“นายกฯ” รับ เหนื่อย แต่ทนไหว สั่ง “รองนายกฯ-รมต.” ต้องทำงานเพื่อประชาชนอย่าเล่นการเมืองช่วงบ้านเมืองมีปัญหา เหตุเป็นรัฐบาล “พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว” ตามรธน.ทุกประการ
เมื่อเวลา 12.35 น.วันที่ 9 มีนาคม ที่อาคารบี ศูนย์เอนเนอร์ยี่ คอมเพล็กซ์ กระทรวงพลังงาน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม (กห.) กล่าวว่า โดยยืนยันว่า ตนพร้อมนำพาประเทศชาติให้ผ่านพ้นตรงนี้ไปให้ได้ ขอความร่วมมือจากพวกเราเท่านั้นเอง เพราะความเข้าใจอะไรที่ตื่นตระหนก ตนก็พยายามสร้างการรับรู้ใหม่ สร้างการรับรู้ที่ถูกต้องเข้าไปด้วยหลักการของกฎหมาย ตนต้องยึดกฎหมายเป็นหลักในการทำงาน ไม่ใช่ว่าจะทำเรื่องการเมืองอย่างเดียว แม้จะเป็นรัฐบาลอย่างนี้ก็ตาม วันนี้ขอร้องทุกคนแล้วว่า จะไม่ทำงานเพื่อการเมือง ต้องชี้แจงให้ตรงจุด เวลาตนพูดกับข้าราชการแล้วเข้าใจ แต่เวลาแถลงที่เป็นแบบราชการมากๆ สื่อก็ไม่เข้าใจอีก ประชาชนก็ไม่เข้าใจอีก อย่างวันนี้ที่ประชาชนบอกหลายอย่างว่าดี นายกฯ พูดดี แต่เวลาไปทำก็ทำไม่เป็น ตนไม่ได้ว่าส่วนราชการ แต่เป็นความผิดของรัฐบาลที่สื่อสารไม่เข้าใจ
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวด้วยว่า มาตรการหลายอย่างรัฐบาลออกมาเยอะแล้ว แต่เข้าไม่ถึง เพราะการสื่อสาร รัฐบาลต้องรับผิดชอบตรงนี้ ซึ่งตนไม่โทษหน่วยงาน โดยต่อจากนี้ทุกหน่วยงาน และทุกกระทรวงต้องทำทั้งหมด ในเรื่องให้บริการประชาชนและการลดใช้เอกสาร ที่บางพื้นที่ยังใช้อยู่ มันเกิดอะไรขึ้น ตนกำลังไล่ดูตรงนี้อยู่ ดังนั้น ขอให้แจ้งมาที่ทำเนียบรัฐบาลได้ส่งมาเลย ถ้าตรงไหนยังไม่ดีจะได้เล่นงานได้ถูกต้อง ซึ่งตนต้องรับผิดชอบทั้ง 77 จังหวัด ขอเถอะขอให้ตนได้ทำหน้าที่ให้ดีที่สุด อะไรที่เป็นความขัดแย้งก็ขอให้เบาๆ ลงหน่อย เพราะจะทำให้เกิดความไม่เชื่อมั่นอีก มีอะไรก็บอกมาแล้วกัน ตนก็อ่านจากท่านนั้นแหละ และนำมาสู่การสั่งการเป็นนโยบาย นายกฯ ทำงานในเชิงนโยบาย สั่งการ ตัดสินใจในรายละเอียด กระทรวงและหน่วยงานจะต้องรับผิดชอบกันต่อไป ใครทุจริตตรงไหนก็ฟ้องตรงนั้น
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “โอเคนะ สิ่งที่พูดไปใช้ได้นะ นายกฯ ตอบชัดเจนแล้ว เลิกว่าผมซะทีเถอะ เสาร์อาทิตย์ที่ผ่านมา งอมเต็มที ใจผมก็แย่ไปทุกวัน”
หลังจากนั้นผู้สื่อข่าวถามว่า “นายกฯเหนื่อยไหม” พล.อ.ประยุทธ์ นึกคิดและกล่าวตอบว่า “จะว่าเหนื่อยก็คงเหนื่อย แต่ไม่มาก ยังทนไหว ไม่ใช่ทนหรอก คือมันต้องปลุกตัวเองให้ได้ก่อนว่าต้องทำถ้าไม่ทำแล้วจะทำอย่างไรกันต่อไป วันนี้อย่างน้อยในช่วงที่ผมยังอยู่ก็จะทำให้ดีที่สุด มากน้อยอยู่ที่ประชาชนจะเข้าใจผมหรือไม่เข้าใจบางอย่างมันเกิดเร็วไม่ได้เกิดเร็วก็ล้มทุกที ฉะนั้น ถึงบอกว่าต้องเดินเป็นระยะและปรับเปลี่ยนไป โครงการไหนทำได้ก็ทำต่อโครงการไหนทำไม่ได้ก็ยกเลิก เพราะทุกอย่างเปลี่ยนไปตามสถานการณ์ ซึ่งคนรุ่นเก่าและคนรุ่นใหม่ความคิดก็ต่างกัน ฉะนั้น ความขัดแย้งก็ค่อนข้างสูง แต่ต้องทำให้ได้คือสิ่งที่รัฐบาลและผมมีเจตนารมย์อย่างนั้น ผมได้พูดกับครม.รองนายกฯ และ รัฐมนตรีทุกท่านไปแล้ว เราไม่ได้ทำการเมือง ในขณะที่บ้านเมืองมีปัญหาเราต้องทำงานในนามของรัฐบาล เพื่อประชาชนทั้งประเทศ เป็นรัฐบาลในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ตามรัฐธรรมนูญทุกประการ”
