เปิดปมร้าว เพื่อไทย-อนค. ในศึกซักฟอก

เปิดปมร้าว
เพื่อไทย-อนค.
ในศึกซักฟอก

จบไปเป็นที่เรียบร้อยกับการอภิปรายไม่ไว้วางใจ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมกับอีก 5 รัฐมนตรี ที่ประกอบไปด้วย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่เสียงฝ่ายรัฐบาลผ่านฉลุย เนื่องจากพรรคเพื่อไทยวอล์กเอาต์ ไม่เข้าร่วมประชุม เหลือแต่เพียง 5 พรรคร่วมฝ่ายค้าน ที่ยังนั่งประชุมอยู่

ความไม่แน่นอนของการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้แสดงอาการมาก่อนหน้า เมื่อมีการประชุมชุดอภิปรายไม่ไว้วางใจที่มี ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง เป็นหัวหน้า มีความเห็นแตกต่างกันเรื่องตัวบุคคลที่จะถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจ โดยเฉพาะการอภิปรายไม่ไว้วางใจ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี

ความเห็นที่ไม่ตรงกันนำไปสู่การเลื่อนการกำหนดการยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจหลายครั้ง ท่ามกลางกระแสข่าวที่ให้จับต้อง ระวัง เกี้ยเซี้ยŽ

Advertisement

เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่เพิ่มเพื่อน

 

Advertisement

 

 

สำหรับการอภิปรายไม่ไว้วางใจตั้งแต่วันที่ 24-27 กุมภาพันธ์ รอยร้าวระเบิดขึ้นเมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ ที่พรรคร่วมฝ่ายค้านไม่สามารถอภิปรายได้ครบทุกคน โดยเฉพาะในส่วนของอดีตพรรคอนาคตใหม่ ที่ต้องการจะอภิปราย พล.อ.ประวิตร แต่สุดท้ายไม่ได้อภิปราย เพราะเวลาของฝ่ายค้านหมดแล้ว และฝ่ายรัฐบาลไม่ต่อเวลาให้

สุดท้ายฝ่ายค้านวอล์กเอาต์ทั้งหมด จากนั้นอดีตพรรคอนาคตใหม่เริ่มเปิดฉากซัดพรรคเพื่อไทย โทษฐานถ่วงเวลา

ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ในช่วงวันที่สองของการอภิปราย สถานการณ์ความไม่พอใจในการจัดวางคิวการอภิปรายเริ่มมาคุ

ในวันนั้น อดีตพรรคอนาคตใหม่ขอเวลาช่วงไพรม์ไทม์ คือเวลา 20.00 น. เปิดทางให้ นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ อดีตพรรคอนาคตใหม่ ขึ้นพูด โดยอดีตพรรคอนาคตใหม่ย้ำหลายครั้งว่าเป็นการอภิปรายที่รับรองว่าเด็ดจริงๆ แต่ไม่มีการจัดการที่ดี จนนายวิโรจน์ได้ขึ้นอภิปรายจริงในเวลาเกือบ 23.00 น.

วันที่สามของการอภิปราย 6 พรรคร่วมได้ปิดห้องประชุมกัน ในเวลาช่วงก่อนเที่ยงวัน โดยได้เชิญ นายสุทิน คลังแสง ประธานวิปฝ่ายค้าน มาเข้าร่วมด้วย โดยทางอดีตพรรคอนาคตใหม่ระบุว่า ไม่สามารถจัดการหรือดำเนินการอะไรในพรรคได้ เพราะต้องรอคิวอภิปรายจากฟากวิปพรรคเพื่อไทย ที่จัดคิวโดย นายสุทิน ประธานวิปฝ่ายค้าน และตัวแทนของวิปฝ่ายค้านของแต่ละพรรค ซึ่งจะประชุมร่วมจัดคิวในห้องวอร์รูม 301 โดยการอภิปรายตั้งแต่วันแรกจนถึงช่วงสายของวันที่สามคิวการอภิปรายออกมาทีละชื่อสองชื่อ

ขนาดประธานสภายังเอ่ยบนบัลลังก์ว่า ขอให้ฝ่ายค้านส่งคิวชื่อคนอภิปรายให้ด้วย

ในการประชุมแกนนำ 6 พรรคร่วม นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย จึงบอกให้เอารายชื่อทั้งหมดที่จะอภิปรายขึ้นกระดาน พร้อมกำกับเวลาที่จะใช้ในการอภิปรายไว้

