“สุวิทย์” เชื่อ แฟลชม็อบไม่บานปลาย ถ้าผู้ใหญ่ฟังเด็ก เตรียมเชิญแกนนำนศ.มาร่วมหาทางออก

“สุวิทย์” เชื่อ แฟลชม็อบไม่บานปลาย ถ้าผู้ใหญ่ฟังเด็ก เตรียมเชิญแกนนำนศ.มาร่วมหาทางออก

15 มหาวิทยาลัยภาคใต้ตอนล่างให้กำลังใจ “สุวิทย์ เมษินทรีย์” ไม่อยากให้ถูกปรับพ้น ครม. เจ้าตัวเผยทุกอย่างอยู่ที่ นายกฯ อยู่ตรงไหนก็ทำงานได้ ชี้ แฟลชม็อบไม่บานปลาย คิดต่าง ไม่ใช่ความขัดแย้ง ไม่ทำตัวเป็นผู้ใหญ่รู้ดี เตรียมเชิญแกนนำนักศึกษาเปิดเวทีถกแก้ปัญหาและทางออก

เมื่อวันที่ 2 มีนาคม ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา จ.ยะลา นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เดินทางมาประชุม “บทบาทของมหาวิทยาลัยกับการพัฒนาเชิงพื้นที่ด้วยวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม” โดยมีนายกสภาและอธิการบดี 15 มหาวิทยาลัยให้การต้อนรับและร่วมประชุม โดยก่อนการประชุม นายโชติช่วง พันธุเวช นายกสภามหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา เป็นตัวแทนของ 15 มหาวิทยาลัยนำดอกไม้มามอบให้กำลังใจนายสุวิทย์

นายโชติช่วงกล่าวว่า มหาวิทยาลัยให้กำลังใจนายสุวิทย์ ไม่อยากให้ถูกปรับออกจากคณะรัฐมนตรี รัฐบาลต้องไม่เอานายสุวิทย์ออกจากตำแหน่ง ถ้าเอาการเมืองแบบเดิมมานำ การปฏิรูป อว. และมหาวิทยาลัยจะไม่สำเร็จ นานๆ จะมีรัฐมนตรีแบบนี้ที่มีความรู้ ความสามารถและความเข้าใจในเรื่องของการเปลี่ยนแปลง จึงไม่อยากให้การเมืองแบบเก่ามาทำลาย ขอให้กำลังใจนายสุวิทย์ ซึ่งนายสุวิทย์ได้กล่าวขอบคุณพร้อมระบุว่า จะพยายามทำให้หน้าที่ของตนเองต่อไปให้ดีที่สุด

Advertisement

นายสุวิทย์ ให้สัมภาษณ์ว่า การปรับ ครม. จะมีตนอยู่ใน ครม. ใหม่หรือไม่ ไม่ใช่ประเด็น ตนอยู่ตรงไหนก็สามารถทำงานได้ ทุกอย่างอยู่ที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นคนตัดสินใจ แต่การปรับ ครม.ที่เกิดขึ้นจะต้องตอบโจทย์ประเทศ ไม่ใช่แค่เรื่องการเมือง แค่เป็นเรื่องวิกฤติซ้อนวิกฤติ เรามีทั้งปัญหาเศรษฐกิจ ปัญหาโควิด-19 ปัญหา PM2.5 และปัญหาภัยแล้ง ดังนั้น การปรับ ครม. ต้องตอบโจทย์วิกฤติของประเทศ รวมทั้งเป็นการปรับ ครม. เพื่อนำพาประเทศไทยเข้าสู่การเปลี่ยนผ่านเพื่อแข่งขันกับประเทศต่างๆ ทั่วโลกให้ได้ เมื่อถามถึงการชุมนุมของนักศึกษาในมหาวิทยาลัยหรือแฟลชม็อบ

นายสุวิทย์ กล่าวว่า ประเทศไทยเป็นประชาธิปไตย การคิดต่างไม่ใช่เรื่องผิดและไม่ใช่ความขัดแย้ง ที่สำคัญเยาวชน นิสิต นักศึกษา ในมหาวิทยาลัยคือคนกำหนดอนาคตของประเทศ พวกเขามีความคิดอ่าน ดังนั้น มหาวิทยาลัยต้องเปิดเวทีให้นักศึกษาได้แสดงออกตราบใดที่พวกเขายังไม่ละเมิดกฎหมาย ผู้ใหญ่ต้องฟังให้มากสำหรับความคิดเห็นของนักศึกษา ไม่ทำตัวเป็นผู้ใหญ่รู้ดี ตนได้ให้นโยบายกับผู้บริหารมหาวิทยาลัยจะต้องดูแลเรื่องความปลอดภัยให้นักศึกษา ต้องมองว่าพวกเขาเป็นลูกหลาน

เมื่อถามว่า คิดว่าเหตุการณ์การชุมนุมจะบานปลายขยายวงออกไปมากขึ้นหรือไม่ นายสุวิทย์กล่าวว่า คงไม่บานปลายถ้าผู้ใหญ่ฟัง และในเร็วๆ นี้ตนจะเชิญแกนนำนักศึกษาทั้งหมดมาร่วมเวทีเพื่อรับฟังปัญหาและให้พูดถึงทางออกและคำตอบในการแก้ไขปัญหาด้วย

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image