กอ.รมน.ประชุมบูรณาส่วนราชการความมั่นคง เตรียมความพร้อมรับมือ ไวรัสโคโรน่า

กอ.รมน.ประชุมบูรณาส่วนราชการความมั่นคง เตรียมความพร้อมรับมือ ไวรัสโคโรน่า

พล.ต.ธนาธิป สว่างแสง โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) เปิดเผยว่า ทางกอ.รมน. โดยสำนักบูรณาการและขับเคลื่อน กอ.รมน. จัดประชุมส่วนราชการด้านความมั่นคง จำนวน 20 หน่วยงาน ที่ห้องประชุมชั้น 1 อาคารเพชรรัตน์ กอ.รมน. ที่ประชุมได้ชี้แจงเกี่ยวกับโรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัส โคโรน่า สายพันธ์ใหม่ 2019 เพื่อเตรียมความพร้อมในการวางแผนป้องกันและแก้ไขในเรื่องต่าง ๆ ได้แก่การเตรียมการป้องกันการขยายตัวไปสู่ขั้นที่ 3 (ขั้นการติดต่อ), การปรับแผนเรื่องการท่องเที่ยวให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน

พล.ต.ธนาธิป ที่ประชุมฯ ได้มีการพิจารณาร่วมกันจำนวน 2 เรื่องคือ 1.สภาพปัญหาการบูรณาการข้อมูลที่พักแรมและคนเข้าเมือง ที่ประชุมได้ให้ความสำคัญกับการปฏิรูปที่พักแรมและข้อมูลคนเข้าเมืองจัดทำ แผนการปฏิรูปที่พักแรมและการบังคับใช้กฎหมายและปรับปรุงกฎหมาย, แผนการปฏิรูประบบข้อมูลคนเข้าเมืองพร้อมกำหนดมาตรการปราบปรามกวดขันในการแจ้งที่พัก และมีความเห็นพ้องว่าควรดำเนินการจัดทำระบบการจัดฐานข้อมูลเดียวกัน โดยสามารถเชื่อมต่อระบบได้ ทุกส่วนราชการ รวมทั้งการบูรณาการในฐานข้อมูลเดียวกัน และการแชร์ข้อมูลข่าวสารที่สำคัญให้หน่วยรับผิดชอบได้รับข้อมูลตรงกัน

Advertisement

เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่เพิ่มเพื่อน

 

พล.ต.ธนาธิป กล่าววว่า 2. การแก้ไขปัญหาการก่อเหตุร้ายตามลำพัง ซึ่งที่ประชุมให้ความสำคัญในด้านการป้องกัน ด้วยการกำหนดแนวทางดำเนินการรับมือกับการเผยแพร่ลัทธิและแนวคิดที่ยึดหลักความรุนแรงในทุกรูปแบบโดยให้ความสำคัญกับการเฝ้าระวังและสกัดกั้นการเผยแพร่แนวคิด โดยเฉพาะการสื่อสารสาธารณะ ผ่านทางสื่อสังคมออนไลน์,ให้มีการตระหนักรู้ตั้งแต่ระดับครอบครัว ชุมชน องค์กร สถาบันทางสังคม, การสร้างความเข้มแข็งให้กับประชาชนและการแจ้งเตือนจากประชาชน, การเฝ้าสังเกตจากหน่วยงานภาครัฐ สถานศึกษา โรงภาพยนตร์ โรงแรม วัด ชุมชน มุ่งเน้นให้ความสำคัญกับการพัฒนาเครือข่ายข่าวภาคประชาชนอย่าง บูรณาการ ทั้งหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน

Advertisement

โดยมีมาตราการป้องกันและแก้ไขปัญหากำหนดให้มียุทธศาสตร์ที่ชัดเจน, มีความร่วมมือระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด, การใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีในการติดตามตรวจสอบ, การเตรียมความพร้อมรับมือกับเหตุการณ์, การส่งเสริมความเข้มแข็งทางสังคม,การให้การศึกษาและสกัดกั้นการเผยแพร่ แนวคิดความรุนแรง,มาตราการควบคุมอาวุธยุทโธปกรณ์และวัตถุระเบิด ประการสุดท้ายคือการจัดการในสถานการณ์วิกฤติให้ทันเวลาเกิดประสิทธิภาพอย่างสูงสุด

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image