จุฬาฯจุดเทียน 88 เล่ม เท่าขวบปี ‘ปชต.’ ลั่นไม่รู้อนาคตเป็นอย่างไร แต่เยาวชนไม่สิ้นหวัง

เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ที่ลานข้างหอประชุม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ฝั่งคณะวิศวกรรมศาสตร์ มีการจัดกิจกรรม ‘จุฬารวมพล’ ภายใต้แนวคิด ‘เพราะเกียรติภูมิจุฬาฯ คือเกียรติแห่งการรับใช้ประชาชน’

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศในงานมีนิสิตทะยอยเข้าร่วมอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ราว 16.00 น. โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สน.ปทุมวันเดินทางเข้าสังเกตการณ์ตั้งแต่เวลาประมาณ 15.45 น. ภาพรวมเป็นไปอย่างราบรื่น มีนิสิตร่วมกันนำป้ายผ้าจากคณะนิเทศศาสตร์ ซึ่งเคยถูกปลดมาวางบนพื้น มีความว่า ‘No Privacy No Security No Democracy จบ สวัสดี’

นอกจากนี้ มีการประกาศเชิญชวนให้ร่วมกันติดแฮ็ชแท็ก #เสาหลักจะไม่หักอีกต่อไป สื่อถึงจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยที่เป็นหนึ่งในเสาหลักด้านการศึกษาของประเทศจะยืนหยัดเพื่อประชาธิปไตยของประเทศ

จากนั้นเป็นการอ่านบทกวี ผลงานนิสิตจุฬาฯ นามปากกา ‘คนสาธารณ์’ เนื้อหาเกี่ยวกับอนาคตของคนรุ่นใหม่ที่ถูกทำลายลง ต่อมาเวลาประมาณ 16.40 น. นิสิตจากคณะต่างๆผลัดกันขึ้นปราศรัย

Advertisement

นายกนิษฐ์ วิเศษสิงห์ นิสิตชั้นปี 3 คณะอักษรศาสตร์ จุฬาฯ กล่าวว่า ในวันนี้ขอขอบคุณทางมหาวิทยาลัยที่อนุญาตให้จัดงาน ที่ผ่านมาเวลานึกถึงการชุมนุมคนมักนึกถึงแต่โดมเท่านั้น แต่ในวันนี้เพื่อนพ้องชาวจุฬาฯ ร่วมกันออกมาแสดงพลังทำให้รู้สึกปลิ้มใจมาก ย้อนไปเมื่อ 80 ปีก่อน จุฬาฯ เคยชุมนุมเรียกร้องให้อินโดจีนคืนดินแดนที่สูญเสียไป มีผู้เข้าร่วมกว่า 3,000 คน นั่นเป็นครั้งแรกของการตั้งขบวนนักศึกษา ต่อมาใน พ.ศ.2500 นิสิตจุฬาฯ ก็เป็นกลุ่มแรกที่เรียกร้องประชาธิปไตย

เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่เพิ่มเพื่อน

Advertisement

นายสิรภพ อัตโตหิ นิสิตชั้นปี 3 คณะอักษรศาสตร์ จุฬาฯ กล่าวว่า เรามารวมกันในที่นี้ด้วยเหตุผล 2 ประการ 1. ความรัก ไม่ใช่รักพรรคอนาคตใหม่ แต่รักประชาธิปไตย 2. ความเกลียด ไม่ใช่เกลียดรัฐบาล แต่เกลียดความอยุติธรรม การยุบพรรคอนค.ทำให้เห็นว่าประชาชนไร้ความหมาย คุณค่า สิทธิ เสียงปนะชาชนไม่มีค่า การเลือกตั้งที่ผ่านมา เป็นเพียงการชุบตัวให้เป็นคนใหม่เพื่อบอกว่ามาจากการเลือกตั้งเท่านั้น เป็นเพียงข้ออ้างในการสืบทอดอำนาจ

นายนรากร พิสุทธิ์ นิสิตคณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ กล่าวว่า พวกตนมารวมตัวในวันนี้ ไม่กลัวว่าจะหมดอนาคต ถ้ากลัวคงไม่มา สิ่งที่กลัวคือประเทศชาติจะกลายเป็นเช่นนี้ อยากบอกผู้ใหญ่ว่า อำนาจเป็นของประชาชน ขอเรียกร้องความเป็นธรรม อนาคตไม่รู้จะเป็นอย่างไร แต่เยาวชนอย่างเราอย่าสิ้นหวัง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในงานยังมีการร้องเพลง ดอกไม้จะบาน และแสงดาวแห่งศรัทธา ซึ่งแระพันธ์โดย จิตร ภูมิศักดิ์ นิสิตจุฬาฯ นอกจากนี้ นิสิตอักษรศาสตร์ จุฬาฯ นำพวงหรีดวางแสดงความอาลัยต่อประชาธิปไตย ร่วมกับนิสิตคณะศิลปกรรมศาสตร์ซึ่งแต่งกายชุดแฟนซีสีขาว มีโซ่พันรอบใบหน้า สื่อถึงโซ่ตรวนที่พันธนาการด้วยข้ออ้างของความดี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นิสิตหลายรายที่ขึ้นปราศรัย ได้กล่าวถึงประเด็นที่มักกล่าวว่า ชาวจุฬาฯ ไม่สนใจการเมืองว่าไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด

สำหรับป้ายผ้าที่ร่วมกันเขียน มีข้อความ อาทิ ประชาธิปไตยที่ปลิดปลิว , ประชาธิปตาย, ยุบให่ตายก็ไม่เลือกคุณ , #ไม่มีประชาธิปไตยเราจะตายกันหมด เป็นต้น

ในช่วงหนึ่ง นิสิตที่ร่วมกิจกรรมยังพร้อมใจชูสามนิ้ว ตะโกน ‘เผด็จการจงพินาศประชาธิปไตยจงเจริญ’ รวมถึงการทำ ‘มินิฮาร์ท’ อีกทั้งนิสิตที่ขึ้นปราศรัยกล่าวบนเวทีว่า การที่มีผู้ใหญ่บางรายระบุว่า การออกมาชุมนุมของนักศึกษาระวังจะไม่มีอนาคต ขอบอกว่าพวกตนไม่กบัว เพราะอนาคตเราถูกทำลายไปตั้งแต่ 6 ปีก่อนแล้ว

จากนั้น เวลาหลัง 18.00 น. เป็นการร่วมจุดเทียน และร้องเพลงภาษาอังกฤษ Do you here the people sing โดยมีการจุดเทียนแยกต่างหากอีก 88 เล่มเท่าจำนวนปีที่ประเทศไทยเข้าสู่ระบบการปกครองแบบประชาธิปไตย

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image