‘วิโรจน์’ปูดปฏิบัติการ‘ไอโอ’4ภารกิจหลัก ถลก‘บิ๊กตู่’แบ่งแยกปชช.-สืบทอดอำนาจ

หมายเหตุเนื้อหาจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม โดยนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ อดีตพรรคอนาคตใหม่ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์

พล.อ.ประยุทธ์ มีพฤติกรรมยุยงปลุกปั่นสร้างความแตกแยกในหมู่ประชาชน ทำลายความรู้รัก สามัคคี ของประชาชนในชาติ ไม่สมควรดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และจริงๆ แล้วไม่สมควรดำรงตำแหน่งใดๆ เลยในสภาอันทรงเกียรติ

ปัจจุบันหากเข้าไปในโลกออนไลน์ไม่ว่าจะเป็นเฟซบุ๊ก หรือทวิตเตอร์ จะพบกลุ่มบุคคลกลุ่มหนึ่งที่ใช้บัญชีรายชื่อปลอม ซึ่งนำรูปตัวการ์ตูน รูปสัตว์ หมูหมา กาไก่ ทิวทัศน์ ต้นไม้ใบหญ้า บางครั้งไปนำรูปประชาชนคนอื่นมาตั้งเป็นรูปโปรไฟล์ของตัวเองแล้วออกปฏิบัติการคุกคามประชาชน ประชาชนเรียกภารกิจแบบนี้พร้อมภารกิจทางการทหารว่า “ไอโอ” ภาษาไทยใช้คำว่า “ปฏิบัติการข่าวสาร” บ้าง “ปฏิบัติการทางจิตวิทยา” บ้าง

เป้าหมาย มี 4 ภารกิจ คือ

Advertisement

1.พยายามคุกคามประชาชนที่ใช้สิทธิเสรีภาพในการวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาล โดยการขุดประวัติบุคคลนั้น มาโพสต์ประจาน แล้วให้ไอโออีกคน และประชาชนมารุ่มด่า เหมือนพฤติกรรมการล่าแม่มดในยุคกลาง

2.ประชาชนคนไหนแสดงความคิดเห็น แล้วมีคนเข้าไปกดถูกใจ “ไอโอ” จะเข้าไปด่าทอ ต่อว่า ด้วยถ้อยคำที่รุนแรง ใช้ถ้อยคำเกลียดชังด่าทอประชาชน

3.เข้าไปโพสต์ข้อความด่าทอนักการเมืองฝ่ายตรงข้าม นักสิทธิมนุษยชน นักวิชาการ เพื่อสร้างความเกลียดชัง ความแบ่งแยกในหมู่ประชาชน

Advertisement

4.เลือกเอาข้อมูลด้านเดียว ท่อนเดียว มิติเดียว เพื่ออวยกองทัพ อวยรัฐบาล บิดเบือนข้อเท็จจริง และไม่ให้ประชาชนเข้าถึงข้อมูลทั้งหมดเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง

การทำแบบนี้จะส่งผลเสียมากมาย ผลเสียที่ร้ายแรงที่สุดคือบ่มเพาะเมล็ดพันธุ์แห่งความเกลียดชังให้อยู่ในใจของประชาชน แบ่งแยกประชาชนออกเป็น 2 ฝ่าย เพื่อสร้างความมั่นคงให้กับการสืบทอดอำนาจรัฐบาลที่มาจากการรัฐประหาร สิ่งเหล่านี้สร้างความเสียหายมหาศาล ประเทศไทยเคยเกิดโศกนาฏกรรมมามากแล้ว

ไอโอเหล่านี้คุกคามประชาชนหนักจนเหมือนมีงบสนับสนุน มีคนอยู่เบื้องหลัง วันนี้สามารถจับกระบวนการนี้ได้ทั้งรังแล้วที่ผ่านมามีการสร้างเพจเป็นร้อย ซึ่งทำกันเป็นกระบวนการเพื่อแชร์เนื้อหาจากเว็บไซต์ที่ชื่อว่า pulony.blogspot.com ซึ่งมีหน้าที่ผลิตเนื้อหาที่คอยเสี้ยม และโจมตีนักสิทธิมนุษยชน อย่างนางอังคณา นีละไพจิตร และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรอย่างนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา

เมื่อเว็บไซต์ดังกล่าวผลิตเนื้อหาแล้ว จะมีเพจเฟซบุ๊กต่างๆ คอยแชร์ออกไป นี่คือสิ่งที่ทำให้ความขัดแย้งในจังหวัดชายแดนภาคใต้ถูกเลี้ยงไข้จนถึงทุกวันนี้ ทั้งที่นางอังคณาพยายามเสนอแนะทั้งการฝึก การเตรียมความพร้อมและสนับสนุนการปฏิบัติหน้าที่ของชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน หรือ ชรบ. กองพันราษฎรอาสารักษาหมู่บ้าน หรือ อรบ. และกองอาสารักษาดินแดน หรือ อส. ซึ่งเป็นกองกำลังติดอาวุธฝ่ายพลเรือนที่จัดตั้งโดยกระทรวงมหาดไทยให้ดีกว่าเดิม

ในขณะที่นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา พยายามสนับสนุนการเจรจา เพื่อเดินหน้าสู่สันติภาพ มีการเสนอให้ค่อยๆทบทวนยกเลิกกฎหมายความมั่นคงต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นกฎอัยการศึก หรือพระราชกำหนดบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินอย่างเป็นลำดับ ซึ่งเป็นประโยชน์ในการสร้างสันติสุข และความสงบให้เกิดขึ้นใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่สิ่งเหล่านี้กลับถูกเว็บไซต์ดังกล่าวเขียนโจมตีอยู่ตลอด และยังมีเฟซบุ๊กเครือข่ายคอยแชร์ อย่างเพจ “ลมหายใจที่ปลายด้ามขวาน” ซึ่งแชร์บทความของเว็บไซต์ pulony ออกไปกล่าวหานักการเมืองในการก่อเหตุความรุนแรงภาคใต้ เพจ “ปมชายแดนใต้” ก็เช่นกัน โดยเป็นการกล่าวหา น.ส.พรเพ็ญ คงขจรเกียรติ และ น.ส.อัญชนา หีมมินะ นักสิทธิมนุษยชน เพจ “เรื่องจริงชายแดนใต้” และเพจ “ความจริงปัตตานีบ้านฉัน” ก็โจมตี น.ส.พรเพ็ญ รวมถึง เพจ “ตอบโจทย์โจรใต้ BRN”

เพจเหล่านี้เป็นเพียงตัวอย่างเท่านั้น แต่ยังมีอีกเป็นสิบๆ เป็นร้อยเพจที่คอยแชร์เนื้อหาจากเว็บไซต์นี้เพื่อ “ด้อยค่า” นักสิทธิมนุษยชน นักวิชาการ และนักการเมือง บั่นทอนบรรยากาศการเจรจาเพื่อแสวงหาสันติภาพ เป็นการเติมเชื้อไฟให้แบ่งฝักฝ่าย เกิดความระแวงในหมู่ประชาชน ตอกลิ่มความขัดแย้งให้ร้าวลึกลงเรื่อยๆ มีความพยายามป้องกันไม่ให้นักการเมืองนำปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้มาแก้ไขผ่านสภา

หลังจากพยายามหาว่าใครอยู่เบื้องหลังเว็บไซต์นี้กระทั่งได้พบเอกสารฉบับหนึ่งจากการได้เป็นกมธ.พิจารณางบประมาณปี 2563 ที่ส่งมาของบประมาณโดย กอ.รมน. ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ขึ้นตรงกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ความจริงมีเพียงหนึ่งและปริศนาทุกอย่างได้ถูกไขกระจ่างแล้ว เมื่อพบเอกสารหน้าที่ 14 ระบุไว้ชัดเจนในข้อ 10 ถึงรายงานการปฏิบัติการข่าวสารของเว็บไซต์นี้ ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจาก กอ.รมน. ซึ่งเป็นเงินภาษีของประชาชน ตั้งแต่ปีงบประมาณ 2560-2562 เบื้องหลังเว็บไซต์นี้ก็คือ กอ.รมน. จึงมาโป๊ะแตกว่าหน่วยงานภายใต้การสั่งการของนายกรัฐมนตรีอยู่เบื้องหลังเว็บไซต์ pulony และเพจเครือข่ายทั้งหมด

