “ศาลรัฐธรรมนูญ”

นั่นก็คือ การดำรงอยู่ในสถานะอันเป็น “โจทก์” เป็นผู้กล่าวหาโดย กกต. นั่นก็คือ การดำรงอยู่ในสถานะอันเป็น “จำเลย” เป็นผู้ถูกกล่าวหาของพรรคอนาคตใหม่

แต่ “กระแส” ในทางสังคมเป็นเช่นนั้นจริงละหรือ

กกต.ปรากฏตัวพร้อมกับชุดขาว สะอาด เรี่ยมเร้ เรไร หรือว่าบทบาทของ กกต.ตั้งแต่ก่อนและภายหลังการเลือกตั้งถูกแคลงคลาง กังขา

พื้นที่ “ข่าว” อยู่ในยึดครองของฝ่ายใด

เป็นการยึดครองของกกต.หรือว่าเป็นการยึดครองของพรรคอนาคตใหม่ เป็นการยึดครองของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ เป็นการยึดครองของ นายปิยบุตร แสงกนกกุล

นี่คือสถานะอันพลิกผัน แปรเปลี่ยน

สถานะที่สังคมเฝ้ามองและติดตามบทบาทของพรรคอนาคตใหม่ บทบาทของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ และบทบาทของ นายปิยบุตร แสงกนกกุล

นี่แหละสำคัญ นี่แหละทรงความหมาย

เมื่อกกต.ยืนอยู่หน้ากระจกย่อมรู้ดีที่สุด เมื่อกกต.ยืนอยู่เบื้องหน้าประชาชนย่อมรู้ดีที่สุดว่าจะได้รับการต้อนรับอย่างไร

ใครเป็นโจทก์ ใครเป็นจำเลย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image