หมวดเจี๊ยบ ขอรบ. ทบทวนซื้อเรือดำน้ำ อาจไม่คุ้มงบประมาณ-กลไกตรวจสอบไม่สมบูรณ์

หมวดเจี๊ยบ ขอให้รัฐบาลทบทวนโครงการซื้อเรือดำน้ำ เพราะอาจไม่มีความคุ้มค่าด้านงบประมาณและขณะนี้กลไกถ่วงดุลและตรวจสอบไม่สามารถทำหน้าที่ได้สมบูรณ์ เพราะขณะนี้บ้านเมืองยังไม่มีความเป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง

ร.ท.หญิง สุณิสา เลิศภควัต อดีตรองโฆษกรัฐบาล กล่าวว่า ขอเรียกร้องให้รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ทบทวนและคิดให้ดีเกี่ยวกับโครงการซื้อเรือดำน้ำ เนื่องจาก อาจไม่คุ้มค่าด้านงบประมาณ ไม่สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ความมั่นคงในโลกสมัยใหม่ ทั้งยังไม่สอดคล้องกับสภาวะเศรษฐกิจที่กำลังชะลอตัว ทั้งนี้ นอกจาก รัฐบาลจะต้องจ่ายค่าเรือดำน้ำ 36,000 ล้านบาทแล้ว รัฐบาลยังต้องเตรียมงบประมาณอีกมหาศาลในการบำรุงรักษา เพราะเรือดำน้ำ เมื่อซื้อมาแล้ว จะจอดเก็บไว้เฉย ๆ ไม่ได้ แต่ต้องนำออกมาวิ่งหรือออกฝึก ซึ่งมีค่าใช้จ่ายอีกจำนวนมาก โดยเฉพาะ ค่าน้ำมัน สมมติว่า ในการออกปฏิบัติภารกิจแต่ละครั้ง มีค่าน้ำมันครั้งละ 3 แสนบาท คนไทยจะต้องนำภาษีไปจ่ายอีกจำนวนเท่าไหร่และต้องแบกรับค่าใช้จ่ายไปอีกนานแค่ไหน ไหนจะต้องร่วมชดใช้หนี้สินที่เกิดขึ้นไปอีก 20—30 ปี ซึ่งจากรายงานของนักวิเคราะห์ด้านความมั่นคงระหว่างประเทศ ระบุว่า แม้แต่ประเทศที่ร่ำรวยและประเทศที่พัฒนาแล้ว ยังต้องชะลอแผนการซื้อเรือดำน้ำ เพราะถูกคัดค้านอย่างรุนแรง เนื่องจาก มีความสิ้นเปลืองและไม่คุ้มค่าด้านงบประมาณ

ที่สำคัญ ขณะนี้ ประเทศไทยยังไม่มีความเป็นประชาธิปไตยอย่างสมบูรณ์ ดังนั้น กลไกการตรวจสอบด้านงบประมาณและการบริหารราชการแผ่นดินอาจทำหน้าที่ได้ไม่เต็มที่ หากมีการจัดซื้อเรือดำน้ำในเวลานี้ อาจทำให้ประชาชนไม่มั่นใจในเรื่องความโปร่งใสของกระบวนการจัดซื้อฯ อันที่จริง หาก พล.อ.ประยุทธ์ มีความจริงใจในการคืนอำนาจให้ประชาชนตาม Roadmap อย่างแท้จริง การเลือกตั้งก็น่าจะเกิดขึ้นในอีกไม่ช้า เหตุใดจึงไม่ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของรัฐบาลชุดใหม่ที่เข้ามาบริหารประเทศหลังจากมีการปฏิรูปทางการเมืองแล้ว เป็นผู้พิจารณาในเรื่องสำคัญเช่นนี้ เพราะน่าจะเป็นช่วงเวลาที่องค์กรซึ่งมีหน้าที่ถ่วงดุลและตรวจสอบตามกลไกของระบอบประชาธิปไตยสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างเข้มแข็ง

ที่น่าสังเกต คือ เมื่อครั้งที่ผู้มีอำนาจในรัฐบาลนี้ ยังดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการเหล่าทัพในรัฐบาลนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ในเวลานั้น พวกท่านได้เคยลงความเห็นว่า ประเทศไทยไม่ควรซื้อเรือดำน้ำ เพราะไม่มีคุ้มค่าทางงบประมาณ แต่เหตุใดหลังจากพวกท่านยึดอำนาจสำเร็จ และเข้ามาเป็นรัฐบาล ทำไมท่านจึงกลับลำและรีบร้อนจะเสนอซื้อเรือดำน้ำ ทั้ง ๆ ที่ ประเทศยังไม่มีความเป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง หรือว่าการบริหารความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้านในยุคของพวกท่านมีความล้มเหลว จนเกิดความขัดแย้งระหว่างประเทศในขั้นวิกฤตอย่างนั้นหรือ ท่านควรต้องชี้แจงต่อสังคมให้ชัดเจนด้วย

Advertisement

นอกจากนี้ รัฐบาลควรรับฟังข้อเสนอแนะของนักวิขาการและปรับวิสัยทัศน์ด้านความมั่นคง ให้สอดคล้องกับภัยคุกคามที่เปลี่ยนแปลงไป แล้วหันมาใช้ประโยชน์จากเวทีความร่วมมือระหว่างประเทศในระดับต่าง ๆ ให้มากขึ้น โดยเฉพาะเวทีอาเซียน เพื่อลดความหวาดระแวงต่อกันและลดการสะสมอาวุธ เพราะหากแข่งกันสะสมอาวุธอย่างไม่จบสิ้น รัฐบาลก็อาจไม่เหลืองบประมาณในการพัฒนาประเทศ และคงมีเพียงพ่อค้าอาวุธและผู้ที่หากินกับค่าคอมมิชชั่นจากการค้าขายอาวุธเท่านั้น ที่จะได้รับประโยชน์และร่ำรวย

ถึงแม้ว่า ภารกิจป้องกันประเทศจะเป็นเรื่องสำคัญ แต่รัฐบาลควรต้องจัดลำดับความเร่งด่วนของปัญหา เพราะรัฐบาลไทยมีเม็ดเงินในจำนวนจำกัดแต่มีภารกิจที่ต้องทำอีกมากมาย เช่น การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ เพื่อรองรับการเกิดขึ้นของ AEC การพัฒนาระบบการศึกษาและพัฒนาระบบสาธารณสุขขั้นพื้นฐาน รวมทั้ง การติดตั้งระบบไฟฟ้าส่องสว่างตามจุดเปลี่ยวจุดอับต่าง ๆ ซึ่งจะเป็นมาตรหนึ่งในการลดความเสี่ยงของอุบัติเหตุและปัญหาอาชญากรรมต่าง ๆ เช่น การข่มขืน เป็นต้น.

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image