ทั้งนี้ ในการประชุมของอดีตพรรคอนาคตใหม่ ขอให้อภิปรายนายกฯ ให้จบภายในวันที่สาม เพราะวันที่สี่ของการอภิปราย จะได้ใช้เวลาที่เหลืออภิปรายรัฐมนตรีคนอื่นๆ ซึ่งในที่ประชุมเห็นพ้องร่วมกันว่าให้เป็นไปตามนั้น แต่พอเอาเข้าจริง ชื่อที่เคยกางร่วมกันในวงประชุมก็มีการปรับเปลี่ยนอีก และช่วงบ่าย พรรคเพื่อไทยตั้งโต๊ะแถลงในห้อง 301 ซึ่งเป็นวงใหญ่ ระบุจะอภิปรายนายกฯถึงเที่ยงวันที่สี่ของการอภิปราย ซึ่งไม่ได้ตรงกับข้อตกลงที่ทำไว้ในห้องประชุม 6 พรรคร่วมช่วงก่อนหน้า

ขณะนั้นตัวแทนของอดีตพรรคอนาคตใหม่ต้องใช้วิธีอภิปรายพ่วง โดยอภิปราย ร.อ.ธรรมนัส พ่วงกับอภิปรายนายกฯ ด้วย จึงได้อภิปรายรัฐมนตรีคนอื่นบ้าง

ต่อมาวันที่สี่ของการอภิปราย นายศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ ส.ส.อุตรดิตถ์ พรรคเพื่อไทย อภิปรายเป็นคนแรกของวัน ใช้เวลาอภิปรายคนเดียวยาวนานถึง 3 ชั่วโมง ซึ่งพรรคเพื่อไทยแม้พยายามบริหารจัดการแต่ก็ล้มเหลว ไม่สามารถเบรกคนของตัวเองได้ และผู้อภิปรายทั้งที่รู้ว่าเกินเวลามาเป็นชั่วโมงก็ไม่สนใจ ทำให้ภาพที่ออกมาเหมือนว่าปล่อยให้นายศรัณย์วุฒิอภิปรายไปเรื่อยๆ ทั้งที่วิปฯ รู้ดีอยู่แล้วว่าเวลาจะไม่พอ

นอกจากนี้ พรรคร่วมฝ่ายค้านยังตั้งข้อสังเกตว่า คนของพรรคเพื่อไทย ตลอด 3 วัน ได้ขึ้นอภิปรายในช่วงเวลาไพรม์ไทม์เสมอ ซึ่งหากมีการสรุปปิดในเวลา 19.00 น. จริงตามที่วิปฝ่ายค้านตกลง นายสุทิน ซึ่งเป็นผู้สรุปปิดก็จะได้ขึ้นพูดในช่วงเวลาดังกล่าว

ขณะที่รายงานข่าวจากพรรคเล็กระบุว่า ที่ประชุมพรรคร่วมฝ่ายค้านตั้งแต่เริ่มแรกได้มีการตั้งคณะกรรมการเพื่อทำหน้าที่ไปเจรจากับทางรัฐบาลทั้งหมด 5 คน โดยคละพรรค แต่เวลาที่มีการเจรจากับรัฐบาล เลขาธิการพรรคเพื่อไทย และประธานวิปฝ่ายค้าน มักจะไปทำการเจรจาโดยไม่ได้แจ้งคณะกรรมการคนอื่นๆ ซึ่งหลายครั้งที่ไปตกลงกับทางรัฐบาล เช่น เรื่องเวลา หรือเรื่องการไม่ให้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย อภิปรายเรื่องถวายสัตย์ฯ มา โดยที่กรรมการคนอื่นที่มาจากพรรคร่วมไม่รู้ และการให้คิวกับพรรคเล็กร่วมฝ่ายค้านก็ไม่ชัดเจน ตัวแทนบางพรรคเกือบไม่ได้ขึ้นพูดในเวลาที่ตกลงไว้ หรือหัวหน้าพรรคบางพรรคเตรียมตัวมาอภิปรายมาวันหนึ่งก็ถูกเลื่อนออกไปให้อภิปรายอีกวันหนึ่งโดยไม่ทราบเหตุผล

