เมื่อวันที่ 10 มี.ค. รศ.ดร.พิชาย รัตนดิลก ณ ภูเก็ต อาจารย์คณะพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อม สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) ในฐานะประธาน ครป. โพสต์ข้อความแสดงความเห็นเรื่อง นายกฯ จะเลือกทางไหนดี ภายใต้แรงกดดันในปัจจุบัน ระบุว่า
1. เฉยเมยไม่รับรู้ ไม่สนใจ ไม่แก้ไขแรงกดดันการเมือง ใครจะอยู่จะไป ก็ไปว่ากันเอง รัฐมนตรีจะดีจะชั่วก็คนของฉัน ฉันจะไม่ปรับออก ใครจะทำไม ฉันจะอยู่ไปเรื่อย ๆ แบบนี้แหละ
2. ปรับ ครม. เล็กๆ นำคนที่สังคมไม่ต้องการออกไป เอาใจแฟนคลับเล็กน้อย แต่ส่วนอิ่น ๆ ก็เหมือนเดิม
3. ปรับใหญ่ เอา ปชป. ออกไป ข้อหาหัวหน้าพรรคคุมสมาชิกไม่ได้ ปล่อยให้บางกลุ่มวิจารณ์รัฐบาลอยู่เรื่อย จากนั้นก็เอา เพื่อไทยมาเสียบแทน หากเป็นอย่างนั้นคงบาดหัวใจแฟนคลับน่าดู แต่ถึงที่สุดแล้วก็คงเงียบไปเอง
4.ลาออก อันนี้คงต้องรอไปอีกสักหนึ่งชาติ ไม่รู้หรือว่าในใจลึก ๆ ของบางคน อาจต้องการเป็นนายกฯ ที่ยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์ไทย
5.ยุบสภา อันนี้ก็เหมือนกัน คิดว่าจะยุบทำไม เพราะดีไม่ดีพรรคคู่แข่งได้ที่นั่งมากกว่า อาจทำให้ตนเองไม่ได้เป็นนายกฯในสมัยหน้า
6. อยู่ต่อ ปรับเล็ก และหนุนการแก้รัฐธรรมนูญ อันนี้เรียกว่าพยายามเอาใจทุกฝ่ายทั้งฝ่ายผู้สูงอายุและเยาวชน
7. อื่น ๆ … กรุณาเติมกันเอง แต่ใช้ภาษาสุภาพหน่อยนะครับ
มีข่าวว่า ขณะนี้มีกระแสการสร้างเงื่อนไขรัฐประหาร ใครคิดสร้างหรือคิดหนุน กรุณาเลิกคิด เลิกทำเสียเถอะครับ
รัฐประหารไม่ใช่ทางแก้ปัญหาประเทศ แต่ยิ่งทำให้ประเทศเสียหายยิ่งขึ้นไปอีกทั้งระยะสั้นและระยะยาว
ที่เราแย่ๆ จนใกล้วิกฤติทุกวันนี้ สาเหตุสำคัญอย่างหนึ่งเป็นผลพวงจากความไร้ฝีมืออย่างสิ้นเชิงของรัฐบาลที่มาจากการรัฐประหารเมื่อ ปี 2557
รัฐบาลที่แย่ ๆ ในปัจจุบัน ก็มาจากความคิดตื้น ๆ โดยออกแบบรัฐธรรมนูญที่พิกลพิการ เพื่อสืบทอดอำนาจของคณะรัฐประหารนั่นเอง