‘จุรินทร์’ แจ้งจับ ‘ลาซาด้า’ 3 คดี ฉวยวิกฤตไวรัส โขกราคาแพง

จุรินทร์-เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 11 มีนาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ แถลงข่าว ดำเนินคดีจับกุมคนขายหน้ากากอนามัยเกินราคา ว่า จากผลการดำเนินการติดตามครับผิดกฎหมายแพลตฟอร์มที่กระทรวงพาณิชย์ได้ตามและดำเนินคดีกับแพลตฟอร์ม ชื่อ ลาซาด้า จำนวน 3 คดี  คือ 1. ที่จ.นครปฐม โดยมีผู้ร้องเข้ามาที่สายด่วน 1569 ชื่อร้านขายยา ดีดี ฟาร์มาซี ที่ขายหน้ากากอนามัยเพื่อการแพทย์แบบสีเขียว บนลาซาด้า พบว่ามีการเตรียมส่งมอบชัดเจน พนักงานเจ้าหน้าที่ตั้ง 2 ข้อหา คือ 1.ขายเกินราคากำหนด ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน5ปี ปรับ 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ 2. ค้ากำไรเกินควร ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี ปรับ 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ทั้งนี้เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 11 มีนาคม เจ้าหน้าที่กระทรวงพาณิชย์ได้เข้าแจ้งความแล้ว เพื่อฟ้องร้องผู้จัดการใหญ่ของลาซาด้า ซึ่งพนักงานสอบสวนรับคดีเป็นที่เรียบร้อย

นายจุรินทร์ กล่าวว่า 2.จากการที่เจ้าหน้าที่ของกระทรวงพาณิชย์ติดตามคำร้องเรียนและล่อซื้อบนลาซาด้า พบว่ามีการขายหน้ากากอนามัย ทางการแพทย์สีเขียวในราคา 1,099 บาท หรือชิ้นละ 22 บาท โดยมีการเซ็นรับของเรียบร้อย โดยเมื่อวันที่ 10 มีนาคม เวลา 15.00 น. เจ้าหน้าที่ได้เข้าบันทึกปากคำบริษัทผู้ขนส่งปลายทางเรียบร้อยแล้ว และเจ้าหน้าที่ดำเนินคดีกับผู้จำหน่ายชื่อ ร้าน 928 เทรนดี้ ช็อป ย่านทรงวาด แต่พบว่าล่าสุดได้ปิดร้านไปเรียบร้อย จึงจะได้แจ้งความต่อตำรวจปคม. ที่ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะในข้อหาเดียวกัน 3.ดำเนินคดีต่อร้าน แอปพลายแอ้นต์แอนด์เซฟตี้(เอ็นเค) APPLIANCE & SAFETY (NK) ซึ่งขายหน้ากากอนามัยทางการแพทย์กล่องละ 1,299 บาท หรือราคาชิ้นละ 26 บาท ซึ่งขายเกินราคาและค้ากำไรเกินควร เจ้าหน้าที่จะได้ส่งดำเนินคดีต่อตำรวจปคม.ไปเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม ล่าสุดพบความพยายามที่จะหาลู่ทางค้ากำไรเกินควรโดยเปลี่ยนรูปแบบการขาย ไปเป็นขายตามราคาควบคุมคือแผ่นละ 2.50 บาท แต่จะคิดค่าขนส่งแพงมาก จึงขอเตือนว่านั่นเป็นการกระทำผิดกฎหมายเช่นกันเนื่องจากเข้าข่ายการขายเกินราคาและค้ากำไรเกินควร ต้องมีโทษตามกฎหมาย

ด้านนายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า กรณีนายพันธ์ยศ อัครอมรพงศ์ เลขาธิการพรรคภราดรภาพ สายตรวจกรมการค้าภายในได้มีการตรวจสอบแล้วพบว่ามีการกักตุนหน้ากาก 1,500 ชิ้น จึงออกหมายเรียกมาดำเนินคดี ข้อหาไม่แจ้งปริมาณการเก็บสินค้าคงเหลือ ซึ่งกรมการค้าภายในมีอำนาจจะเปรียบเทียบปรับได้เลย ซึ่งเป็นการขยายผลมาจากกรณีของนายศรสุวีร์ ภู่วีวัศวัชรี นอกจากนี้เมื่อตรวจสอบพบว่าตึกที่ใช้กักตุนเป็นที่ทำการของบริษัทไทยเฮลท์โปรดักส์ และสถานะของบริษัทมีนายพันธ์ยศ เป็นผู้ถือหุ้นในบริษัทไทยเฮลท์อินเตอร์เนชันแนล ซึ่งสถานะบริษัทได้ยกเลิกไปแล้วและเสร็จสิ้นการชำระบัญชีไปแล้ว ขณะนี้ถือว่าไม่มีบริษัทอีกต่อไป ซึ่งกระทรวงพาณิชย์กำลังดำเนินการตรวจสอบว่ามีการใช้ชื่อบริษัทนี้ในนามนิติบุคคลไปทำธุรกิจใดๆที่เกี่ยวข้องกับการขายหน้ากากอนามัยหรือไม่ ถ้าหากว่ามีก็จะมีความผิดตามกกฎหมาย

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image