สนช.เคารพมติ ชงชื่อ’เรวัต’นั่งผู้ตรวจอีก

สนช.เคารพมติกคณะกรรมการสรรหา ชงชื่อ “เรวัต” นั่งผู้ตรวจอีกรอบ

เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 7 กรกฎาคม ที่รัฐสภา นพ.เจตน์ ศิรธรานนท์ โฆษกคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (วิป สนช.) กล่าวถึงกรณีคณะกรรมการสรรหาผู้ตรวจการแผ่นดินลงมติเสนอชื่อนายเรวัต วิศรุตเวช อดีตอธิบดีกรมการแพทย์ และอดีตที่ปรึกษาผู้ตรวจการแผ่นดิน เป็นผู้ตรวจการแผ่นดิน เพื่อส่งให้ สนช.ให้ความเห็นชอบอีกครั้งหลังจากที่ สนช.เคยไม่ให้ความเห็นชอบไปก่อนหน้านี้ว่า ขึ้นอยู่กับนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธาน สนช.จะบรรจุเรื่องเข้าสู่ที่ประชุม สนช.เมื่อใด แต่ตามขั้นตอนจะต้องมีการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญตรวจสอบประวัติและจริยธรรมของผู้ได้รับการเสนอชื่อ ขณะนี้ยังไม่รู้ว่าจะใช้คณะกรรมาธิการตรวจสอบประวัติฯ ชุดเดิมหรือชุดใหม่ ซึ่งการพิจารณาของคณะกรรมาธิการตรวจสอบประวัติฯครั้งนี้ อาจจะมีข้อมูลใหม่ที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมมาให้ที่ประชุม สนช.ได้พิจารณาตัดสินใจ ส่วนสมาชิกสนช.จะตัดสินใจอย่างไรก็เป็นสิทธิของแต่ละคน อย่างไรก็ตาม จะมีความสง่างามหรือไม่ในการเสนอชื่อนายเรวัตกลับมาอีกครั้ง เรื่องนี้ถือเป็นความรับผิดชอบของคณะกรรมการสรรหาที่มาจากประมุขของศาลต่างๆ ซึ่งล้วนแต่เป็นผู้ทรงคุณวุฒิทั้งสิ้น ตนเชื่อว่าการตัดสินใจภายใต้ข้อมูลที่มีเพิ่มเข้ามาใหม่ คณะกรรมการสรรหาฯจึงตัดสินใจเสนอชื่อนายเรวัตกลับมาอีกครั้ง ก็ต้องเคารพกับมติของคณะกรรมการสรรหา และถือเป็นสิทธิของนายเรวัตที่มีสิทธิกลับมาสมัครใหม่ได้ เพราะไม่มีข้อห้ามไว้

ด้าน นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ในฐานะกรรมการสรรหาผู้ตรวจการแผ่นดิน ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่คณะกรรมการสรรหาผู้ตรวจการแผ่นดินมีมติเลือกนายเรวัต วิศรุตเวช เป็นผู้ได้รับการเสนอชื่อต่อ สนช.ให้เป็นผู้ตรวจการแผ่นดินอีกครั้ง หลังจากที่ก่อนหน้านี้ ที่ประชุม สนช. เคยมีมติไม่เห็นชอบให้นายเรวัต ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจการแผ่นดินแล้วว่า เป็นดุลพินิจของกรรมการสรรหา โดยพิจารณาตามคุณสมบัติ และมีมติเลือก ส่วนจะเป็นเพราะเหตุผลและสาเหตุใดไม่มีการอภิปราย เป็นการใช้ดุลพินิจของแต่ละคน

เมื่อถามว่า ทำไมต้องเลือกกันถึง 30 รอบ นายพรเพชรกล่าวว่า ทึ่เลือกถึง 30 รอบ เพราะคะแนนยากกว่าจะได้ 4 เสียง เมื่อถามอีกว่า ก่อนหน้านี้ สนช.มีมติไม่เลือกเรวัต แต่กรรมการสรรหาจะเลือกนายเรวัตอีกเป็นเพราะเหตุใด นายพรเพชรกล่าวว่า กรรมการสรรหาก็ว่าไปตามกฎหมาย เมื่อมีการสมัครเข้ามาก็พิจารณาไปตาม คุณสมบัติว่าผู้ใดเหมาะสม ถือเป็นหลักเกณฑ์ตามกฎหมาย

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image