บทนำ : ยุบ‘อนค.’

ศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรคอนาคตใหม่ ตัดสิทธิกรรมการบริหารพรรค 16 คน เป็นเวลา 10 ปี โดยระบุว่า การที่พรรคอนาคตใหม่กู้เงินจาก นายยุบ‘อนค.’ หัวหน้าพรรค 2 ครั้งในปี 2562 รวมเป็นเงิน 191.2 ล้านบาท และเงินบริจาคของนายธนาธร 8.5 ล้านบาท ลักษณะการกู้เงินและสัญญากู้เงิน เป็นการรับบริจาค เงิน ทรัพย์สิน ประโยชน์อื่นใด เกิน 10 ล้านบาทต่อปี ดอกเบี้ย เบี้ยปรับที่ตกลงกัน ไม่เป็นไปตามปกติทางการค้า เป็นการเอื้อประโยชน์และให้สิทธิพิเศษแก่พรรค ซึ่งต้องห้ามตามกฎหมายพรรคการเมือง ขัดเจตนารมณ์ของมาตรา 45 รัฐธรรมนูญ 2560 ที่ต้องการให้พรรคเป็นอิสระไม่ถูกครอบงำ ชี้นำ เมื่อรับบริจาคและรับประโยชน์อื่นใดโดยรู้หรือควรจะรู้ว่าได้มาโดยมิชอบด้วยกฎหมาย เป็นการฝ่าฝืนกฎหมาย     มีโทษถึงยุบพรรคตามมาตรา 92 ของ พ.ร.บ.พรรคการเมือง จึงให้ยุบพรรค ตัดสิทธิกรรมการบริหาร 10 ปี และห้ามมิให้ไปจัดตั้งหรือมีส่วนในการจัดตั้งพรรคการเมืองใหม่

ปฏิกิริยาที่ตามมา อาทิ สถานทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย คณะผู้แทนสหภาพยุโรปประจำประเทศไทย ได้เผยแพร่ แถลงการณ์ ห่วงใยสิทธิของผู้เลือกตั้ง ห่วงใยพื้นที่ทางการเมืองของประเทศไทยที่ควรจะเปิดกว้างเพื่อให้ทุกฝ่ายได้มีส่วนร่วม นอกจากนี้ ยังมีการเคลื่อนไหวของนักวิชาการจากมหาวิทยาลัย ที่น่าสังเกต ได้แก่ ท่าทีของคนรุ่นใหม่ ทั้งนิสิตนักศึกษาในมหาวิทยาลัย หลายแห่ง ทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด ซึ่งเป็นกลุ่มที่นิยมและสนับสนุนพรรคอนาคตใหม่

ท่ามกลางกระแสวิจารณ์ต่างๆ ที่น่าห่วงใยอย่างมากก็คือ ในทางการเมือง ความหลากหลายของความคิดเห็นในรัฐสภาไทย ที่ควรเป็นเวทีกลางของทุกแนวความคิด และผ่านการเลือกตั้งของประชาชนจะยังดำรงอยู่มากน้อยแค่ไหน เมื่อองค์กรทางการเมืองที่ประชาชนให้ความนิยมและชื่นชอบ เลือกเข้าสภาเป็นอันดับ 3 และควรจะได้นำทำหน้าที่เป็นปากเสียง และสะท้อนความคิดเห็นของคนรุ่นใหม่สิ้นสภาพไป หลังจากนี้ กลุ่มดังกล่าวจะเคลื่อนไหวนอกสภา ดังที่แกนนำพรรคอนาคตใหม่ได้ประกาศจัดตั้ง คณะอนาคตใหม่ขึ้นมา คำถามที่ทุกฝ่ายต้องขบคิด ก็คือ จากกรณีที่เกิดขึ้นกฎกติกาการเมืองของประเทศ สอดคล้องกับกระแสของสังคมและของโลกที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างมากแล้ว หรือไม่และอย่างไร

Advertisement

เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่เพิ่มเพื่อน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image