ถามว่าจะบั่นทอนบรรยากาศการเจรจาไปเพื่ออะไร จะขัดขวางการแก้ปัญหาผ่านสภาไปทำไม วันนี้ต้องกระชากหน้ากากพล.อ.ประยุทธ์ ออกมา เพราะท่านเป็นหนึ่งในตัวการที่ทำให้เหตุการณ์ไม่สงบ ทำให้ปัญหายังคุกรุ่น ปัญหาถูกเลี้ยงไข้เหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ จากการที่รัฐ โดย กอ.รมน.ที่ขึ้นกับนายกรัฐมนตรีเข้าไปคุกคามนักสิทธิมนุษยชน

ประเทศไทยถูกยูเอ็นจัดให้เป็น 1 ใน 38 ประเทศที่น่าละอาย เพราะมีการคุกคามนักสิทธิมนุษยชน

แค่นี้จริงๆ ก็ต้องเด้งแล้ว แต่โทษมหันต์ของ พล.อ.ประยุทธ์ยังไม่หมด เพราะขณะนี้ในโซเชียลมีเดียมีการปั่นวาทกรรมชังชาติโดยกลุ่มไอโอ ที่แพร่ข้อความเกลียดชัง แบ่งประชาชนออกเป็นฝักฝ่าย

การทำงานของไอโอเหล่านี้ มีรูปแบบทำซ้ำทุกครั้ง มีวงรอบปฏิบัติการวนไปรายชั่วโมงเหมือนเดิมทุกวัน มีการรับลูกทั้งบนดินและใต้ดิน มีผู้ใต้บังคับบัญชาของนายกรัฐมนตรี แม้แต่ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ.ก็ใช้วาทกรรมชังชาติในการตอบโต้ประชาชนผ่านสื่อโซเชียลมีเดีย เปรียบเปรยประชาชนเป็นสุนัข หลายครั้งขบวนการไอโอ เอาความเดือดร้อน สะเทือนใจของประชาชนมาสร้างข่าวเท็จ

ในเอกสารทางราชการ 3 ฉบับ ของกระทรวงกลาโหม ฉบับแรกลงวันที่ 25 เมษายน 2562 ในเอกสารมีการซักซ้อมการปฏิบัติการข่าวสารที่หน่วยเหนือมอบให้แต่ละวัน มีการสอนการโพสต์ว่า ไม่ต้องเรียงลำดับหัวข้อตามภารกิจที่มอบให้ เพื่อป้องกันไม่ให้ถูกจับได้ว่าเป็นบัญชีผู้ใช้ปลอมหรือเรียกว่าอวตาร มีการสนับสนุนค่าโทรศัพท์ ค่าอินเตอร์เน็ตทุกสิ้นเดือน เดือนละ 2,000 บาท, ฉบับที่ 2 ลงวันที่ 22 พฤศจิกายน 2562 เอกสารนี้อ้างถึงการประชุมวันที่ 4 พฤศจิกายน 2562 และอ้างว่าเป็นข้อสั่งการของ พล.ท.คนหนึ่ง ให้หน่วยระดับกองพล และระดับกรมตรวจสอบยืนยันตัวผู้ปฏิบัติการข่าวสารที่ตั้งไว้หน่วยละ 5 นาย ส่งข้อมูลทุกวันที่ 5 ของเดือน มีการประชุมผ่านวิดีโอเทเลคอนเฟอเรนซ์ทุกวันจันทร์-ศุกร์ มีค่าโทรศัพท์ที่กองทัพบกจัดสรรให้เจ้าหน้าที่ไอโอ เดือนละ 300 บาท และยังมีเงินรางวัล และประกาศนียบัตรให้กับเพจ และผู้ปฏิบัติงานที่มีผู้ติดตามสูงสุดในสื่อโซเชียลทุกเดือน รางวัลละ 3,000 บาท และเอกสารลงวันที่ 22 พฤศจิกายน 2562 อีกฉบับ ที่มีการสนับสนุนค่าโทรศัพท์ให้เจ้าหน้าที่ไอโอคนละ 100 บาท

สิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นกองทัพจะทำเองโดยพลการไม่ได้ ต้องมีการคำสั่ง ดังนั้น ภารกิจคุกคามจึงเป็นการปฏิบัติการคำสั่งโดยมิชอบ โดย พล.อ.ประยุทธ์ เข้าไปเกี่ยวข้องด้วย ผมอยากให้มินิฮาร์ตนายกฯเหลือเกินว่าทำไปได้อย่างไร

