‘อนุทิน’ ผงะ ผีน้อยโผล่ บอกตัวเองก็เพิ่งจะรู้จัก ชี้ เป็นโจทย์ใหม่ต้องเตรียมแผนรับมือ

“อนุทิน” ผงะ ผีน้อยโผล่ บอกไม่เคยรู้จัก ชี้ เป็นโจทย์ใหม่เตรียมแผนรับมือ “บิ๊กตู่” เรียกถกทันที 4มี.ค. ลั่น ใช้มาตรตรวจเข้มขั้นสูงสุด ทุกเที่ยวบิน จาก 9 ประเทศกลุ่มเสี่ยง

เมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 3 มีนาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์หลังประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงมาตรการรับมือแรงงานไทยที่เข้าเมืองโดยผิดกฎหมายในประเทศเกาหลี ที่ต้องการเดินทางกลับเข้าประเทศไทย ว่า ถือเป็นเรื่องใหม่ ยอมรับว่า ตนเพิ่งจะรู้จักผีน้อย จึงรู้สึกช็อก เพราะเป็นโจทย์ใหม่ นอกเหนือจากแผนที่เราเตรียมไว้ ซึ่งไม่ได้รองรับแรงงานที่ไม่ถูกกฎหมายจำนวนมาก จึงทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้เรียกประชุมผู้เกี่ยวข้อง ในวันที่ 4 มีนาคม เวลา 09.00 น.ถึงหามาตรการบริหารจัดการกลุ่มแรงงานไทยที่จะเดินทางมาจากเกาหลี ทั้งนี้ เราจะดูแลทุกคนให้เต็มที่ โดยกรมควบคุมโรคและหน่วยงานเกี่ยวข้องจะหารือเพื่อหามาตรการรองรับกลุ่มคนเหล่านี้ว่า จะต้องทำอย่างไร จะต้องควบคุมให้ได้ แต่ในเบื้องต้นจะต้องคัดกรองบุคคลที่มาจากเกาหลี เข้มข้นกว่ากรณีที่ไปรับคนไทยจากอู่ฮั่น ประเทศจีน ซึ่งดำเนินการภายใต้ระบบปิด แต่ที่จะเข้ามานั้นเป็นระบบเปิดและมีกี่คนก็ยังไม่รู้ ยืนยันว่าเราต้องทำให้ได้ ไม่มีอะไรที่ทำให้ไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับสุขภาพประชาชน ความปลอดภัยของประชาชนต้องใช้วิธีการเข้มข้นที่สุด จะตรวจเข้มคัดกรองผู้โดยสารทุกคนตั้งแต่ลงเครื่อง รวมทั้งผู้ที่เดินทางมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยง 9 ประเทศ ที่ตนลงนามในกระทรวงสาธารณสุข ภายใต้พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ.2548 ต้องถูกกักตัว 14 วัน เพื่อสังเกตอาการ ยกเว้นที่มีอาการป่วยต้องแยกตัวออกมารักษา ซึ่งการดำเนินการควบคุมเป็นไปตามประกาศ พ.ร.บ.โรคติดต่อ ที่ต้องป้องกันเพราะไม่รู้ว่าคนที่เดินทางเข้ามาประเทศไทย มีเชื้อหรือโรคอะไรบ้าง

เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่เพิ่มเพื่อน

Advertisement

 

