เด็กชวน ตำหนิ ส.ส.อดีตอนาคตใหม่ ไฮด์ปาร์คนอกห้องประชุม พาดพิงคนอื่น เผย แจ้ง “ปิยบุตร” แล้วไม่มีเอกสิทธิ์คุ้มครอง ถูกฟ้องได้
เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ ที่รัฐสภา เกียกกาย นพ.สุกิจ อัตโถปกรณ์ ที่ปรึกษาประธานสภาผู้แทนราษฎร แถลงกรณีที่ ส.ส.อดีตพรรคอนาคตใหม่ใช้จุดแถลงข่าว บริเวณชั้น 1 อาคารรัฐสภาว่า เบื้องต้นการแถลงของ ส.ส.ของพรรค ไม่มีโอกาสอภิปรายในห้องประชุม เราก็เห็นใจ และเข้าใจ แต่หลังจากนั้น ส.ส.กลุ่มดังกล่าวได้ใช้พื้นที่จุดแถลงข่าวอภิปรายรัฐมนตรี โดยใช้เวลาถึง 2 ชั่วโมง ตั้งแต่ 19.10 – 21.15 น. ตนอยากถามว่าใช้สิทธิอะไร ไม่ได้ปกป้องใคร เพราะไม่ได้มีส่วนได้เสีย แต่ประธานสภา ต้องดูแลความเรียบร้อย ในฐานะที่ตนเป็นที่ปรึกษาประธานสภา จึงต้องออกมาพูดเรื่องนี้ เพราะเจ้าหน้าที่สภาได้ขอร้องท่านแล้วแต่ก็ไม่ฟัง ไม่ได้มีความเกรงใครเลย ตลอดเวลาการอภิปรายมีการพูดพาดพิงผู้อื่น ซึ่งผิดระเบียบการแถลงข่าวที่ต้องใช้กริยาวาจาสุภาพ รักษามารยาทเรียบร้อย และเรื่องการถ่ายภาพ และการบันทึกภาพและเสียง ซึ่งทำได้เฉพาะสื่อมวลชนประจำรัฐสภา แต่กรณีที่เกิดขึ้นระหว่างการอภิปรายตรงจุดแถลงข่าวมีการไลฟ์สดตลอดเวลา ถือเป็นการฝ่าฝืนระเบียบ โดยยืนยันว่าจุดแถลงข่าวเปิดกว้างสำหรับทุกคนที่มีสิทธิ หรืออาจใช้เป็นพื้นที่แก้ข่าวที่ถูกพาดพิงเสียหาย แต่ไม่ควรเอาเวทีนี้มาใช้อภิปรายให้ร้ายคนอื่น และใช้เวลานานขนาดนี้ ตนจึงขอตำหนิการกระทำดังกล่าว
“ในส่วนเอกสิทธิ ส.ส.ที่ได้พูดพาดพิงบุคคลอื่น ผมได้พูดคุยนายปิยบุตร แสงกนกกุล อดีตเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ แล้วและบอกว่าไม่มีเอกสิทธิ์คุ้มครองใดๆ ดังนั้น การแถลงข่าวพาดพิงบุคคลใด จะถูกฟ้องร้องได้ทั้งทางแพ่งและอาญา” นพ.สุกิจกล่าว และว่า ส่วนที่บางพรรคพูดในทำนองว่า มีการแอบตกลงกัน โดยวิปรัฐบาลและวิปฝ่ายค้าน โดยไม่บอกให้เขารู้ ขอชี้แจงว่า ขณะนี้มี 25 พรรคการเมือง ตนไม่สามารถไปเชิญทุกพรรคให้มาร่วมหารือได้ และเนื่องจากมีวิปคอยทำหน้าที่ทำหน้าที่แล้ว เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ตนจึงเชิญประธานวิปรัฐบาล และประธานวิปฝ่ายค้าน มาร่วมประชุมกับประธาน และรองประธานสภา และมอบหมายให้วิปแต่ละฝ่ายไปคุยกัน โดยไม่สามารถก้าวล่วงได้ ดังนั้น การที่พรรคเสรีรวมไทย และพรรคอนาคตใหม่ พูดว่าไม่มีส่วนในการพูดคุยนั้นทุกอย่างเป็นไปตามระบบวิปแล้ว
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
