เมื่อวันที่ 29 กุมภาพันธ์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.พรรณิการ์ วานิช อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ อดีตพรรคอนาคตใหม่ ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว Voice of America ภาคภาษาไทย กรณีการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่ผ่านมา ว่า เราอาจมีอุดมคติทางการเมืองเกินไปที่มองว่า ชัดเจนขณะนี้แล้ว คุณค่า ส.ส.ฝ่ายค้าน และรัฐบาล ที่นึกถึงผิดชอบชั่วดี หรือหลักนิติรัฐนิติธรรม แต่สุดท้ายก็ไม่ได้เป็นไปตามนั้นซะทีเดียว แต่ก็จะเห็นว่าคะแนนของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ นั้นน้อยกว่าคนอื่น
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า หากมีการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) แล้วมีการนำชื่อของคนที่ได้คะแนนในการอภิปรายน้อยที่สุดออกไป จะช่วยได้มากน้อยขนาดไหน น.ส.พรรณิการ์กล่าวว่า มาถึงขนาดนี้แล้ว ความไม่พอใจของประชาชนสูงเกินกว่า จะปรับคนที่ตัวเล็กๆ ออกแล้วจะทำให้กระแสธารความไม่พอใจมันเชี่ยวกรากน้อยลง คงไม่ เพราะประชาชนรู้แล้วว่า ความเลวร้ายที่เกิดขึ้นกับประเทศ ไม่ใช่รัฐมนตรีคนใดคนหนึ่ง แต่มันคือระบอบสืบทอดอำนาจของ คสช. ซึ่งแกนกลาง คือ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี
เมื่อถามต่อว่า ตอนนี้คนเริ่มมองการเคลื่อนไหวของนักศึกษา เปรียบเทียบกับในอดีต และมีเนื้อหาที่บางคนกังวลว่าหมิ่นเหม่ ในฐานะที่คนรุ่นใหม่ฟังเรา คิดว่ามีบทบาทอะไรบ้างที่จะไม่บานปลายเหมือนในอดีตแบบที่คนกลัว น.ส.พรรณิการ์กล่าวว่า เวลาบอกว่าคนรุ่นใหม่ฟังเรา ตนไม่แน่ใจว่าหมายถึงเราไหน แต่อนาคตใหม่ ไม่อาจเอื้อมไปบอกว่าเราสามารถสั่งนักศึกษา นักเรียน หรือคนรุ่นใหม่ ได้แน่นอน แล้วใครที่พูดแบบนั้น ตนคิดว่า เรื่องนี้เป็นพลังของนิสิต นักศึกษา เช่นดียวกับเวลาที่มีคนพูดว่า คนเหล่านี้โดนปั่นหัว โดนล้างสมอง ถ้าจะบอกว่าใครทำให้นักศึกษาเหล่านี้ออกมาเคลื่อนไหวอย่างทุกวันนี้ คงต้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ พล.อ.ประวิตร และคณะ ว่าพวกคุณคือผู้ที่ผลักดันให้นิสิตนักศึกษา และประชาชนออกมาเคลื่อนไหว
ส่วนกิจกรรมที่คณะอนาคตใหม่กำลังทำอยู่ มีอะไรที่เกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของนักศึกษาหรือไม่ น.ส.พรรณิการ์กล่าวว่า “ไม่มีเลย ตอนนี้พรรคถูกยุบไปแล้ว เพราะฉะนั้น สาขา ทีมงานของจังหวัดย่อมถูกยุบไปด้วย การเคลื่อนไหวของนักศึกษา หากจะมีอะไรเกี่ยวข้องกับเรา ก็คือ เราก็ได้เฝ้าดู การไลฟ์ของพวกเขาอย่างชื่นชม ไปก็ไม่กล้าไป เพราะเกรงจะถูกครหาว่าไป บงการ ไปเป็นแกนนำ ไปอยู่เบื้องหลังหรือเป็นท่อน้ำเลี้ยง เราไม่ต้องการให้เกิดเหตุการณ์แบบนั้นขึ้น เพราะฉะนั้นอย่างน้อยในระยะเวลาอันใกล้นี้ ก็คงไม่ไป”
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
เมื่อถามว่า ด้วยประสบการณ์ทางการเมือง คิดว่าอะไรคือเส้นตายหรือขอบเขตที่นักศึกษาที่ชุมนุมไม่ควรข้ามไป หรือหัวข้อที่ไม่ควรกล่าวถึง น.ส.พรรณิการ์กล่าวว่า “ตราบใดที่เราพูดในสิ่งที่เราคิด เราเชื่อ เราศรัทธา พูดเถอะค่ะ สิ่งนั้นเป็นสิ่งที่มีพลัง สามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงได้ ตราบใดที่เราซื่อสัตย์กับอุดมการณ์ของตัวเอง ตราบนั้นการเคลื่อนไหวของเราก็ยังมีพลัง และอย่างให้ใครมาเป็นเของ เป็นผู้บงการทิศทางของพวกเรา ความไม่พอใจต่างๆ เป็นสิทธิโดยชอบที่คุณแสดงออกมาได้ เพราะพวกคุณคืออนาคต คือเจ้าของประเทศ และยังต้องมีชีวิตอยู่ไปอีกหลายสิบปี ถ้าคุณไม่สู้เพื่อนอนาคตของพวกคุณ ก็ไม่มีใครสู้เพื่อพวกคุณแล้ว”