“ถ้าผีน้อยไม่ใช่คนไทยก็คงประกาศไม่ให้มา แต่เพราะเป็นคนไทย มีสิทธิ์ที่จะกลับบ้านเกิดจึงเป็นโจทย์ที่เราต้องมาทำการบ้านในการควบคุม และยืนยันว่าตอนนี้ ยาพร้อม หมอพร้อม ห้องพยาบาลพร้อม การคัดกรองเข้มข้น อุปกรณ์และเวชภัณฑ์ทุกอย่างพร้อม” นายอนุทิน กล่าว และว่า กลุ่มผีน้อยอาจจะไม่ได้มาเดินทางมาทีเดียว 5 พันคน ซึ่งเราจะประสานไปยังทุกสายกันบินของเกาหลีที่จะเข้ามาในประเทศไทย ว่าจะต้องรับผิดชอบอะไรบ้าง หากไม่มีการคัดกรองบุคคลที่จะเดินทางเข้ามาภายในราชอาณาจักรไทย รวมทั้งค่าใช้จ่ายต่างๆและการกักตัวในเวลาที่กำหนดผู้ที่เดินทางมาจะต้องเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายเอง ซึ่งมีบทบัญญัติในกฎหมายอยู่ ขอยืนยันว่า สถานการณ์ยังไม่เข้าสู่ระยะที่ 3 ที่ต้องมีการแพร่ระบาดในประเทศในวงกว้าง ตอนนี้คนไข้ที่รักษาในโรงพยาบาลจากโรคโควิด-19 เหลือแค่ 10 คนที่เหลือ กลับบ้านได้แล้ว ถือว่าอยู่ในสภาวการณ์ที่ยาก ส่วนศูนย์ข้อมูลมาตรการแก้ไขปัญหาจากโรคติดต่อไวรัสโควิด-19 ที่รัฐบาลตั้งขึ้น จะแยกต่างหากจากศูนย์ของกระทรวงสาธารณสุข เป็นการบูรณาการข้อมูลร่วมกับหน่วยงานอื่นๆ และฝ่ายปกครองด้วยซึ่งแยกจากกระทรวงสาธารณสุข แต่เป็นการนำข้อมูลส่วนหนึ่งมาชี้แจงในภาพรวม ขณะที่กระทรวงสาธารณสุขทางการแพทย์อย่างชี้แจงเรื่องทางการแพทย์ การรักษาพยาบาล

เมื่อถามว่า หากมีการให้เขาออกค่าใช้จ่าย กลุ่มแรงงานไทยที่จะเข้ามา อาจไม่พูดความจริงหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า เขาโกหกไม่ได้ พอเราประกาศไปแล้วเขาจะต้องถูกกักตัว หลุดไปไม่ได้เด็ดขาด เมื่อถามย้ำว่าหากประกาศไปแล้ว ไม่ใช่แค่ผีน้อยอย่างเดียว แต่คนทั่วไปที่เดินทางมาต้องถูกกักตัวด้วยใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า โดนด้วย ฉะนั้นอย่ามา

ผู้สื่อข่าวถามกรณีที่มี ส.ส.บางคน นำหน้ากากอนามัยที่มีขนาดบางและอาจไม่ได้มาตรฐานมาแจกให้กับประชาชน นายอนุทิน กล่าวว่า ต้องดูว่าความต้องการนำมาใช้เพื่ออะไร เพราะจุดประสงค์ของผู้ที่จะใช้หน้ากากคือคนกลุ่มไหน ส่วนประชาชนทั่วไปที่ไม่ได้เดินทางไปประเทศเสี่ยง หรือสัมผัสกับคนที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงก็ไม่จำเป็นต้องใส่ เพราะไม่อย่างนั้นก็จะเป็นข้อกังวล เกิดความกลัวและตื่นตระหนก ว่าเดินไปที่ไหนก็มีแต่คนใส่หน้ากากอนามัยจนเกิดความรู้สึกว่าพื้นที่ดังกล่าวไม่สะอาด แต่ถ้าต้องการจะใส่เพื่อความสบายใจก็ใส่ไป แต่อย่าตื่นว่าถ้าขาดตลาดแล้วไม่ได้ใส่ จะติดเชื้อกันหมด อย่างไรก็ตาม การจัดสรรหน้ากากอนามัยให้กับสาธารณสุขจำนวน 3.5 แสนชิ้นต่อวันถือว่าเพียงพอ เพราะกระทรวงมีเก็บไว้จำนวนหนึ่งสำหรับใช้ภายใน แต่ไม่มีพอที่จะไปแจกตามอีเวนต์ต่างๆ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image