‘ศรัณย์วุฒิ’ ชม ‘ปิยบุตร’ มีสปิริต ไหว้ขอโทษหญิงหน่อย แจงปม ‘อภิปรายเกินเวลา’ เผยใช้จริง 2 ชม. 9 นาที

‘ศรัณย์วุฒิ’ ชื่นชม ‘ปิยบุตร’ มีสปิริต ไหว้ขอโทษหญิงหน่อย แจงปม ‘อภิปรายเกินเวลา’ เผยใช้จริงแค่ 2 ชม. 9 นาที ที่เหลือโดนประท้วง

เมื่อวันที่ 7 มีนาคม นายศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ ส.ส.อุตรดิตถ์ พรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ ‘มติชน’ กรณีการอภิปรายไม่ไว้วางใจเกินเวลา ส่งผลให้นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ ไม่สามารถอภิปรายพลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ ในสภาก่อนปิดประชุม

นายศรัณย์วุฒิกล่าวว่า การอภิปรายไม่ไว้วางใจ ไม่ใช่การอภิปรายทั่วไป ต้องเข้มด้วยสาระ ข้อมูลต้องแน่น เป็นการประหัตประหารในสภา ถ้าจะให้พูดฉาบฉวย เอาเวลาเป็นที่ตั้ง ถือว่าไม่ใช่การอภิปรายไม่ไว้วางใจ นอกจากนี้ ยังมีข้อจำกัดมากมาย อย่างการมีข้อตกลงว่าต้องอภิปรายเป็นรายบุคคลแบบเรียงตัว ตั้งแต่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชาก่อน จากนั้นจึงต่อด้วยบุคคลอื่นๆ อาทิ นายวิษณุ เครืองาม นายดอน ปรมัตถ์วินัย สุดท้ายจะไปจบที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ การไปลำดับเรียงตัวรายบุคคลเช่นนี้ทำให้มีปัญหาในการอภิปราย เนื่องจากตนต้องอภิปรายเหมารวม 3 คน ตั้งแต่ พล.อ.ประยุทธ์ นายวิษณุ และนายดอน ดังนั้น ถ้าตนอภิปรายในวันพุธ ซึ่งเป็นวันที่อภิปรายได้เฉพาะ พล.อ.ประยุทธ์ ตนจะอภิปรายนายวิษณุและนายดอนไม่ได้เลย จึงต้องคาบเกี่ยวไปอภิปรายในช่วงเช้าของวันพฤหัสบดี แล้วเป็นคนสุดท้ายที่จะต้องอภิปราย พล.อ.ประยุทธ์ นายวิษณุและนายดอนในเวลาเดียวกัน จึงได้เวลา 10.00 น. ตามที่เป็นข่าว

นายศรัณย์วุฒิกล่าวว่า ในข้อจำกัดอีกประการหนึ่งคือการจะไปขัดแย้งกับฝ่ายรัฐบาลโดยเราไม่ยอมนั้น ก็ไม่ได้ เพราะรัฐบาลต้องการปิดการอภิปรายเวลา 19.00 น. หากย้อนดูประวัติศาสตร์การอภิปรายไม่ไว้วางใจ จะพบว่ามีการให้เวลามาก และมีการยืดหยุ่น อย่างไรก็ขอให้เลิกก่อนเที่ยงคืนของวันสุดท้ายเพื่อลงมติในเช้าของวันรุ่งขึ้น แต่ปรากฏว่ารัฐบาลปิดการอภิปรายในเวลาราว 19 นาฬิกาตรง หากยืดหยุ่นเหมือนทุกครั้งอย่างเมื่อพรรคประชาธิปัตย์อภิปรายเกินเวลา พรรคเพื่อไทยก็ยอม แต่ครั้งนี้รัฐบาลไม่ยอม ทำให้ผู้ที่จะอภิปรายต่อจากตนโดยเฉพาะอดีตพรรคอนาคตใหม่เสียโอกาสและมีความรู้สึกไม่สบายใจ หรือไม่สบายใจ ซึ่งตนไม่โกรธ และไม่โทษอดีตพรรคอนาคตใหม่แต่อย่างใด โดยยืนยันว่าไม่มีการไปทำข้อตกลงกับใครทั้งสิ้น

