‘จาตุรนต์’ ชี้โจทย์ใหญ่ จะแก้ยังไง การเมืองเปลี่ยนช้ากว่าหายนะของประเทศ

เมื่อวันที่ 8 มีนาคม นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีต ส.ส.ฉะเชิงเทรา กล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองมีแนวโน้มเกิดขึ้นช้ากว่าความวิบัติหายนะของประเทศ ขณะนี้คนไทยอยู่ด้วยความรู้สึกอึดอัด คือเดือดร้อนกันทั่วไปหมด และรู้ว่าต่อจากนี้ไปจะเดือดร้อนกว่านี้อีกมาก แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ รู้ว่ารัฐบาลแก้ปัญหาไม่ได้ ก็ได้แต่คิดว่ารัฐบาลนี้จะอยู่อีกนานมั้ย
เดิมสภาพเศรษฐกิจก็แย่มากอยู่แล้ว แต่ปัญหาโคโรนาไวรัสกำลังมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจทั้งโลก ได้ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยแล้วและจะส่งผลกระทบมากขึ้นอีกมาก
แต่เมื่อดูการจัดการแก้ปัญหาของรัฐบาลก็จะพบว่ารัฐบาลไม่มีประสิทธิภาพในการแก้ปัญหาเลย การแก้ปัญหาเศรษฐกิจที่ผ่านมาผิดทิศผิดทาง แก้ปัญหาไม่ตรงจุดมาตลอด ซ้ำยังปล่อยปละละเลยไม่มีมาตรการรับมือกับปัญหาใหญ่ๆ ที่จะเกิดขึ้นอย่างเรื่องภัยแล้ง คนตกงาน ฝุ่นพีเอ็ม2.5 ล่าสุดเกิดโคโรนาไวรัสขึ้นก็จะเห็นถึงความหละหลวมไร้ประสิทธิภาพในการรับมือ ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดที่สุดคือโรงพยาบาลต่างๆ ขาดแคลน และการปล่อยให้คนจากประเทศเสี่ยงเข้าประเทศได้อย่างเสรี
ในส่วนของการเตรียมรับมือผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดจากโคโรนาไวรัสก็จะเห็นว่าผิดทิศผิดทางอย่างร้ายแรงคือ ไม่มีมาตรการรับมือกับเศรษฐกิจในภาคส่วนต่างๆ แทนที่จะคิดมาตรการช่วยเหลือไม่ให้ธุรกิจต่างๆ ต้องปิดกิจการ ไม่ให้คนต้องหยุดทำมาค้าขาย และเตรียมมาตรการทางด้านสวัสดิการดูแลคนตกงาน คนไม่มีรายได้ และคนยากจน และกลับมาใช้วิธีการแจกเงินคนละ 2,000 บาท เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยว

นายจาตุรนต์กล่าวว่า มาถึงขณะนี้น่าจะพูดได้ว่าคนไทยเกือบทุกฝ่ายทุกภาคส่วนเห็นพ้องต้องกันว่ารัฐบาลนี้แก้ปัญหาประเทศไม่ได้แน่ และหากปล่อยให้บริหารต่อไปประเทศไทยคงก้าวสู่ความวิบัติหายนะ แต่เมื่อมาดูระบบกลไกทางการเมืองที่จะเปลี่ยนรัฐบาลก็จะพบว่ายังเป็นไปได้ยากมาก ในระบบรัฐสภา พรรคฝ่ายค้านอ่อนแอลงและอยู่ระหว่างการปรับตัว ยังไม่แน่ว่าจะเข้มแข็งขึ้นได้ในเร็วๆ นี้หรือไม่ เมื่อพรรคอนาคตใหม่ถูกยุบไป พรรคใหม่ที่มาแทนที่ก็ย่อมขาดบุคลากรไปและยังต้องจัดขบวนกันใหม่ รวมทั้งจัดความสัมพันธ์กับอดีตแกนนำที่ทำกิจกรรมนอกสภา ส่วนพรรคเพื่อไทยก็อยู่ในสภาพปั่นป่วนละล้าละลังต้องการการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ซึ่งก็ไม่แน่ว่าจะทำได้ การเคลื่อนไหวของพรรคฝ่ายค้านทั้งในสภาและนอกสภาจึงยังจะมีข้อจำกัดอยู่มาก ยังดีที่มีประชาชนจำนวนมากให้การสนับสนุนและเอาใจช่วยอยู่

นายจาตุรนต์กล่าวว่า ในส่วนของการเคลื่อนไหวของนักศึกษาทั่วประเทศนั้นมีศักยภาพและเป็นความหวังของประชาชนว่าจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในทางที่ดี แต่ก็ยังต้องอาศัยเวลาที่จะสะสมกำลัง สร้างความเข้าใจและเพิ่มการสนับสนุนทั้งจากนักศึกษาด้วยกันและจากประชาชนทั่วไป รวมทั้งยังต้องเรียนรู้ที่จะผ่านด่านวิชามารของรัฐบาลและพรรคพวก นอกจากนี้ ปัจจัยสำคัญในการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองคือ ประชาชนกลุ่มอาชีพต่างๆ ที่เดือดร้อนและกำลังจะเดือดร้อนมากขึ้น แต่ยังไม่กล้าหรือยังไม่มีวิธีแสดงออก

เศรษฐกิจไทยกำลังจะเข้าสู่สภาพที่ย่ำแย่ที่สุดในรอบหลายสิบปี เมื่อรัฐบาลไร้ประสิทธิภาพยิ่งอยู่นานประชาชนก็ยิ่งเดือดร้อนต่อไปคนก็จะยิ่งมีข้อสรุปว่าต้องเปลี่ยนรัฐบาล แต่ระบบกติกา ก็ทำให้เปลี่ยนรัฐบาลยากมาก จำเป็นต้องแก้รัฐธรรมนูญซึ่งก็ยิ่งยากขึ้นไปอีก ประเทศไทยกำลังอยู่ในสภาพที่กำลังเดินหน้าสู่ความวิบัติหายนะก่อนที่จะเกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง สิ่งที่ทุกฝ่ายทุกภาคส่วนในสังคมไทยต้องช่วยกันคิดอย่างจริงจังก็คือ จะทำอย่างไรที่จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองก่อนที่บ้านเมืองจะหายนะ หรือจะเปลี่ยนแปลงทางการเมืองเพื่อหลีกเลี่ยงวิบัติหายนะได้อย่างไร

Advertisement

เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่เพิ่มเพื่อน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image