น.ศ.ปราศรัย ยก‘คณากร’เปรียบไฟลุกโชนให้ผู้คนเห็นแสงสว่าง ปชช.ร้องเพลงอาลัยสุดเศร้า

น.ศ.ปราศรัย ยก ‘คณากร’ เปรียบไฟลุกโชนให้ผู้คนเห็นแสงสว่าง ปชช.ร้องเพลงอาลัยสุดเศร้า

เมื่อวันที่ 8 มีนาคม บริเวณลานประติมากรรม 6 ตุลา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) ท่าพระจันทร์
กลุ่มฟื้นฟูประชาธิปไตย จัดกิจกรรมเพื่อไว้อาลัยแด่นายคณากร เพียรชนะ ผู้พิพากษาศาลจังหวัดยะลาซึ่งกระทำอัตวินิบาตกรรมโดยการใช้ปืนยิงเข้าหัวใจตนเองเสียชีวิตในช่วงเช้าของวันที่ 7 มีนาคมที่ผ่านมา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศบริเวณหน้าหอประขุมใหญ่ มธ. ใกล้ลานประติมากรรม 6 ตุลาซึ่งเป็นจุดนัดหมายจัดกิจกรรม มีประชาชนแต่งกายด้วยเสื้อผ้าสีดำจับกลุ่มพูดคุยถึงเรื่องราวของนายคณากรตั้งแต่เวลาราว 17.00 น. ก่อนเวลาเริ่มงานถึง 1 ชั่วโมง บางส่วนจัดทำแผ่นป้ายกระดาษเขียนข้อความว่า ‘คืนคำพิพากษาให้ผู้พิพากษา คืนความยุติธรรมให้ประชาชน’ ซึ่งเป็นข้อความที่นายคณากรเคยกล่าวไส้ก่อนการใช้อาวุธปืนยิงตนเองในศาลยะลาครั้งแรก เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2562

นอกจากนี้ มีการนำภาพถ่ายสีขาวดำของนายคณากร พร้อมข้อความเดียวกันวางไว้บนฐานประติมากรรมบนลานประติมากรรม 6 ตุลา

Advertisement

ภายในงานมีการแจกหน้ากากอนามัยและเจลล้างมือให้ผู้ร่วมงาน โดยนายแพทย์ทศพร เสรีรักษ์ อดีตผู้สมัคร ส.ส.แพร่ พรรคไทยรักษาชาติ ให้คำแนะนำในการใช้งาน รวมถึงประกาศว่า หากใครมีไข้ ขอให้เดินทางกลับบ้าน

นางสาวมณฑ์ณัฐฐ์ สุวรรณทัต อายุ 64 ปี กล่าวว่า ตนเดินทางมาจากบ้านจังหวัดนนทบุรี ตั้งใจเดินทางมาเข้าร่วมเพื่อรำลึกถึงนายคณากรเนื่องเห็นว่าท่านเป็นคนดี แม้ไม่รู้จักเป็นการส่วนตัวมาก่อน แต่เคยติดตามข่าวสารตั้งแต่ครั้งพยายามฆ่าตัวตายครั้งแรก เมื่อทราบว่าท่านฆ่าตัวตายอีกครั้ง รู้สึกตกใจมาก สลดใจ คนดีๆไม่น่าต้องจบชีวิตลงอย่างนี้ อยากให้โลกสวยงามมีเมตตา เข้าใจกัน หากท่านจะรับรู้ได้ อยากบอกว่าภูมิใจที่ประเทศไทยมีคนดีอย่างท่าน

ทั้งนี้ ในงานมีการตั้งกล่องรับบริจาคสมทบทุนการศึกษาให้บุตรของนายคณากรอีกด้วย

Advertisement

ต่อมา เวลาประมาณ 18.10 น. ประชาชนร่วมกันสงบนิ่งเพื่อไว้อาลัยนายคณากรเป็นเวลา 1 นาที จากนั้น นายบุญเกื้อหนุน เป้าทอง นักศึกษา ม. มหิดล ศาลายา กล่าวว่า นายคณากรไม่ได้เป็นเพียงผู้พิพากษา แต่ยังเป็นคนดี เป็นผู้เชื่อในความยุติธรรม การที่คนหนึ่งคนยอมปลิดชีพตัวเองเพื่อจุดประกายให้เห็นสิ่งที่เกิดในสังคมถือว่ามีคุณค่าที่สุด เป็นเกียรติที่สุด ท่านเปรียบเสมือนไฟที่ลุกโชนเพียงเสี้ยววินาที จุดเทียนให้ผู้คนในประเทศเห็นแสงสว่าง ตนรู้สึกเจ็บปวดทุกข์ทรมาน ในวันนี้ขอให้ทุกคนรำลึกเสมอว่านายคณากรเป็นผู้ทำให้เราตื่นรู้ ไม่ว่าคนรุ่นเก่าหรือไม่ เราต้องสู้ไปด้วยกัน

จากนั้นนายสหรัฐ จันทร์สุวรรณ นักศึกษามหาวิทยาลัยศิลปากร วังท่าพระ กล่าวว่า ขอแสดงความอาลัยอย่างสุดซึ้งถึงนายคณากรผู้สละขีวิต ในอดีตเราได้เห็นท่านทำหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถ ธำรงความถูกต้อง ศีลธรรมจรรยา เปรียบเหมือนไม้บรรทัดของประเทศ ความสูญเสียที่เกิดขึ้น สะท้อนโครงสร้างทางสังคม แต่ไม่ว่าอย่างไร ทองคำ แม้ถูกเผาไฟ ก็ยังคงเป็นทองคำ นายคณากร ก็คือทองคำเฉกเช่นเดียวกัน

ต่อมา นายอารีฟีน โสะ นักกิจกรรมชาวปัตตานี กล่าวอาลัยนายคณากร ว่า ตนขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวของนายคณากร นับแต่นี้ไปทุกวันที่ 7 มีนาคม จะต้องถูกจารึกไว้เช่นเดียวกับวันที่ 12 มีนาคม 2547 ซึ่งเป็นวันที่ทนายสมชาย นีละไพจิตรผู้ต่อสู้เพื่อประชาชน หายตัวไป

จากนั้น เวลา 18.45 น. ประชาชนร่วมร้องเพลง ‘เพื่อมวลชน’ พร้อมเปิดแฟลชจากโทรศัพท์มือถือ และเพลง ‘Do you hear the people sing?’ พร้อมชู 3 นิ้ว ตะโกน ‘เผด็จการจงพินาศ ประชาธิปไตยจงเจริญ’ ก่อนจบกิจกรรมอย่างราบรื่นในเวลาราว 19.00 น.

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image