Advertisement

“ผมเข้าใจเขาเลย ถ้าเราเป็นเขา ก็อาจไม่สบายใจ แต่สุดท้ายแล้วความจริงก็เป็นที่ปรากฏว่าเราไม่ได้ไปซูเอี๋ย ไปล้มมวย ผมได้รับมอบหมายตั้งแต่แรกในการจองกฐิน พล.อ.ประวิตร พล.อ.ประยุทธ์ นายวิษณุ และนายดอน รวมถึง พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รวม 5 ท่าน แต่พรรคร่วมฝ่ายค้านคือพรรคอนาคตใหม่ขออภิปรายพล.อ.ประวิตร และ พล.อ.อนุพงษ์ ผมก็ต้องให้ความร่วมมือ เลยเหลืออภิปราย 3 คน และผมใช้เวลาอภิปรายจริงๆ แค่ 2 ชั่วโมง 9 นาที คุณจดบันทึกไว้เลยนะ ว่าที่เหลือเป็นการประท้วงแบบไร้สาระ และผมก็ให้ความร่วมมือกับประธานสภาโดยการไม่คัดค้าน เมื่อให้ถอนคำพูด ก็ยอมถอน เพื่อให้ไม่เสียเวลา ประเด็นไฮไลต์หลายประเด็นก็ยอมข้ามไป” นายศรัณย์วุฒิกล่าว

ผู้สื่อข่าวสอบถามถึงประเด็นเรื่องการท้าดวลกับ พล.อ.ประยุทธ์ หน้าวัดพระแก้วในช่วงท้ายของการอภิปรายซึ่งถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างมาก นายศรัณย์วุฒิกล่าวว่า เมื่อมีข้อท้วงติงจากประชาชน ตนก็ต้องรับฟังในฐานะตัวแทนประชาชน แต่ความรู้สึกในวันนั้นคือ พล.อ.ประยุทธ์ทำอะไรก็ไม่ผิด ตั้งแต่การถวายสัตย์ไม่ครบ แต่ไปอวดเด็กนักเรียนในวันเด็กแห่งชาติว่าต้องประพฤติตนเหมือนพันท้ายนรสิงห์ที่ไม่ได้เจตนาทำหัวเรือหัก แต่ต้องยอมพลีชีพ อย่างไรก็ตาม มีร้อยละ 90 ชื่นชมตนที่กล้าท้าดวล

ผู้สื่อข่าวสอบถามว่า หลังการอภิปรายได้มีโอกาสพูดคุยกับพรรคอนาคตใหม่เป็นการส่วนตัวหรือไม่ นายศรัณย์วุฒิกล่าวว่า ความจริงก็คือความจริง เพราะเราไม่ได้ทำอะไรผิด อย่างที่บอกว่ามีข้อจำกัดและรัฐบาลก็พยายามชิงปิดการประชุม ข้อตกลงเรื่องการอภิปราย พล.อ.ประวิตรนั้น ไม่ใช่ว่าตนอยากปล่อย ข้อมูลในมือตนที่มีอยู่ ถ้าตนอภิปราย มีเดี้ยงแน่นอน แต่เมื่อพรรคร่วมฝ่ายค้านขออภิปราย ตนก็ให้ความร่วมมือ นี่คือการแสวงจุดร่วม สงวนจุดต่างของการเป็นฝ่ายค้าน แต่สุดท้ายจะเห็นได้ชัดว่านายปิยบุตร แสงกนกกุล แกนนำอดีตพรรคอนาคตใหม่แสดงสปิริตด้วยการขอโทษคุญหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ สะท้อนว่าเป็นคนมีสปิริตสูง

Advertisement

“ผมชื่นชมอาจารย์ปิยบุตรเป็นการส่วนตัวอยู่แล้ว อะไรที่เข้าใจผิดกันก็มาขอโทษกัน เป็นนิสัยของคนไทยที่ดี ขอให้ปักประเด็นไว้เลย ฝ่ายค้านไม่ได้มีปัญหากัน วันนี้เข้าใจกัน และจะจับมือกันทำงานต่อ เพราะอุดมการณ์ต่อสู้เผด็จการมันอยู่ด้วยกัน เราจะยึดมั่นความเป็นประชาธิปไตยต่อไป ซึ่งวันนี้ขยายผลไปสู่นักศึกษาที่ออกมาประท้วงทั่วราชอาณาจักร แม้กระทั่ง ม.สงขลานครินทร์ ซึ่งผมไม่คาดคิดว่าจะออกมาประท้วงรัฐบาลชุดนี้” นายศรัณย์วุฒิกล่าว

นายศรัณย์วุฒิกล่าวอีกว่า แม้รัฐบาลชุดนี้ชนะในสภาได้ แต่เป็นเพียงการชนะศึก สุดท้ายจะแพ้สงคราม เนื่องจากประชาชนไม่ยอมรับ นักเรียนนักศึกษาประท้วง หากรัฐบาลไม่ลาออกแล้วให้ความร่วมมือกับฝ่ายประชาธิปไตย สุดท้ายระวังจะไม่มีแผ่นดินอยู่

เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่เพิ่มเพื่อน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image