อย่างไรก็ตาม กระบวนการไอโอทั้งหมด เราสืบทราบว่าจะมีภารกิจ 20 ภารกิจเศษ โดยจะมีกรุ๊ปไลน์ 3 กลุ่มใหญ่ กลุ่มแรกเป็นกลุ่มของผู้บังคับบัญชา กลุ่มที่สองเป็นไลน์ส่งมอบภารกิจให้กับหน่วยปฏิบัติการ และกรุ๊ปที่สามเป็นกลุ่มรายงานผล และชี้วัดภารกิจในแต่ละวัน

โดยเจ้าหน้าที่แต่ละคนจะมีบัญชีปลอมสองบัญชีโดยผมขอเปิดข้อความบางส่วนในไลน์กรุ๊ปที่สอง ซึ่งระบุชัดเจนในการออกคำสั่งให้คุกคามพรรคอนาคตใหม่ด้วย โดยเฉพาะประเด็นเรื่องยกเลิกการเกณฑ์ทหาร อีกทั้งยังให้เจ้าหน้าที่เข้าไปปฏิบัติภารกิจในเฟซบุ๊กต่างๆ ที่เป็นลบต่อรัฐบาลด้วย โดยลักษณะทั้งกดเศร้า กดโกรธ แสดงความเห็นคุกคาม เพื่อด้อยค่าฝั่งเห็นต่าง และยังมีภารกิจอวยเพจต่างๆ ที่เป็นบวกกับรัฐบาล ทั้งกดไลค์ กดเลิฟ ให้กับเนื้อหาที่เป็นบวกกับรัฐบาล รวมทั้งในทวิตเตอร์ก็ใช้วิธีการเดียวกัน

นอกจากนี้ เป้าหมายไอโอ คือประชาชน นักวิชาการ และคนธรรมดา ที่โพสต์หลักการ และมีจำนวนคนแชร์มาก และยังมีการล็อกเป้าสื่อ แม้แต่ นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีต ส.ส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ ก็โดน ผมจึงหวังว่าพรรคประชาธิปัตย์จะได้ทบทวน

นายกฯจะปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้ เพราะอยู่ภายใต้ความรับผิดชอบของท่าน ใช้งบประมาณที่มาจากภาษีประชาชนยุยงปลุกปั่นประชาชน ยิ่งไปกว่านั้น สิ่งที่ผมพูดทั้งหมดเป็นเพียงปลายน้ำ ต้นน้ำ ที่ไปสืบเบื้องต้นเกี่ยวพันกับบริษัทเอกชนรายหนึ่ง

โดยบริษัทนี้ชื่อย่อว่า “พ และ พ” มีที่ตั้งอยู่ที่พญาไท โดยมีผู้ถือหุ้น 3 คน หนึ่งในนั้นมีตัวย่อ “ส” ซึ่งเป็นบุคคลที่เกี่ยวพันกับผู้ผลิตเนื้อหาสร้างความเกลียดชังป้อนให้กับหน่วยงานเหล่านี้ จึงขอฝากเจ้าหน้าที่ที่ทำภารกิจไอโอ ว่าภารกิจไอโอที่ท่านได้รับ ภายใต้การรู้เห็นของนายกฯไม่ได้มีเป้าหมายเพื่อการสร้างความมั่นคงของชาติ

แต่เป็นความมั่นคงในการสืบทอดอำนาจของตัวเอง วันนี้ผมพบคำตอบแล้ว ที่เราเกลียดกันไม่ใช่เพราะอยู่ดีๆ แล้วเราเกลียดกัน แต่ในกระบวนการที่รู้เห็นนี้อยู่ภายใต้ความรับผิดชอบของ พล.อ.ประยุทธ์ ที่พยายามบ่มเพาะเมล็ดแห่งความเกลียดชังในสังคม โดยสั่งการให้กองทัพทำในสิ่งที่เสื่อมเสียเกียรติภูมิของทหาร ถึงเวลาที่ประชาชนต้องเลิกเกลียดกันเสียที เพื่อไม่ให้ตกเป็นเครื่องมือของ พล.อ.ประยุทธ์

และขอเตือน พล.อ.ประยุทธ์ ว่าหากเกิดโศกนาฏกรรมที่คนไทยต้องฆ่ากันอีกครั้ง ท่านจะรับผิดชอบอย่างไร?

ความผิดนี้ของ พล.อ.ประยุทธ์ ค่อนข้างฉกรรจ์ จนสภา และประชาชนมิอาจแค่ไม่ไว้วางใจ แม้แต่ให้อภัยก็ไม่สมควร!?!

เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่เพิ่มเพื่อน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image