เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวตอบโต้ผู้นำฝ่ายค้าน ระบุว่า
วันนี้เข้ามาด้วยความยินดี วันนี้มีรอยยิ้ม เข้ามาอยู่ในกระบวนการนี้ด้วยรัฐธรรมนูญฉบับนี้ หลายคนที่เข้ามาและบอกว่า รธน.ดีไม่ดี ก็เข้ามาด้วย รธน.ฉบับนี้ ซึ่งอาจไม่ถูกใจใคร แต่ก็เป็นหน้าที่ของผู้ที่รับผิดชอบ ตนเองเข้ามาด้วยกระบวนการเลือกนายกฯ อย่าลืมว่าตนเข้ามาด้วยคะแนนมากกว่า 250 เสียง มากกว่าฝ่ายค้าน ไม่ได้มี ส.ว.เลือกมา บางอย่างไม่ใช่ข้อเท็จจริงโดยสมบูรณ์ หลายเรื่องไม่มีหลักฐาน
ยืนยันตนเองไม่เคยมีแนวคิดล้มล้างระบอบประชาธิปไตย ทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอน ขอเปิดอก แต่ก่อนตนก็กังวลเรื่องการโกง ก่อนวันที่ 22 พ.ค.57 ก็มีเรื่องราวหลายเรื่อง บริหารราชการไม่ได้ ไม่ยอมรับกระบวนการยุติธรรม มีคนไม่ยอมติดคุก การออกกฎหมายนิรโทษกรรมในเวลากลางคืน ปัญหาการจำนำข้าว การไม่ยอมรับกระบวนการยุติธรรม นั่นคือเหตุผลที่ตนเข้ามา ตนเองไม่เคยจับสื่อที่ไหนติดคุก ที่หาว่าใช้คำพูดหยาบคาย ไปถามสื่อได้เลย ไม่มีใครโกรธผมหรอก ท่านไม่เป็นธรรม ตนไม่เคยว่าท่าน ท่านสร้างความรู้สึกไม่ดีให้ผม ตนพูดดุไปบ้าง นักข่าวทั้งทำเนียบเข้าใจตนหมด ตนจริงใจ รัฐบาลทำให้ทุกจังหวัดอย่างจริงจัง ไม่เหมือนที่ภูเก็ตโดนมา อย่าไปก้าวล่วงกระบวนการยุติธรรม ถ้าไม่มีการทำผิด ใครจะไปลงโทษได้
เรื่องเศรษฐกิจ ต้องดูก่อนหน้านั้น ปี 2557 ทุกคนทราบเกิดอะไรขึ้น เราต้องไม่ให้เกิดขึ้นอีก เรื่องมาตรา 44 กลั่นแกล้งข้าราชการ ตนจะทำไปทำไม ตนทำไปตามกรรมการ คสช. ทำเพื่อแก้ปัญหา เรื่องสืบทอดอำนาจ เป็นเรื่องของกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ ไม่เกี่ยวกับ คสช. เรื่องการทุจริตมีกี่คดี ทุกอย่างตนทำด้วยเจตนารมณ์บริสุทธิ์ ทำตามขั้นตอน ไม่ใช่สั่งให้ทำ ตนทำตามข้าราชการ ไม่ได้ก้าวล่วงอำนาจเขาเลย เรื่องเอื้อประโยชน์ต่างๆ เหล่านี้แค่การวิจารณ์ คาดการณ์ เรื่องประชานิยม เราดูแลเฉพาะคนที่เดือดร้อน ได้รับเงินตรง ซึ่งไม่ได้มากเลย เอาไปซื้อของกินจำเป็น เรื่องชิมช้อปใช้ก็ไม่ได้เอื้อทุนใหญ่ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องชี้แจงได้หมด
ต่อมา นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.เพื่อไทย ลุกขึ้นประท้วงว่านายกฯ พูดเท็จ ที่บอกว่า ส.ว.ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการเลือกนายกฯ นั้นเป็นการพูดเท็จ เพราะวันนั้น ส.ว.ได้ร่วมโหวตนายกฯ ด้วย