ช่วงค่ำของวันที่ 27 กุมภาพันธ์ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ อดีตพรรคอนาคตใหม่ ได้นำ ส.ส.อดีตพรรคอนาคตใหม่ แถลงข่าว โดยมี นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ นายปิยบุตร แสงกนกกุล อดีตเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ และ น.ส.พรรณิการ์ วานิช อดีตโฆษกพรรคอนาคตใหม่มาร่วมสังเกตการณ์

นายจิรวัฒน์ อรัณยกานนท์ ส.ส.กทม. อดีตพรรคอนาคตใหม่ กล่าวว่า สำหรับการอภิปรายไม่ไว้วางใจ เราเข้าใจดีว่ามีข้อตกลงระหว่างวิปทั้ง 2 ฝ่าย เราเข้าใจกติกามาโดยตลอด แต่ข้อเท็จจริงมีการบีบเวลาของพวกเราโดยพรรคฝ่ายค้านด้วยกันเอง ไม่อยากที่จะคิดเช่นนั้น แต่ข้อเท็จจริงปรากฏว่าพรรคเพื่อไทยในฐานะที่เป็นผู้รักประชาธิปไตย แต่ไม่รักษากติกาและรักษาวินัยในการใช้เวลา ทำให้พวกเราไม่มีโอกาสอภิปราย โดยปกติการอภิปรายไม่ไว้วางใจคนแรกก็คือนายกรัฐมนตรี ลำดับถัดมาก็ควรเป็น พล.อ.ประวิตร และนายวิษณุ
รองนายกรัฐมนตรี แต่กลับนำเอารัฐมนตรีคนอื่นขึ้นมาก่อน และปิดท้ายด้วย พล.อ.ประวิตร

“ผมไม่อยากจะคิดว่ามันมีเงื่อนงำในการเจรจาระหว่างฝ่ายรัฐบาลและพรรคฝ่ายค้านบางพรรคหรือไม่ จึงขอให้พี่น้องติดตามเสาะหาข้อเท็จจริงกันเอง เพราะตามประเพณีทางการเมือง พล.อ.ประวิตรเป็นรองนายกฯ คุณต้องอยู่ลำดับ 2 ของการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ส่วนนายวิษณุต้องอยู่ลำดับ 3 แต่ข้อเท็จจริงมีการวิ่งเต้นและเอาชื่อ พล.อ.ประวิตรมาไว้ท้ายสุด นี่คือเรื่องจริงในสภา เราวางคิวอภิปราย ร.อ.ธรรมนัสในช่วงหัวค่ำ แต่ก็ถูกกินเวลาจนต้องไปอภิปรายในช่วงดึก แล้ววันนี้ผมถามว่าการใช้เวลาตลอด 4 วันที่ผ่านมา มีนายกฯ คนเดียวที่ถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจ แต่รัฐมนตรีคนอื่นกลับไม่ถูกอภิปราย แต่เป็นการอภิปรายประกบ ทำไมคุณไม่อภิปรายตรงๆ”Ž นายจิรวัฒน์กล่าว

ขณะที่ นายสุทิน คลังแสง ประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่า เราเห็นใจน้องๆ อดีตพรรคอนาคตใหม่ เพราะเขาตั้งใจดี เป็น ส.ส.ใหม่ที่ตั้งใจมาก เขาก็อยากอภิปรายให้จบ แต่ด้วยสถานการณ์ที่มันเกิดขึ้น เราประเมินผิดพลาดจนให้เกิดการกระทบกระทั่ง ซึ่งน้องเขาช่วงนี้ก็โดนมรสุมทางการเมืองเยอะ เขาอาจจะลำบากใจ และเข้าใจเราได้ไม่หมด ซึ่งเรายืนยันว่าคุยกันได้ เคยเกิด ไม่ใช่ไม่เคยเกิด การเข้าใจผิดกันอย่างนี้เคยมี คุยกัน แล้วเข้าใจก็ให้อภัยกัน ยืนยันว่ายังทำงานด้วยกันต่อไป ก็เหมือนสามีภรรยา ที่มีบ้างที่กระทบกระทั่งกัน แต่ไปกันได้ อันนี้พี่กับน้อง เราขอโทษน้องเขาแล้ว เรากับ ส.ส.อดีตพรรคอนาคตใหม่ ต้องระวังกระบวนการไอโอ เพราะว่าเราโดนเสี้ยมแน่

ต้องดูว่ารอยร้าวครั้งนี้ คำขอโทษนั้นจะเพียงพอหรือไม่

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image